“ชิ!”
ชีซากลอกตามองด้วยความเบื่อหน่าย “ทำไมคุณถึงน่าเบื่อจริงๆเลย”
เมื่อพูดจบเธอก็วางสายไป
แม้ว่ามองไปแล้วจะดูว่าเธอรู้สึกรังเกียจ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จิ้นเฟิงเฉินติดหนี้บุญคุณใคร
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองจิ่น ไม่รู้ว่าจะมีคนมากเพียงใดต้องการให้จิ้นเฟิงเฉินติดหนี้บุญคุณพวกเขา
จิ้นเฟิงเฉินโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้างๆและเริ่มจัดการกับงานที่ทำอยู่ เมื่อถึงเวลาเที่ยงกู้เนี่ยนก็ได้เข้ามาบอกเขาว่า มีสองการประชุมที่ต้องเข้าร่วม
เขายุ่งกับการทำงานมาทั้งวัน จนกระทั่งมาถึงเวลากลางคืนโดยไม่รู้ตัว
หลังจากทำงานในมือเสร็จแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็เหลือบมองไปยังท้องฟ้านอกหน้าต่าง เขาจึงลุกขึ้นและออกจากบริษัทไป
เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ได้พบกับเข้ากับจิ้นเฟิงเหรา
เมื่อจิ้นเฟิงเหราเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนัก และนึกถึงเรื่องที่บริษัทเมื่อตอนบ่าย จึงได้ถามขึ้นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับสัญญาของฟางเฉิงหรือไม่
จิ้นเฟิงเฉินพูดกับเขาเพียงสองสามคำ จากนั้นก็เดินไปที่ห้องหนังสือกับเขาเพื่อคุยกันถึงเรื่องโครงการอื่นๆของบริษัท
ในระหว่างนั้น เจียงสื้อสื้อได้เดินถือชาและของว่างเข้ามาให้พวกเขา จากนั้นก็เดินออกไปอย่างแผ่วเบา
เขายุ่งอยู่กับงานจนถึงเที่ยงคืน ก่อนจะเลิกงานและกลับไปที่ห้องนอน
เจียงสื้อสื้อยังไม่หลับ เธอเอนกายไปที่หัวเตียงในมือถือหนังสือและอ่านมันอยู่เงียบๆ ดูเหมือนว่าจะรอเขาอยู่
เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็รีบปิดหนังสือแล้ววางมันลงบนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นลุกจากเตียงแล้วกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉิน
“ทำเสียจนดึกขนาดนี้เลยเหรอคะ?”
เจียงสื้อสื้อกอดเอวอันแข็งแกร่งของจิ้นเฟิงเฉินแน่นและพูดออกมาเบาๆ
“แล้วทำไมคุณไม่ไปนอนก่อนล่ะครับ?” จิ้นเฟิงเฉินโน้มตัวแล้วโอบอุ้มคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาขึ้นมาวางไว้บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ฉันอยากอยู่กับคุณ”
เจียงสื้อสื้อกอดคอของเขาแน่น น้ำเสียงของเธอดูออดอ้อนเป็นพิเศษ
ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินดูอ่อนลง และเขากระซิบว่า “เด็กดี”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าเธอกำลังถูกจิ้นเฟิงเฉินโอ๋เสียจนเคยตัว
ตอนนี้เธอไม่สามารถหลับเองได้หากไม่มีจิ้นเฟิงเฉินกอดเธอไว้
“ฉันคงจะนิสัยเสียเพราะคุณเข้าสักวันแน่ๆ” เจียงสื้อสื้อหลับตาและพึมพำออกมา
จิ้นเฟิงเฉินหัวเราะขึ้นมาทันที เขาลูบหัวเจียงสื้อสื้อและตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ต่อให้นิสัยเสีย ก็ยังคงเป็นภรรยาของผม”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกมีความสุขมาก เธอซุกใบหน้าเล็กๆของเธอไว้ในอ้อมแขนของจิ้นเฟิงเฉิน ทำท่าทางไร้เดียงสา
อะไรจะสุขใจไปกว่าการถูกเขาเอาแต่ใจได้อีก?
ขณะเดียวกันที่จิ้นเฟิงเฉินกำลังคิดว่าจะคุยกับเธอเกี่ยวกับความร่วมมือกับฟางเฉิงที่เดินทางมาบริษัทในวันนี้ดีหรือไม่ แต่จู่ๆลมหายใจของหญิงสาวตัวเล็กในอ้อมแขนของเขาก็เริ่มคงที่
จิ้นเฟิงเฉินมองลงมายังใบหน้าที่หลับใหลและเงียบสงบของเจียงสื้อสื้อ
ความอบอุ่นแผ่ออกมาจากหน้าอกของเธอ จิ้นเฟิงเฉินก้มศีรษะและจูบหน้าผากเธอ
ปัญหาที่พบเจอมาระหว่างวันก็หายไปจนสิ้น
“ราตรีสวัสดิ์ครับ สื้อสื้อของผม”
เสียงนุ่มนวลของเขาดังขึ้นในห้องอันสงบ
เมื่อจิ้นเฟิงเหรามาที่บริษัทในวันรุ่งขึ้น จิ้นเฟิงเฉินได้จัดการงานส่วนใหญ่ของเขาอย่างเรียบร้อยกว่าครึ่งแล้ว
“พี่......”
“ฉันจะดูแลโครงการของฟางเฉิงเอง ไม่ต้องห่วง”
เขาไม่ได้รอให้จิ้นเฟิงเหราเดินตรงเข้ามาถึง ก็ได้พูดประโยคนี้ออกมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!