จอห์นจับจ้องจิ้นเฟิงเฉิน ไม่อยากพลาดถึงปฏิกิริยาของเขาแม้เพียงเล็กน้อย
จิ้นเฟิงเฉินได้ยินว่างานวิจัยถูกขโมย เขาตกใจ “งานวิจัยโดนขโมย เกิดอะไรขึ้นครับ”
จอห์นจ้องมองเขาไม่ได้พูดอะไร
แกล้งทำเป็นว่าไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เกรงว่าจะไม่ได้
ดังนั้น จิ้นเฟิงเฉินเงียบไปชั่วครู่ ทำเป็นถามล้อเล่นบวจริงจัง “คุณจอห์น คุณกำลังสงสัยผมอยู่เหรอครับ”
จอห์นยังคงเงียบ
แรกเริ่มเขาสงสัยจิ้นเฟิงเฉินอยู่บ้าง เมื่อได้คุยเมื่อสักครู่แล้ว ความสงสัยไม่ได้ลดลงทว่ากลับเพิ่มขึ้น
จิ้นเฟิงเฉินไม่พลาดแม้เล็กน้อย และไม่ได้แสดงออกถึงอะไรที่แปลกไป แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ยิ่งน่าสงสัย
ตอนนี้ดูว่าเขายังมีอะไรจะพูด
จิ้นเฟิงเฉินหลุบตาลง สายตาจ้องไปยังมือที่วางอยู่บนขา ชั่วขณะรอบข้างต่างเงียบสงัด
ใบหน้าเขาเข้มราวกับน้ำ ดูแล้วไม่มีอะไรแปลกไป ทว่าร่างกายกลับเผยไอเย็นที่ทำให้คนมองรู้สึกกดดัน
แม้กระทั่งจอห์นที่กำลังจับสังเกตยังรู้สึกหวาดกลัว
แต่เมื่อนึกถึงสถานะของตนเอง จึงรีบยืดตัวขึ้น ไม่อยากให้ตัวเองโดนกดลงไป
เนิ่นนาน จิ้นเฟิงเฉินจึงเหลือบตา มองเขาด้วยสายตาไร้อุณหภูมิ
เมื่อสัมผัสกับสายตาของเขา จอห์นพลันหลบตา แต่เมื่อหลบตาแล้วจึงรู้สึกคิดผิด
นี่ไม่ได้หมายถึงว่าตนเองกำลังกลัวเขาอยู่เหรอ
ในตอนที่เขากำลังสับสน จิ้นเฟิงเฉินก็เอ่ยปาก “คุณจอห์น ผมผิดหวังมากนะครับ”
เมื่อเอ่ยออกไป หัวใจของจอห์นก็กระตุกวูบ ทว่าใบหน้ายังคงนิ่ง แสร้งถามเขาราวกับไม่เข้าใจ “คุณเฟิง ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงครับ”
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเย็น “ครั้งนี้ผมตั้งใจมาที่อิตาลี เพื่อมาร่วมมือกับบริษัทของคุณด้วยความจริงใจ...”
เขาหยุดเล็กน้อย ยกกาแฟขึ้นจิบ เอ่ยต่อ “เพื่อแสดงความจริงใจของผม มาส่งวัตถุดิบด้วยตนเอง แต่ว่า...ไม่คิดว่าคุณจอห์นจะสงสัยผม”
จิ้นเฟิงเฉินยากที่จะปกปิดใบหน้าที่แสดงความผิดหวัง
ความจริงจอห์นเพียงแค่สงสัย ไม่มีหลักฐานว่ายาที่ถูกขโมยไปและส่วนที่โดนเผาไหม้เป็นฝีมือเขา”
บวกกับเฟิงเฉินคนนี้เป็นหุ้นส่วนของบริษัท
อาศัยเพียงมุมมองของเขามาสงสัยอีกฝ่ายคงไม่ถูก
จอห์นครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “คุณเฟิง คุณเข้าใจผิดแล้วครับ ผมไม่ได้สงสัยคุณ ไม่มีเลยสักนิด”
“อ้อ เหรอครับ” จิ้นเฟิงเฉินถามกลับเสียงเรียบ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ
“คุณเฟิง การร่วมมือของเรา ไม่เพียงแต่ความจริงใจของคุณ แต่ยังมีความจริงใจของผมด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์”
จอห์นพูดด้วยท่าทางจริงจัง
จิ้นเฟิงเฉินเหยียดหยามอยู่ในใจ แต่ก็ยังคงบอก “คุณจอห์นผมก็แค่พ่อค้าวัตถุดิบ จะมีความสามารถขนาดนั้นได้ยังไง”
จอห์นหัวเราะแห้ง เอ่ย “ครับ ผมรู้ ผมไม่คิดสงสัยคุณ คุณเข้าใจผิดแล้วจริงๆ ผมแค่คิดว่าเรื่องครั้งนี้มันแปลกประหลาด SAของเราต้องรีบสืบให้ชัดเจนแน่นอนครับ”
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณครับ เรื่องครั้งนี้มันบังเอิญจริงๆ ถ้าหากมีอะไรให้ช่วย รีบบอกทันทีเลยนะครับ” จิ้นเฟิงเฉินคลายคิ้วลง เอ่ยกำชับ
“ครับ ต้องขอบคุณคุณเฟิงด้วยนะครับ”
แม้จะไม่ได้เชื่อเขาทั้งหมด ทว่าใบหน้าของจอห์นยังคงยิ้ม
ตอนนี้วัตถุดิบถูกเผา เขายังต้องพึ่งชายตรงหน้านำยาชุดใหม่มาให้ ดังนั้นจำเป็นต้องก้มหัวให้ก่อน
จิ้นเฟิงเฉินมองนาฬิกา เอ่ยขึ้นมา “คุณจอห์นมาเช้าขนาดนี้ คงยังไม่ได้ทานอาหารเช้า จะทานด้วยกันไหมครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!