ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 937

สรุปบท บทที่937 สถานการณ์ตึงเครียด: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

สรุปเนื้อหา บทที่937 สถานการณ์ตึงเครียด – ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บท บทที่937 สถานการณ์ตึงเครียด ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ในหมวดนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมียวเมียว อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

พอมาถึงโรงพยาบาล เจียงสื้อสื้อก็เห็นพวกน้าชายอยู่ที่นั่นหมดเลย

สีหน้าของทุกคนดูเคร่งขรึมมาก แต่เธอรู้ดีกว่า คนบางคนไม่ได้กังวลเรื่องคุณท่านที่อยู่ในห้องผ่าตัดจริงๆ หรอก

“สื้อสื้อ พวกเธอมาแล้ว”น้าสะใภ้เล็กซ่างหยิงรีบเดินเข้ามาต้อนรับ

“น้าสะใภ้เล็ก”

ซ่างหยิงร้องไห้จนตาแดง เธอเช็ดน้ำตาไปด้วยและพูดว่า “ลำบากพวกเธอต้องรีบมาเลย ตอนนี้คุณตาของเธอยังอยู่ข้างใน เป็นตายยังไม่แน่นอน”

“คุณตาเป็นคนที่ดวงดี เขาจะต้องผ่านไปได้อย่างแน่นอน”

เจียงสื้อสื้อจับมือของเธอแน่น ตอนนี้พวกเธอไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ทำได้แค่ปลอบกันและกันไป

ยังอยู่ระหว่างการผ่าตัด คนของตระกูลฟางทั้งเด็กและแก่ก็ต่างรออยู่ด้านนอก ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น บรรยากาศตึงเครียด

ทันใดนั้น ก็มีเสียงแหลมดังขึ้น

“ฟางเฉิง แกเป็นผู้ชายอยู่รึเปล่า? ถ้าเกิดว่าแกไม่พูด ฉันจะพูดเอง”

คนที่พูดคือน้าสะใภ้ใหญ่ของเจียงสื้อสื้อ หลินหลาน

หลังจากตะโกน เธอก็ทำท่าทางเหมือนจะพูด

“หุบปากเลย!”ฟางเฉิงตะคอก “นี่มันเวลาอะไรกัน เธอยังมีอารมณ์จะพูดเรื่องนั้นอีกเหรอ? ”

“แล้วทำไมฉันจะพูดไม่ได้? นี่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอี้หมิง พูดไม่ได้ก็จะพูด!”

“เธอพูดไม่ได้ก็คือพูดไม่ได้!”

เห็นทั้งสองคนทะเลาะกัน ฟางเถิงดุว่า “ทั้งสองคนเงียบเดี๋ยวนี้นะ!พ่อยังถูกช่วยชีวิตอยู่ด้านใน พวกแกจะมาทะเลาะอะไรกัน? ”

หลินหลานยังอยากจะพูดอะไรต่อด้วยความไม่พอใจ แต่ในตอนนี้เอง ฟางอี้หมิงก็ดึงเธอไว้ และโน้มน้าวว่า “แม่ มีเรื่องอะไรก็รอให้คุณปู่ผ่าตัดเสร็จก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ อย่าพึ่งรีบร้อนเลย”

น้าสะใภ้รองเฉินหยุนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ยินดังนั้น ก็เยาะเย้ย “พี่สะใภ้ นี่กำลังแสดงละครเวทีเรื่องอะไรอยู่เหรอ? ทำไมฉันดูไม่เข้าใจเลย? ”

“น้องชายรอง ในเมื่อไม่เข้าใจก็หุบปากไปเถอะ”

เห็นได้ชัดว่าหลินหลานกำลังโกรธ เธอมองฟางเฉิงด้วยสายตาที่รุนแรง แล้วก็กรีดร้อง “ขยะ!”

ฟางเฉิงที่ถูกภรรยาด่าในที่สาธารณะแบบนี้ ก็รู้สึกเสียหน้า กองไฟก็เกิดขึ้นดัง “พึบ”ในใจทันที

“ทำไมผู้หญิงอย่างเธอถึงได้ชอบสร้างปัญหาอย่างไม่มีเหตุผลด้วย? ตอนนี้พ่อยังนอนอยู่ด้านใน ฉันยังจะมีหน้ามาบอกให้เขามอบฟางซื่อกรุ๊ปให้อี้หมิงอยู่ยังงั้นเหรอ? แบบนี้คนอื่นจะคิดกับฉันยังไง?!”

พอฟางเฉิงพูด ทุกคนก็อึ้งไปเลย

น้าชายรองฟางรุ่ยตอบสนองก่อนเป็นคนแรก เอ่ยปากถาม “พี่ใหญ่ พี่พูดอะไรน่ะ? พ่อบอกตอนไหนว่าจะยกฟางซื่อกรุ๊ปให้อี้หมิง? ”

เฉินหยุนน้าสะใภ้รองก็ช่วยพูด “ใช่ พี่อย่าฉวยโอกาสตอนที่พ่อเป็นแบบนี้มาพูดเรื่องไร้สาระนะ!”

คู่สามีภรรยาฟางเถิงและฟางยู่เชินสีหน้าก็เปลี่ยนไปกลายเป็นดูแย่ขึ้น

เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินมองหน้ากัน พวกเขารู้ดีว่าสิ่งที่ฟางเฉิงอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้

เมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัย ฟางเฉิงก็ถอนหายใจยาวออกมา “ฉันไม่อยากพูดก็เพราะว่าเดาว่าพวกนายจะคิดแบบนี้ แต่ว่าฉันสาบานกับสวรรค์ได้เลย ว่าฉันพูดเรื่องจริง”

“สาบานต่อสวรรค์ยังงั้นเหรอ? ” ฟางรุ่ยเหยียดหยามมาก “ถ้ายังงั้นฉันก็สาบานต่อสวรรค์ได้เหมือนกัน บอกว่าความจริงแล้วพ่อจะมอบฟางซื่อกรุ๊ปให้เย้นซิน”

“น้องชายรอง ทำไมนาย……”

ฟางเฉิงโกรธมากจนอยากจะโต้กลับ แต่ว่าสุดท้ายเขาก็อดทนไว้ “เรื่องนี้เมื่อคืนพ่อพูดกับฉันเอง ถ้าเกิดว่าฉันกล้าพูดเรื่องโกหก……”

ตอนที่เขาจะสาบานนั้น ก็ถูกฟางอี้หมิง “อารอง อาสามแล้วก็น้องสาว น้องเขย ผมรู้ว่าพวกคุณไม่เชื่อ ผมเองก็ไม่ว่าพวกคุณหรอก แต่ว่า คุณปู่เชื่อใจผม ถึงได้มอบภารกิจสำคัญนี้ให้”

เจียงสื้อสื้อมึนงง

เฉินหยุนไม่พอใจ สายตามองไปที่ฟางยู่เชินที่อยู่ข้างๆ ดวงตาก็แหลมคมขึ้นมาทันที

“งั้นเหรอ? ฉันจำได้เหมือนกับว่าเมื่อวานยู่เชินเองก็ร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ปเมื่อกัน มันเป็นเรื่องเมื่อวาน แล้วอีกอย่างในการประชุมเมื่อวาน พ่อก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าตัวเองชอบยู่เชิน”

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าจะข่มบ้านใหญ่ เฉินหยุนก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้เลยจริงๆ

ไม่พูดไม่ได้ว่า ไม่ใช่แค่ลูกชายของเธอ แต่ว่าแม้แต่ฟางอี้หมิงก็ยังพ่ายแพ้ให้ฟางยู่เชิน

หลินหลานพูดไม่ออก

ฟางอี้หมิงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “น้าสะใภ้รองครับ ในการประชุมคณะกรรมการเมื่อวานนี้คุณปู่ได้กล่าวไว้จริงๆ แต่ว่าเมื่อวานท่านเรียกผมไปที่ห้องทำงาน แล้วก็คุยกับผมอยู่นาน สุดท้ายก็แสดงท่าทีว่าจะมอบฟางซื่อกรุ๊ปให้กับผม”

ประโยคนี้เขาพูดได้อย่างจริงใจมาก

ถ้าเกิดไม่รู้ว่าเขา และพ่อแม่ของเขาเป็นคนยังไงนั้น เจียงสื้อสื้อก็คงจะเชื่อไปแล้ว

“เหลวไหล!”ฟางรุ่ยพูดคำหยาบคายออกมา “ฉันจะบอกอะไรให้นะ พวกนายอาศัยโอกาสตอนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับพ่อ อยากจะยึดครองฟางซื่อกรุ๊ป”

“อะไรที่เรียกว่ายึดครอง? อี้หมิงคือทายาทที่คุณพ่อเลือกเองกับมือ ถ้าพวกนายรับไม่ได้ก็กลั้นเอาไว้แล้วกัน!”

ท่าทางที่ว่าใครก็ต้องเชื่อฟังตัวเองของหลินหลานนั้น ทำให้เฉินหยุนโมโหขึ้นในทันที

“พี่สะใภ้ พี่ช่างหน้าด้านจริงๆ เลยนะ เรื่องไร้สาระแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะ วันนี้ฉันไม่มีทางเชื่อหรอก!”

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ”หลินหลานไม่ยอมด้อยกว่า ทันใดนั้นสถานการณ์ก็ตึงเครียดขึ้นทันที

สุดท้าย คนสองคนทะเลาะกันเพราะเหตุการณ์นี้ สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้มาก

“พวกคุณสร้างเรื่องพอรึยัง? ยังขายหน้าไม่พออีกเหรอ? ”

ฟางยู่เชินที่เอาแต่เงียบตลอดนั้นสุดท้ายก็ทนไม่ไหวแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!