ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 926

หลังจากเจียงสื้อสื้อกินเข้าไปแล้ว ไม่ได้มีการตอบสนองที่ไม่ดี ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายสบายขึ้นบ้าง

หัวใจของจิ้นเฟิงเฉินที่เคยกังวลในตอนนี้พลันกลับมาเป็นปกติ เขาเก็บยาอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้มันเสีย

ถึงแม้ว่ากินยาไปแล้วร่างกายจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่เจียงสื้อสื้อกลับไม่ได้ดีใจอย่างนั้น

เธอขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งขรึม

เห็นอย่างนั้นแล้วจิ้นเฟิงเฉินจึงครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “กำลังเป็นห่วงฝู้จิงเหวินเหรอ”

“อืม” เจียงสื้อสื้อไม่ได้ปฏิเสธ “เพื่อฉันแล้วเขาถึงได้ไปที่ห้องวิจัย ถ้าเขาถูกจับได้ ชีวิตก็จะตกอยู่ในอันตราย”

ที่เธอกลายเป็นแบบนี้ ฝู้จิงเหวินก็มีส่วนรับผิดชอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ถ้าเขาไม่ช่วยพวกเธอสองแม่ลูก ตอนนี้พวกเธอก็อาจจะไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

และคราวนี้เขาแอบเข้าไปในห้องวิจัยของเบอร์เกนโดยไม่คำนึงถึงอันตราย เพื่อต้องการช่วยเธอ

ถ้าเป็นเพราะเธอที่ทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นก็ไม่สามารถสู้หน้าพ่อแม่ของเขาได้ และก็จะอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

“สื้อสื้อ” จิ้นเฟิงเฉินจับไหล่เธอ มองตรงไปยังดวงตาเธอที่เต็มไปด้วยความกังวล พูดเน้นย้ำชัดเจนทีละคำทีละประโยค “ฝู้จิงเหวินเป็นคนฉลาด ก่อนที่จะวิจัยยาแก้พิษให้คุณออกมาได้ เขาจะไม่เป็นอะไร”

ทำไมฟังดูแล้วรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องนิดหน่อยล่ะ

เจียงสื้อสื้อเพิ่งอยากจะอ้าปาก แต่ก็ถูกเขาใช้นิ้วมาแตะปิดริมฝีปากเอาไว้

“ความหมายของผมคือคุณต้องเชื่อใจเขา เขาจะไม่เป็นไร คุณก็อย่าแบกรับความกังวลใจเกินไปนัก โอเคไหม”

เจียงสื้อสื้อเม้มปากแน่น ไม่ได้พูดอะไร

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มเล็กน้อย “ยัยโง่ ถ้าคุณไม่เชื่อเขาก็ต้องเชื่อผม ผมจะให้คนจับตามองทางฝั่งเบอร์เกนเอง”

ความหมายโดยนัยคือเขาจะไม่ยอมให้ฝู้จิงเหวินเกิดเรื่อง

“ขอบคุณค่ะเฟิงเฉิน” เจียงสื้อสื้อกางแขนออกโอบรอบเอวเขา ซบศีรษะบนไหล่ของเขาพลางพึมพำว่า “ขอโทษนะ ทั้งหมดเป็นฉันเองที่ทำให้พวกคุณเดือดร้อน”

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอติดเชื้อไวรัส พวกเขาก็ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเธอครั้งแล้วครั้งเล่า และก็ไม่จำเป็นต้องคอยอกสั่นขวัญแขวน

“ไม่ใช่ความผิดของคุณ”

จิ้นเฟิงเฉินยกมือขึ้นลูบเส้นผมของเธออย่างอ่อนโยน น้ำเสียงนุ่มนวลเหมือนหยดน้ำ “อย่าโทษตัวเอง มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลย”

ทั้งคู่กอดกันเงียบๆ บรรยากาศอบอุ่นไหลเวียนเนิบช้ารอบกายคนสองคน

……

ไม่ง่ายที่แม่ฝู้จะมาสักครั้ง เจียงสื้อสื้อจึงเสนอให้เธออยู่ต่ออีกสักสองสามวัน

“ได้จ้ะ แล้วแต่หนูเลย”

แม่ฝู้กอดเถียนเถียนพลางพยักหน้ายิ้ม

ที่จริงเธอก็ไม่อยากจากเถียนเถียนไป

“คุณย่าคะ งั้นคืนนี้นอนกับหนูนะคะ ได้ไหม” ใบหน้าเล็กของเถียนเถียนเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างตั้งตาคอย

แม่ฝู้บีบแก้มของเธอ สีหน้าเต็มไปด้วยความรัก “ได้จ้ะ”

มองดูคนแก่กับเด็กโต้ตอบกันแล้วเจียงสื้อสื้อก็ยิ้ม สายตาแฝงความอ่อนโยน

แม่จิ้นมีความสุขมากกับการมาของแม่ฝู้ ปกติเธออยู่กับการปลูกดอกไม้และอ่อนหนังสือ ซึ่งน่าเบื่อหน่าย ตอนนี้มีเพื่อนคุยเพิ่มขึ้นมา แล้วจะไม่มีความสุขได้อย่างไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าตอนนั้นเป็นครอบครัวฝู้ที่ช่วยเหลือสื้อสื้อกับเถียนเถียน พ่อจิ้นแม่จิ้นจึงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจอย่างมาก คิดหาวิธีต่างๆ ตอบแทนแม่ฝู้

แต่ถูกแม่ฝู้ปฏิเสธทั้งหมด

“สื้อสื้อก็เหมือนลูกสาวของฉัน เถียนเถียนเองก็เหมือนหลานสาวของฉัน พวกเธอสบายดีก็พอแล้วค่ะ” แม่ฝู้มองเจียงสื้อสื้อกับเถียนเถียนอย่างอ่อนโยน

ความรักที่เธอมีต่อพวกเธอทั้งหมดล้วนแสดงออกบนใบหน้า

พ่อจิ้นกับแม่จิ้นมองหน้ากัน ก่อนที่แม่จิ้นจะเสนอว่า “งั้นเอาแบบนี้เถอะค่ะ ช่วงเวลานี้ที่คุณอยู่เมืองจิ่น ก็ให้สื้อสื้อออกไปเดินเที่ยวเป็นเพื่อนคุณนะคะ”

เมื่อได้ยินดังนั้นแม่ฝู้จึงมองไปยังเจียงสื้อสื้อ “ได้ไหมจ๊ะสื้อสื้อ”

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ได้แน่นอนอยู่แล้วค่ะ”

แม่ฝู้ยิ้มรับ “เช่นนั้นก็ต้องรบกวนพวกคุณแล้วค่ะ”

ไม่กี่วันต่อมา เจียงสื้อสื้อพาแม่ฝู้ไปเที่ยวชมตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะสั้น ห้าวันต่อมา แม่ฝู้ก็จะต้องกลับไปฝรั่งเศสแล้ว

“คุณย่าอย่าไปนะคะ” เถียนเถียนไม่อยากให้แม่ฝู้จากไป กอดเธอพร้อมกับน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลหยดแหมะๆ คร่ำครวญอย่างสุดแสนเสียใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!