ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 931

“อืม”

ฟางยู่เชินยิ้มอย่างขมขื่น “ที่จริงแล้วใครจะเป็นทายาทนั้น ฉันไม่สนใจหรอกนะ แต่ว่าคุณปู่อายุเยอะแล้ว เห็นตระกูลฟางยุ่งวุ่นวายแบบนี้ ต้องเป็นทุกข์อย่างแน่นอน”

“ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ”เจียงสื้อสื้อถอนหายใจ

ทั้งตระกูลฟางนี้ มีเพียงแค่คุณตาและน้าชายเล็กเท่านั้นที่รู้เหตุรู้ผล น้าชายอีกสองคนนั้นได้ถูกครอบงำด้วยลาภยศและผลประโยชน์ไปหมดแล้ว ไม่ได้สนใจความรักความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติอยู่แล้ว

“ขอโทษทีนะ เธอพึ่งจะรู้จักกับปู่ได้ไม่นาน ก็ต้องมาเห็นด้านที่สุดจะทนของตระกูลฟางซะได้”

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้า “อย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่เหรอ? ”

“ใช่ ครอบครัวเดียวกัน” ฟางยู่เชินยิ้มอย่างถากถาง “แต่ว่ามีคนบางคนไม่เห็นพวกเราเป็นครอบครัว”

แน่นอนว่าเขาหมายถึงน้าชายใหญ่กับน้าชายรอง

“ไม่ต้องคิดเยอะหรอก พวกเขาอยากแย่งก็ให้แย่งกันไป ฉันเชื่อว่าคุณตานั้นสายตาเฉียบแหลม คงได้เลือกคนที่เหมาะสมไว้อยู่แล้วล่ะ”

ตอนที่พูดประโยคนี้นั้น เจียงสื้อสื้อก็มองหน้าเขาอย่างมีความหมายลึกซึ้ง

ทั้งตระกูลฟางนี้ คนเดียวที่มีความสามารถที่ควรจะได้สืบทอดบทบาทหน้าที่ของคุณปู่ก็มีแค่ฟางยู่เชิน

ถึงแม้ว่าความสามารถของฟางอี้หมิงและฟางเย้นซินก็ไม่ได้แย่ แต่ว่าจิตใจของพวกเขาไม่บริสุทธิ์ การยับยั้งชั่งใจน้อย คุณปู่ไม่มีทางมอบกิจการครอบครัวให้คนใดคนหนึ่งในพวกเขาอย่างแน่นอน

ฟางยู่เชินพูดกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจัง “ไม่คิดเลยว่าเธอจะเข้าใจความคิดของคุณตาด้วย”

“ไม่ใช่ว่าเข้าใจ แต่ว่าความจริงมันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”

ไม่ใช่แค่เธอ แค่คนที่รู้เรื่องสถานการณ์ของตระกูลฟาง ก็สามารถทายความคิดของคุณปู่ได้อยู่แล้ว

พอได้ยินดังนั้น ฟางยู่เชินก็เงียบลง สีหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปกลายเป็นเคร่งขรึม

เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่าคะ? ”

ฟางยู่เชินส่ายหน้า

ฟางยู่เชินไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ความหมายของคุณก็คือ คุณตาตั้งใจจะมอบตระกูลฟางให้คุณ ถ้าเป็นแบบนั้นวันเวลาในอนาคตระหว่างคุณกับน้าเล็กและน้าสะใภ้เล็กคงจะไม่ดีเท่าไหร่ใช่ไหม”

ดูจากนิสัยของน้าชายกับน้าสะใภ้แล้ว ต้องเอาแต่กลั่นแกล้งพวกเขาอย่างแน่นอน แม้กระทั่งสร้างปัญหาในหน้าที่การงานของเขา

“มันก็ไม่เคยดีอยู่แล้ว”

ฟางยู่เชินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ “ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่รู้ว่าทำไมน้าชายใหญ่กับน้าชายรองถึงไม่ชอบครอบครัวของพวกเรานัก ชอบพูดคำหยาบคาบทุกประเภทมาเยาะเย้ยเรา”

“ความอิจฉาริษยาหลอกหลอนอยู่ในใจ” เจียงสื้อสื้อเม้มปากและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ท่าทีที่คุณตามีต่อน้าเล็กนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนกับที่มีต่อพวกน้าชายใหญ่ แล้วอีกอย่างกิจการของตระกูลฟางนั้นใหญ่โต พวกเขาเห็นน้าเล็กเป็นคู่แข่ง ไม่ได้เห็นเป็นคนในครอบครัวแล้ว”

การวิเคราะห์แบบนี้มันทำร้ายจิตใจมาก

ทั้งๆ ที่เป็นครอบครัวเดียวกันแท้ๆ แต่กลับมาเป็นศัตรูกัน ทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ออกจริงๆ

ฟางยู่เชินพยายามฝืนยิ้มครั้งแล้วครั้งเล่า “เธอพูดไม่ผิดหรอก ความจริงมันก็เป็นแบบนี้แหละ พ่อฉันบอกว่า ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะกลัวว่าหากตระกูลฟางตกไปอยู่ในมือพวกเขาแล้วจะเสียทรัพย์สินนั้น เขาจะไม่มอบภาระหน้าที่อันหนักหน่วงนี้ให้หรอก”

เจียงสื้อสื้อพยักหน้า “หนูเข้าใจความหมายของน้าเล็ก พอน้าเล็กรับมาแล้ว ในอนาคตปัญหาต้องตามมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน พวกน้าชายใหญ่ไม่มีทางยอมปล่อยไปอย่างแน่”

สิ่งที่เธอพูดนั้น ฟางยู่เชินเองก็คิดไว้อยู่แล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาก็เลยกำลังลังเลอยู่ ไม่รู้ว่าควรจะรับหน้าที่นี้ไปหรือไม่

เจียงสื้อสื้อมองออกว่าเขากำลังลังเล เธอคลี่ยิ้มออกมา “พี่ อย่าทำให้คุณตาผิดหวังสิ”

ประโยคนี้เตือนใจฟางยู่เชิน

ใช่ เขาจะให้คุณปู่ผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด

ฟางซื่อกรุ๊ปถูกก่อตั้งโดยคุณปู่ จะให้น้าใหญ่กับน้าชายรองทำลายมันไปไม่ได้

“สื้อสื้อ ขอบคุณนะ ฉันรู้แล้วว่าตัวเองควรเลือกอะไร” ฟางยู่เชินยิ้มให้เจียงสื้อสื้อด้วยความซาบซึ้ง

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก”

เสียงของเจียงสื้อสื้อยังไม่ทันจะเปล่งออกมา ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา “ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็พูดได้เลย”

จิ้นเฟิงเฉินนั่นเอง

คำพูดของเขาทำให้ความมั่นใจของฟางยู่เชินเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

อีกคนหนึ่งยืนขึ้น แล้วก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “น้องเขย นายหมายความว่า……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!