เรื่องนี้ได้บทสรุปไปแล้ว ฟางรุ่ยยังไม่ยอม
“ยู่เชินยังเด็กเกินไป ยังไม่มีความสามารถที่จะบริหารบริษัทให้ดีได้”
“ถ้าเกิดว่าผมไม่มีความสามารถ แล้วจะสามารถร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ปได้ยังไงกัน? ” ฟางยู่เชินหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกว่าตัวเองก็ควรแสดงท่าทีเหมือนกัน ก็เลยยืนขึ้น ริมฝีปากบางเปิดออกเบา ๆ และเสียงต่ำและเย็นก็ดังขึ้น “ผมเชื่อในอนาคตภายใต้การบริหารของยู่เชิน จิ้นกรุ๊ปกับฟางซื่อกรุ๊ปจะต้องร่วมมือกันแล้วได้ผลประโยชน์ยิ่งใหญ่แน่นอน”
ความหมายก็คือ เขาเชื่อว่าฟางยู่เชินมีความสามารถที่จะบริหารฟางซื่อกรุ๊ปได้ดี
“ใครไม่รู้บ้างว่าการที่เขาได้การร่วมมือนี้มา เพราะอาศัยเจียงสื้อสื้อ” ฟางเย้นชิงถากถาง
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้ามอง สายตาแหลมคม “คุณเองก็เป็นพี่ชายของสื้อสื้อเหมือนกัน ถ้ายังงั้นคุณกล่อมให้ผมอยากร่วมงานด้วยได้ไหมล่ะ? ”
ฟางเย้นชิงอึ้งไป แล้วก็ซ่อนตัวเงียบๆ อยู่ด้านหลังพ่อของเขา
ในที่สุดครอบครัวของฟางรุ่ยก็ตระหนักได้ถึงความเป็นจริง สถานการณ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
ความวุ่นวายในทรัพย์สินของครอบครัวได้สิ้นสุดลงชั่วคราว สองครอบครัวฟางรุ่ยและฟางเฉิงก็กลับไปด้วยสีหน้าที่ดูแย่
เจียงสื้อสื้อก็ทรุดตัวลงกับโซฟา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
วันนี้ทั้งวัน เธอเหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนเสียอีก
และมันเป็นการเหนื่อยทั้งกายและใจ
“ไม่สบายเหรอ? ” จิ้นเฟิงเฉินเห็นว่าสีหน้าเธอไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก ก็ถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า”
เจียงสื้อสื้อสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ค่อยๆ พูดต่อ “ฉันแค่คิดว่าลูกพี่ลูกน้องของฉันเหนื่อยจริงๆ จากการใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวแบบนี้”
ซ่างหยิงที่กำลังเดินมาได้ยินแบบนี้ ก็ถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลี่ยง “ยิ่งกว่าความเหนื่อยล้า ก็คือต้องระมัดระวังทุกทางว่าจะมีคนมาทำร้ายเขา”
“น้าสะใภ้เล็ก”เจียงสื้อสื้อรีบนั่งตัวตรงทันที
“มา ดื่มนมให้อิ่มท้องหน่อย ข้าวเย็นก็ยังไม่ได้กิน” ซ่างหยิงส่งแก้วนมในมือในพวกเขาทั้งสองคน
“ขอบคุณครับ” จิ้นเฟิงเฉินขอบคุณอย่างเกรงใจ
ซ่างหยิงคลี่ยิ้ม “ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอก”
เจียงสื้อสื้อดื่มนมลงไป ทันใดนั้นก็คิดอะไรขึ้นได้ “น้าสะใภ้เล็ก น้าเล่าเกี่ยวกับเรื่องอุบัติเหตุของคุณตาให้หนูฟังหน่อยได้ไหมคะ? ”
“หนูอยากรู้อะไร? ”ซ่างหยิงนั่งลงตรงข้ามเธอ
“หนูอยากรู้ว่าอุบัติเหตุนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ รึเปล่า? ”
ซ่างหยิงส่ายหน้า “น้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบอยู่”
“ช่วงนี้ที่บ้านมีเรื่องอะไรแปลกๆ ไหมคะ? ” เจียงสื้อสื้อถามอีก
“อะไรแปลกๆ เหรอ? ” ซ่างหยิงขมวดคิ้วแล้วคิดอย่างจริงจัง หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่เห็นนะ”
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินมองหน้ากัน ทั้งคู่ในคำถามมากมายอยู่ในใจ
อุบัติเหตุของคุณท่านมันบังเอิญเกินไป มันเกิดขึ้นก่อนที่จะประกาศผู้สืบทอดพอดี มันทำให้คนอดสงสัยไม่ได้หรอก
แต่ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ“
“ในครัวกำลังเตรียมของกิน กินข้าวเสร็จแล้วจะขึ้นไปพักผ่อนนะ"
ซ่างหยิงยืนขึ้นเตรียมจะออกไป ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นได้ แล้วก็หันหน้ากลับมา “ถ้ายังงั้น อาศัยโอกาสนี้ น้าพาพวกเธอขึ้นไปดูห้องด้านบน มาดูกันว่าต้องเตรียมอะไรอีกบ้าง”
“ค่ะ”
เจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉินตามเธอขึ้นไปด้านบน
ซ่างหยิงเตรียมห้องสำหรับพวกเขา อยู่ในส่วนในสุดของทางเดินบนชั้นสอง
“น้าให้แม่บ้านทำความสะอาดไว้ให้แล้ว ผ้าปูก็ปูใหม่แล้ว ดูว่ายังต้องการอะไรอีกไหม แล้วก็บอกน้าได้เลยนะ”
ห้องพักมีขนาดใหญ่และตกแต่งอย่างอบอุ่นราวกับว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน
เจียงสื้อสื้อซาบซึ้ง เธอส่ายหน้า “ไม่ต้องแล้วค่ะ พวกเราไม่ได้ขาดเหลืออะไรเลย”
“ถ้ายังงั้นก็ได้ พวกเธอรีบพักผ่อนนะ เดี๋ยวพอถึงเวลาอาหารแล้วน้าจะมาเรียกอีกที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!