หัวค่ำ เมฆบนขอบฟ้าเต็มไปในท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ สวยงามมาก
จิ้นเฟิงเฉินกลับไปถึงคฤหาสน์ตระกูลจิ้น ไม่เห็นเจียงสื้อสื้อในห้องรับแขก จึงถามแม่บ้าน
รู้ว่าสื้อสื้ออยู่หลังบ้าน เขาก็เดินไปหลังบ้าน
ยังไม่ได้เดินออกไป ก็ได้ยินเสียงของสื้อสื้อดังมา เธอนั่งบนเก้าอี้ อยู่ด้านหลังเขา เหมือนกำลังคุยโทรศัพท์กับใคร
เขาจึงหยุดเดิน พิงอยู่ข้างประตูกระจกหลังบ้าน มองหลังสื้อสื้อด้วยสายตาอ่อนโยน
ผมยาวพาดบ่าปลิวไปตามลม เสียงหวาน “คุณตา ที่คุณตาพูดมาหนูรู้หมด วางใจได้ แล้วคุณตา ช่วงนี้ร่างกายเป็นยังไงบ้าง?”
ที่แท้คุยโทรศัพท์กับคุณท่านฟาง
เจียงสื้อสื้อรู้สึกใกล้ชิดกับคุณตาท่านนี้ที่เพิ่งเจอกันไม่นาน อาจจะเป็นเพราะเธอรับรู้ได้ถึงความรักใคร่ที่คุณท่านฟางมีต่อเธอ
อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่มีต่อแม่ของเธอ รวมกับความรู้สึกผิดที่มีต่อเธอ
แต่ว่า เจียงสื้อสื้อไม่ใส่ใจว่าเพราะอะไร กลับกัน เธอรู้สึกทะนุถนอมความสุขที่มีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้น
คุณท่านฟางรู้ว่าเธอเป็นห่วงเรื่องสุขภาพเขา รีบพูดว่า “ร่างกายตาแข็งแรงมาก แต่ว่า ตาคิดถึงเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียน ทั้งสองคนกลับไปกี่วัน ตาก็คิดถึงกี่วัน......”
ความหมายในคำพูดก็คือ เขาอยากเจอเหลนทั้งสองคน
เจียงสื้อสื้อได้ยินคำพูดของคุณตา ก็รู้สึกว่าน่ารัก
“คุณตา นี่แค่ไม่กี่วันเอง?” เจียงสื้อสื้อกลั้นหัวเราะไว้ ตั้งใจล้อเล่น
คุณท่านฟางทำเสียงเห้อไปทีหนึ่ง “หนูไม่เคยได้ยินคำว่า ห่างกันหนึ่งวันเหมือนหนึ่งปีเหรอ?”
“ใช่ใช่ใช่ คุณตาพูดถูก”
เจียงสื้อสื้อเออออจามคุณท่านฟางไป ก็หัวเราะอย่างมีความสุขด้วย
เธอรู้สึกได้ว่า คุณท่านฟางชอบเด็กสองคนอย่างจริงใจ
“ไม่ว่ายังไง ช่วงนี้ถ้าตาว่างก็จะไปเยี่ยมพวกเราที่เมืองจิ่น ไม่อย่างงั้นในใจก็คิดถึงตลอด......” คุณท่านพูดไม่หยุด
ส่วนเจียงสื้อสื้อก็ฟังอย่างมีความอดทน รับคำบ้าง หัวเราะอย่างดีใจ ไม่รู้สึกเบื่อแม้แต่น้อย
จิ้นเฟิงเฉินที่ดูอยู่ข้างหลังอยู่นานแล้ว สายตาก็อ่อนโยนลง เขาไม่ได้ส่งเสียงรบกวน แต่ยิ้มหันกลับไป เดินออกไปเบาๆ
เขาขึ้นห้องหนังสือชั้นบน เพิ่งวางมือถือไว้บนโต๊ะหนังสือ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินก้มไปดูอย่างใจเย็น ฟางยู่เชินโทรมา
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รับสาย ก็ได้ยินเสียงขอบคุณของฟางยู่เชินดังขึ้น
“น้องเขยวันนี้คุณชายของตระกูลจี้ ตระกูลหยุน ตระกูลจิ่งทั้งสามตระกูล เข้ามาคุยเรื่องร่วมงานกับผม ผมรู้ ต้องเป็นคุณแน่นอนที่ให้ความช่วยเหลือ ขอบคุณมาก”
ฟังคำขอบคุณของฟางยู่เชินที่น้ำเสียงดีใจ จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ยิ้ม “คนบ้านเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจ พวกเขายอมร่วมงานกับคุณ ก็เป็นเพราะความสามารถของคุณ คุณรักษาโอกาสไว้ดีๆ”
ได้รับกำลังใจอย่างหนักแน่นของจิ้นเฟิงเฉิน ฟางยู่เชินรู้สึกตื่นเต้น ในใจเต็มไปด้วยแรงสู้ “อืม แน่นอน”
จากนั้น ทั้งสองก็คุยไปนิดหน่อย ก็วางสาย
ในใจฟางยู่เชินจำความดีของจิ้นเฟิงเฉินไว้ วันหลังเขาต้องตอบแทนแน่
จิ้นเฟิงเฉินก้มหน้าทำงาน ครู่เดียว ประตูห้องหนังสือก็มีเสียงเคาะเบาๆ
เงยหน้า ก็เห็นเจียงสื้อสื้อมือถือถาดผลไม้ เดินเข้ามาในห้องหนังสือ
เธอยิ้มหวาน จนตางอนเป็นเสี้ยวพระจันทร์ ประกายดั่งดาว
จิ้นเฟิงเฉินเจียงสื้อสื้อเดินมาทีละก้าว จะมีใจทำงานได้ยังไง?
“กลับมาจากบริษัทก็ทำงานต่อเลย เหนื่อยไหม? พักผ่อนกินผลไม้หน่อยค่ะ” เจียงสื้อสื้อรู้สึกเป็นห่วง หลายวันนี้จิ้นเฟิงเฉินยุ่งทั้งในและนอกบ้าน กลับถึงบ้านแล้วยังทำงานต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!