จิ้นเฟิงเฉินทนต่อการเร่งรีบของเจียงสื้อสื้อไม่ได้ เขายิ้มอ่อนแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
เดิมทีเจียงสื้อสื้อกะว่าจะรอให้จิ้นเฟิงเฉินออกมาก่อนแล้วค่อยนอนพร้อมกัน
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ทันทีที่เธอนั่งลงบนเตียง ความง่วงก็ลอยเข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเวียนหัวไปหมด
จิ้นเฟิงเฉินเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับผมสั้นที่ยังเปียกชื้น
ห้องนอนไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ มีแค่โคมไฟตั้งโต๊ะสีอุ่นเล็กๆตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
และเจียงสื้อสื้อก็นอนหลับอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่เงียบสงบของเธอทำให้ใจของจิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะหลงใหล
ข้างๆเจียงสื้อสื้อ ท่านอนหลับที่ไม่ได้ดูสง่างามแต่ช่างน่ารักของเถียนเถียน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
เถียนเถียนนอนอยู่ตรงนั้น หน้าท้องที่ขาวและเนียนนุ่มโผล่ออกมาข้างนอก
จิ้นเฟิงเฉินเช็ดหยดน้ำส่วนเกินออกจากผม เอาผ้าห่มผืนบางๆมาห่มให้กับสองแม่ลูก
แต่เขาเองกลับหันหลังเดินออกไปจากห้องนอน ไปทำงานวันนี้ของบริษัทที่ยังทำไม่เสร็จต่อที่ห้องหนังสือ
เขาพึ่งจะออกไปจากห้องนอนได้ไม่นาน เถียนเถียนก็ตื่นพอดี
เธอขยี้ตาของตัวเอง หันหน้าไปกำลังจะตะโกนเรียนคน ถึงได้เห็นว่าหม่ามี๊ของตัวเองนอนหลับไปแล้ว
เถียนเถียนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะไม่ปลุกเจียงสื้อสื้อตื่น
เธอปีนลงมาจากเตียงอย่างระมัดระวังและเดินออกมาจากห้องนอน
เธอยื่นหน้าเหลือบไปมอง เห็นว่าไฟในห้องหนังสือยังเปิดอยู่ ก็เลยวิ่งเข้าไปในห้องหนังสือด้วยเท้าเปล่า
“แด๊ดดี้!”
เถียนเถียนตะโกนออกมาคำหนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าหม่ามี๊นอนหลับอยู่จึงรีบปิดปากตัวเองไว้
วิ่งเข้าไปข้างๆจิ้นเฟิงเฉินราวกับผีน้อย ยื่นมือออกไปอยากให้เขาอุ้ม
“ลูกรัก ทำไมตื่นแล้วล่ะ แด๊ดดี้เสียงดังทำให้หนูตื่นหรือเปล่า?”
จิ้นเฟิงเฉินก้มตัวลงไปอุ้มเถียนเถียนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน แล้วให้เธอนั่งลงบนตัก
“หนูนอนไม่หลับ แล้วหนูก็ไม่ได้ทำให้หม่ามี๊ตื่นด้วย แด๊ดดี้ดูสิว่าหนูเก่งแค่ไหน!”
เถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมาราวกับตัวเองได้ทำความดีความชอบ ดวงตาที่เหมือนกับลูกองุ่นราวกับกับว่าพูดจาได้ กะพริบอยู่ตลอด
ทั้งใบหน้าเขียนคำว่า “รีบชมหนู” อยู่สามคำ
จิ้นเฟิงเฉินอดหัวเราะไม่ได้ ลูบที่หัวของเถียนเถียนเบาๆ “ใช่แล้ว เถียนเถียนของเราเก่งที่สุดเลย แต่ว่าตอนนี้แด๊ดดี้จะทำงาน หนูไปเล่นอยู่ข้างๆได้ไหม?”
เถียนเถียนทำท่าทางครุ่นคิดอย่างเคร่มขรึมอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า
กระโดดลงจากตักของจิ้นเฟิงเฉินด้วยตัวเอง เล่นคนเดียวอยู่ข้างๆอย่างรู้ความ
แต่เด็กน้อยล้วนแต่มีพลังเหลือล้นอยู่แล้ว เล่นอยู่คนเดียวมันน่าเบื่อเกินไป
ผ่านไปไม่นาน เถียนเถียนก็เดินเข้ามาอีกครั้ง พยายามปีกขึ้นไปบนตักของจิ้นเฟิงเฉินอย่างยากลำบาก จากนั้นก็มุดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
จิ้นเฟิงเฉินกินไม่เข้าคายไม่ออก ใช้แขนข้างหนึ่งอุ้มหนูน้อยแล้วทำงานต่อ
สายตาของเถียนเถียนมองไปรอบๆกองเอกสารและสมุดโน้ตที่อยู่ตรงหน้าจิ้นเฟิงเฉิน
แต่ว่าหนูน้อยก็อ่านไม่ออก ผ่านไปไม่นานก็รู้สึกเบื่อ หันหน้าแล้วยื่นมือเล็กๆออกไปบีบที่แก้มของจิ้นเฟิงเฉิน
“แด๊ดดี้ เล่นกับเถียนเถียนหน่อยซิ”
“แด๊ดดี้~”
น้ำเสียงอ้อนวอนของหนูน้อย สำหรับจิ้นเฟิงเฉินแล้ว เขาไม่อาจต้านทานได้
ยิ่งไปกว่านั้นหนูน้อยวุ่นวายขนาดนี้ เขาก็จดจ่ออยู่กับการทำไม่ได้อยู่ดี
จิ้นเฟิงเฉินไม่มีทางเลือก ทำได้แค่วางงานในมือลงชั่วคราวแล้วไปเล่นกับเถียนเถียน
ดีตรงที่เด็กผู้หญิงไม่เหมือนกับเด็กผู้ชาย หลอกล่อหน่อย เล่นด้วยหน่อย เดี๋ยวพลังก็หมดไปเอง
ผ่านไปไม่นานก็ถูกจิ้นเฟิงเฉินกล่อมนอนหลับคาอ้อมแขน
เขาไม่รีบพาเถียนเถียนกลับไปนอนบนเตียงในห้องนอน แต่กลับอุ้มเธอไปทำงานต่อ
ดึกกว่านี้อีกสักหน่อย แน่ใจว่าเถียนเถียนหลับสนิทแล้ว ถึงได้อุ้มเธอก็กลับไปที่ห้องนอน
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆวางเถียนเถียนลงบนเตียง และเขาก็เอนตัวลงไปอยากจะจูบที่หน้าผากของเจียงสื้อสื้อเบาๆ
ในขณะที่ริมฝีปากอันบอบบางแตะเข้าไปที่หน้าผากเธอ เขาถึงกับตกใจกับอุณหภูมิร้อนที่ผิดปกติ
“สื้อสื้อ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!