บทที่ 805 ช่วงรุ่งโรจน์
หลังจากลิ้มลองขนมเค้กตรงหน้าหมดแล้ว ข่ายสื้อลินหยิบทิชชู่เปียกขึ้นอย่างสง่า แล้วเช็กไปที่ปาก จากนั้นถึงลุกขึ้นเดินจากไป
เวลานี้ ที่สนามบิน ในสุดที่จิ้นเฟิงเฉินก็มาถึงอิตาลี
เขาก้าวเดินอย่างเร่งรีบ กู้เนี่ยนเดินตามหลัง กำลังคุยโทรศัพท์ไปด้วย
เพิ่งจะลงจากเครื่อง ก็ติดต่อคนของเขาในอิตาลีทันที
ก่อนที่จะมา ได้ให้พวกเขาจัดวางกำลังไว้ก่อนแล้ว เพื่อจะได้ติดตามตรวจเช็กข่าวของเจียงสื้อสื้อกับฝู้จิงเหวิน
คุยได้สักพัก กู้เนี่ยนก็วางสายไป
จิ้นเฟิงเฉินถาม “ได้ข่าวอะไรบ้างไหม”
“คนของเรา ไม่สามารถติดตามเบาะแสของพวกคุณหญิงได้ทันเวลา สิ่งที่ยืนยันได้อย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาได้มาถึงอย่างปลอดภัย ส่วนร่องรอยอื่นๆ ได้ถูกคนลบออกไปหมดแล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินเดินตรงไปขึ้นรถด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
รถออกจากสนามบินอย่างรวดเร็ว แล้วไปถึงโรงแรมที่พัก
พอเดินเข้าห้อง จิ้นเฟิงเฉินถอดเสื้อคลุมออก นาฬิกาที่ข้อมือก็โผล่มา
มันเป็นเซ็นเซอร์แสงอินฟาเรดแบบพกพา และเป็นนาฬิกาติดตามตัวคนได้ด้วย
ด้านในได้ฝังชิปพิเศษที่ตระกูลจิ้นวิจัยขึ้นมา ยังมีโปรแกรมอัดเสียงโทรเข้าได้ด้วย
เพราะลักษณะภายนอกดูไม่แตกต่างจากนาฬิกาทั่วไป ดังนั้น คนทั่วไปจะไม่ค่อยให้ความสนใจมัน
เมื่อดูเวลา แล้วจิ้นเฟิงเฉินก็ถามขึ้นว่า “Kingมาถึงหรือยัง”
กู้เนี่ยนรับเสื้อคลุมจิ้นเฟิงเฉินมา แล้วกล่าวอย่างเคารพ“เพิ่งจะติดต่อไปเมื่อกี้นี้ เขาจะมาถึงในอีกยี่สิบนาทีนี้”
“อืม”
เมื่อจิ้นเฟิงเฉินได้ยิน ก็รับคำเรียบๆ แล้วนั่งลงที่โซฟา รอการมาถึงของ king
แต่ว่า เวลาแห่งการรอคอยช่างยาวนานเสียจริง
เพียงพอที่จะให้ฝู้จิงเหวินพาเจียงสื้อสื้อไปในที่ที่ตัวเองไม่รู้
สถาบันวิจัยใต้ดินของอิตาลีมีเยอะมาก สถานที่เฉพาะสำหรับใช้วิจัยยาและเชื้อโรคนั้นยิ่งมีเยอะจนนับไม่ถ้วน
ฝู้จิงเหวินในฐานะอัจฉริยะด้านการแพทย์ อยู่ระดับแนวหน้าด้านการศึกษามาตลอด หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการติดต่อกับห้องทดลองพิเศษ
การติดต่อแบบนี้ทำให้จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกกลัว เขากลัวว่าเจียงสื้อสื้อจะถูกคนพาไปทำการวิจัย
อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคตัวนี้สามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายคนได้นั้น เจียงสื้อสื้อยังคงเป็นเคสแรก
พวกนักวิจัยบ้าคลั่ง อยากได้คนแบบนี้ ให้พวกเขาใช้ในการวิจัยศึกษาอยู่แล้ว
พอคิดถึงสถานการณ์แบบนี้ สีหน้าจิ้นเฟิงเฉินยิ่งดูไม่ได้ นิ้วมือก็เคาะไปที่โต๊ะอย่างไม่หยุดยั้ง
กู้เนี่ยนมองออกว่าเขากำลังกังวล จึงรีบโทรหาkingอีกครั้ง “พี่ใหญ่ เมื่อไหร่พี่จะถึง นายจะอารมณ์ขึ้นแล้ว ถ้าไม่อยากตาย ต้องมาให้ถึงภายในห้านาทีนี้”
Kingเป็นลูกน้องของจิ้นเฟิงเฉิน งานหลักคือรับผิดชอบธุรกิจทางอิตาลี
เมื่อได้รับคำสั่ง กำลังรีบมาโดยไม่ชักช้า
“ฉันกำลังใช้ความเร็วเทียบเท่าการเหาะเหินมาอยู่”
หลังจากสี่นาทีผ่านไป ชายลูกครึ่งร่างสูงโปร่ง มาถึงโรงแรมในที่สุด
ลูกน้องที่เดินตามหลังเป็นขบวนก็ก้าวเท้าตามอย่างเร่งรีบ
เมื่อเข้าห้องมาแล้ว Kingก็ทักทายด้วยความเคารพทันที “ ลูกพี่ ผมมาแล้ว ”
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า ไม่พูดพร่ำเพื่อ พูดตรงไปตรงมา “ฉันต้องการให้แกช่วยไปตรวจสอบคนสองคน คนหนึ่งชื่อฝู้จิงเหวิน วันนี้เพิ่งจะมาถึงอิตาลี และอีกคนชื่อเบอร์เกน ไปตรวจสอบสถานการณ์ภาพรวมของพวกเขา ”
เมื่อKingได้ยินเช่นนั้น รีบกล่าวทันที “คราวก่อนซูหานก็ได้ติดตามตรวจสอบเรื่องเบอร์เกนอยู่ เขาน่าจะรู้เรื่องนี้ ผมจะให้เขารีบถ่ายโอนข้อมูลมาให้ทันที ”
Kingพูดจบ ทำสัญญาณมือให้ลูกน้อง ติดต่อเห้อซูหานทันที
หลังจากนั้นไม่นาน Kingก็ได้รับข้อมูล แล้วรีบยื่นส่งให้จิ้นเฟิงเฉินทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!