ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 776

สรุปบท บทที่ 776 เธอเนี่ยนะ?: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

ตอน บทที่ 776 เธอเนี่ยนะ? จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 776 เธอเนี่ยนะ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่เขียนโดย เมียวเมียว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 776 เธอเนี่ยนะ?

เสียงหายใจที่หนักหน่วงเล็กน้อยของจิ้นเฟิงเฉินดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ เธอพยุงตัวเขาไว้ เจียงสื้อสื้อดูหนักที่ต้องแบกเขา

แต่เธอยังคงเรียกชื่อจิ้นเฟิงเฉินไม่หยุดหย่อน

หัวของจิ้นเฟิงเฉินมึนงงมาก สายตาของเขาเริ่มเบลอมากขึ้น มีเพียงเสียงที่กังวลอย่างมากของเจียงสื้อสื้อดังก้องเข้ามาในหู

“ผมถูกวางยา”

เขาพยายามอดทน และพูดประโยคนี้ออกมา

เขาอยากจะบอกกับเจียงสื้อสื้อว่าไม่ต้องเป็นห่วง เขาพักผ่อนก็คงดีขึ้น

เพียงแต่ยาเริ่มออกฤทธิ์ เขาไม่ทันได้พูดอะไรมากมายก็สลบไป

เมื่อ เจียงสื้อสื้อได้ยินคำว่า "ยาสลบ" เธอก็ตกตะลึงอย่างมาก

ไม่จำเป็นต้องพูดว่าเธอเองก็รู้ว่า ผู้หญิงคนนั้นวางยาสลบเขาทำไม

เธอคิดได้ว่าฝู้จิงเหวินเป็นหมอ เธอจึงรีบเรียกฝู้จิงเหวินเจ้ามาช่วย “ฝู้จิงเหวิน ทำยังไงดี จิ้นเฟิงเฉินถูกผู้หญิงคนนั้นวางยาสลบ ตอนนี้เราต้องทำยังไงดี เขาจะเป็นอะไรไหม?”

เสียงของเจียงสื้อสื้อสั่นเล็กน้อย ฝู้จิงเหวินเห็นสีหน้าที่กระวนกระวายของเธอแล้ว เขารู้สึกเจ็บปวด

ที่จริงเขารู้ว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่เป็นอะไร แต่เขาต้องแสร้งทำเป็นตกใจ เขาเดินเข้าไปและแสร้งทำเป็นตรวจสอบอาการของจิ้นเฟิงเฉิน

ในเวลานี้จิ้นเฟิงเฉินแค่สลบก็เท่านั้นเอง

ยานั้นคงไม่ใช่ยาเสน่ห์ แต่เป็นเพียงยาสลบที่ข่ายสื้อลินใช้เพื่อไม่ให้จิ้นเฟิงเฉินตุกติก

มิฉะนั้น ตอนนี้จิ้นเฟิงเฉินก็คงจะไม่อยู่ในสภาพแบบนี้

เมื่อเห็นฝู้จิงเหวินขมวดคิ้ว ใจของเจียงสื้อสื้อเองก็กังวลขึ้นมา

เจียงสื้อสื้อมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินที่หมดสติไป ความคิดของเธอว่างเปล่า เธอพูดด้วยความตื่นตระหนก “เป็นยังไงบ้าง? ต้องไปโรงพยาบาลไหม? ฉันไปขับรถมาดีกว่า"

ริมฝีปากของเธอขาวซีดเพราะวิตกกังวลมากเกินไป เธอหันหลังเตรียมออกไป

ฝู้จิงเหวินเอ่ยปากตะโกนห้ามเธอไว้ " ไม่ต้องไปแล้ว ไม่เป็นไรหรอก อาการแบบเขา แค่นอนหลับสักพักก็จะดีขึ้น ถ้าวุ่นวายขึ้นมา งานเลี้ยงก็จะพังเอานะ"

เมื่อคิดได้ว่าแขกของงานเลี้ยงยังไม่ได้เลิกงาน มันเป็นไปไม่ได้ที่ฝู้จิงเหวินจะไปจากห้องโถงจัดงาน

บวกกับเรื่องนี้ของจิ้นเฟิงเฉินไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้ได้ มิฉะนั้นอาจจะทำให้เป็นปัญหาต่อตระกูลฝู้ได้

เมื่อ เจียงสื้อสื้อได้เช่นนี้ เธอก็หยุดเดินทันที

เธอเดินกลับไปอย่างไม่ค่อยเชื่อเขา แล้วถามอย่างไม่แน่ใจว่า " จริงเหรอ? จะไม่มีผลข้างเคียงอะไรตามมาใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไรหรอก ส่งเขากลับไปที่ห้องก่อน”

เมื่อเขาพูดประโยคนั้น ฝู้จิงเหวินก็หอแห้งอย่างร้อนตัว เขาเลี่ยงสายตาของเจียงสื้อสื้อเล็กน้อย

จากนั้นเขาก็ช่วยพยุงจิ้นเฟิงเฉินเข้าไปในห้อง

ร่างกายของจิ้นเฟิงเฉินหนักมาก แม้ว่าฝู้จิงเหวินจะมาช่วยเธอ เธอเองก็ยังรู้สึกหนักมากเช่นกัน

เมื่อไปถึงห้อง ฝู้จิงเหวินก็ปล่อยมือทันที

ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาตั้งใจหรือไม่

เจียงสื้อสื้อทรงตัวไม่อยู่แล้วล้มลงบนเตียงกับจิ้นเฟิงเฉิน

เมื่อเช่นนี้ ฝู้จิงเหวินก็รีบมาดู และถามราวกับคนมีน้ำใจว่า "สื้อสื้อไม่เป็นไรใช่ไหม มือผมลื่นเลยจับเขาไม่อยู่"

คำแก้ตัวของเขาช่างดูไม่จริงจังเอาเสียเลย

เจียงสื้อสื้อสะบัดมือของเขาออก เมื่อสักครู่นี้เขาจงใจทำแบบนั้นอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าเธอไม่พยายามพยุงไว้ จิ้นเฟิงเฉินคงจะไปชนกับขอบเตียงแล้ว

เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

"ฉันไม่เป็นไร คุณควรไปดูแลงานเลี้ยงนะ ฉันอยู่ดูจิ้นเฟิงเฉินตรงนี้ก็พอ"

เมื่อพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ไม่สนใจเขาอีกต่อไป เธอหันกลับไปปลดกระดุมเม็ดบนสุดของจิ้นเฟิงเฉินออก เพื่อที่เขาจะได้หายใจสะดวก

คำพูดของเธอนั้นแฝงไปด้วยคำว่าไล่ และแน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ฝู้จิงเหวินจะฟังไม่ออก

เขาเหลือบมองชายบนเตียงอย่างเย็นชา จากนั้นก็ออกไปจากห้อง

อีกด้านหนึ่ง เจียงสื้อสื้อและหนูน้อยสองคนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของจิ้นเฟิงเฉิน

เถียนเถียนมองไปที่จิ้นเฟิงเฉินที่หลับอยู่บนเตียง อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามด้วยความเป็นห่วง

" หม่ามี๊ แด๊ดดี้เป็นอะไรไปคะ? ทำไมถึงยังไม่ตื่นขึ้นมา”

เจียงสื้อสื้อทำท่าทางให้เงียบๆ แล้วกอดเถียนเถียนไว้ในอ้อมแขน และกระซิบว่า " ตอนนี้แด๊ดดี้เหนื่อยมากค่ะ เพราะฉะนั้นเราอย่าไปรบกวนแด๊ดดี้นะคะ ถ้าเถียนเถียนง่วงนอน หม่ามี๊จะอุ้มหนูให้หนูนอนนะคะ”

เถียนเถียนกระโดดลงจากตัวเจียงสื้อสื้อ เธอนอนลงข้างลำตัวจิ้นเฟิงเฉินอย่างเชื่อฟัง

จากนั้นก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาทาบกับปากและกระซิบเบา ๆ ว่า " หนูจะนอนกับแด๊ดดี้ และหนูจะเชื่อฟังนะคะ"

ขณะพูดเธอก็หลับตาลง เธอดูเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยเลย

เจียงสื้อสื้อเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ

แล้วก็ปล่อยให้เธอนอนไป

เธอมองไปที่เสี่ยวเป่า เสี่ยวเป่าเข้าใจทันทีว่าเจียงสื้อสื้อหมายถึงอะไร เขารีบส่ายหน้าและพูดว่า

"หม่ามี๊ ผมสบายดี ถ้าหม่ามี๊เหนื่อยก็พักผ่อนเถอะครับ ผมดูแลแด๊ดดี้อยู่ครับ”

เสี่ยวเป่ารู้ว่าคืนนี้เจียงสื้อสื้อเหนื่อยมามากแล้ว ดังนั้นเขาจึงเป็นเด็กดีอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าเสี่ยวเป่าใส่ใจเช่นนี้ เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มและลูบหัวเสี่ยวเป่าแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊ขอพักผ่อนจะสักครู่นะ มีเรื่องอะไรอย่าลืมเรียกหม่ามี๊นะคะ”

หลังจากพูดจบ เจียงสื้อสื้อก็หมอบลงข้างเตียงของจิ้นเฟิงเฉิน

สองสามวันมานี้เธอไม่ค่อยได้นอนพักผ่อนดีๆ เลย เพราะเอาแต่ยุ่งเรื่องเตรียมงานวันเกิดของพ่อฝู้

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองแม่ลูกก็ส่งเสียงหายใจดังๆ ออกมา

เมื่อเห็นเช่นนี้ เสี่ยวเป่าก็ถอดชุดสูทตัวน้อยของเขาออกและวางไว้บนตัวเจียงสื้อสื้อ และยังปรับอุณหภูมิในห้องให้อบอุ่นขึ้นอีกด้วย

เมื่อเขาทำเรื่องพวกนี้เสร็จ เสี่ยวเป่าเองก็ง่วงขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามทนเพื่อไม่ให้หลับ

"แต่ว่า เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก สุดท้ายเขาก็ทนต่อความง่วงไม่ไหว และนอนหลับไปด้วยความงุนงง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!