มองดูแผ่นหลังของฟางเฉิงที่กำลังโมโห แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมา จิ้นเฟิงเหราก็หัวเราะออกมาอย่างไม่มีศีลธรรม
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลงมองเอกสารที่อยู่ในมือ
ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จิ้นเฟิงเหราตัดสินใจว่าจะเอาเอกสารไปให้จิ้นเฟิงเฉิน
เหมือนกับที่พูดไปเมื่อกี้
แยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบฟางเฉิงสักเท่าไหร่ แต่เขาก็เป็นนักธุรกิจ
เป็นไปไม่ได้ที่มีธุรกิจมาถึงหน้าประตู แล้วยังจะปฏิเสธ
จิ้นเฟิงเหราถือเอกสารและเดินไปที่ห้องทำงานของคุณท่านจิ้นทันที
“พี่...คุณท่านจิ้น”
จิ้นเฟิงเหราที่ผลักประตูเปิดออก เห็นว่ามีคนอยู่ข้างใน เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที
จิ้นเฟิงเฉินลืมตาขึ้นมองไปที่จิ้นเฟิงเหรา พยักหน้าเบาๆให้กับพนักงานที่กำลังรายงานความคืบหน้าอยู่ข้างหน้า บอกให้เขาออกไป
หลังจากที่พนักงานออกไปแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็เดินเข้าไปหาจิ้นเฟิงเฉินอย่างเป็นธรรมชาติ โยนเอกสารในมือลงบนโต๊ะแล้วดึงเก้าอี้มานั่ง
“อาคนนั้นมาคุยเรื่องธุรกิจจิ้นเฟิงเฉินริงๆ พี่ พี่ลองดูสิ นี่คือเอกสารที่เขาเอามาด้วย”
จิ้นเฟิงเฉินตอบด้วยเสียงต่ำ แต่ไม่ได้รีบหยิบเอกสารขึ้นมาดู แต่ทำงานที่อยู่ในมือต่อ
เห็นว่าจิ้นเฟิงเหรายังไม่มีท่าทีว่าจะออกไปสักที จิ้นเฟิงเฉินก็เงยหน้าขึ้นและถามเขาเบาๆว่า “นายไม่กลับไปห้องทำงาน อยู่ทำอะไรที่นี่?”
จิ้นเฟิงเหรายิ้มแล้วเทกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่ง
“แน่นอนว่ารอคำตอบจากคุณท่านจิ้นน่ะสิ อาคนนั้นยิ่งรีบๆอยู่”
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูดไม่จา
น้องของเขาเองเขายังจะไม่รู้อีก? เห็นได้ชัดว่าเขาอยากจะอู้งาน แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร
ให้จินเฟิงเหยาอยู่ที่นี่
จิ้นเฟิงเหรามองดูสัญญาโปรเจกต์ที่กองซ้อนกันอยู่เยอะแยะ เขาลังเลอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “พี่ พี่ดูโปรเจกต์นั้นหน่อยเถอะ”
จิ้นเฟิงเฉินครู่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วก็หยิบเอกสารนั้นขึ้นมาเปิดดู
ถ้าฟางเฉิงไม่ใช่อาของเจียงสื้อสื้อ เขาคงไม่ที่ทางแตะต้องเอกสารนี้แม้แต่น้อย
ไม่ดูก็ดีอยู่แล้ว พอดูเท่านั้นแหละ จิ้นเฟิงเฉินก็ขมวดคิ้วแน่น นิ้วที่เรียวยาวของเขาก็พลิกเอกสารในมือต่อไปเรื่อยๆ
เป็นโปรเจกต์เครื่องมือทางการแพทย์
มีโปรเจกต์ที่คล้ายกันเยอะแยะ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่โปรเจกต์นี้ใหญ่มาก มันเกินความคาดคิดของเขา
ตระกูลฟางรับโปรเจกต์นี้มาเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งเดียวที่ทำให้จิ้นเฟิงเฉินสงสัยก็คือ ลูกค้าของโปรเจกต์นี้
เป็นบริษัทอิตาลีที่มีชื่อว่า“SAกรุ๊ป”
จิ้นเฟิงเหราเห็นว่าสีหน้าของเขาแปลกๆ เขาเลยมองไปที่ชื่อของลูกค้าและถามขึ้นมาทันทีว่า “พี่ บริษัทนี้มีปัญหาเหรอ?”
“ไม่มีอะไร”
บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทในประเทศ จิ้นเฟิงเหราไม่เข้าใจเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เอาสัญญาวางไว้ข้างๆแล้วเปิดดูโปรเจกต์อื่นต่อ
“เก็บโปรเจกต์นี้ไว้ก่อน ฉันจัดการเอง นายกลับห้องทำงานของนายไปได้แล้ว”
จิ้นเฟิงเหราลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปจากห้องทำงาน
ทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง จิ้นเฟิงเฉินก็หันไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ทันที
มือที่บอบบางของเขาคลิกลงบนแป้นพิมพ์ ข้อมูลที่เขาต้องการก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
SAกรุ๊ปคือบริษัทของอิตาลีที่ทำการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และยานำเข้าต่างๆ
หาข้อมูลที่เป็นประโยชน์บนอินเทอร์เน็ตไม่เจอ จิ้นเฟิงเฉินก็เลยปิดคอมพิวเตอร์แล้วครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
เงื่อนไขของโปรเจกต์ที่ฟางเฉิงและSAกรุ๊ปเสนอมานั้นน่าสนใจจริงๆ
แต่เงินที่ฟางเฉิงต้องการลงทุนในระยะแรกไม่ใช้จำนวนน้อยๆ
นั่นมันไม่ใช่แค่เรื่องที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงินหนึ่งหรือสองร้อยล้านเท่านั้น ไม่แปลกใจที่เขาจะนึกถึงจิ้นกรุ๊ป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!