ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 949

สรุปบท บทที่ 949 คิดเสียว่าเป็นแค่ฉากประกอบเท่านั้น: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!

อ่านสรุป บทที่ 949 คิดเสียว่าเป็นแค่ฉากประกอบเท่านั้น จาก ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว

บทที่ บทที่ 949 คิดเสียว่าเป็นแค่ฉากประกอบเท่านั้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อกลับมานั่ง เถียนเถียนก็พูดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น

" หม่ามี๊ พี่ชายไม่ระวังเลยเดินไปชนคุณน้า "

ได้ยินจบ เจียงสื้อสื้อก็รีบหันไปถามเสี่ยวเป่า " ได้ขอโทษเขาไปหรือยังจ๊ะ "

เสี่ยวเป่าพยักหน้า " ครับ ผมขอโทษคุณน้าไปแล้ว "

เจียงสื้อสื้อลูกหัวเด็กน้อยอย่างชื่นใจ " เสี่ยวเป่าของเรานี่เก่งจังเลย "

" หม่ามี๊ น้าคนนั้นสวยมากเลย " เถียนเถียนพูดขึ้นมา " ถ้าหนูโตไปหนูจะสวยให้เหมือนน้าคนนั้นให้ได้ "

เมื่อได้ยินที่ลูกสาวตัวเองกำลังชมคนอื่นอยู่ เจียงสื้อสื้อก็มองตาจิ้นเฟิงเฉิน จากนั้นก็ถามแบบทำตัวหึง ๆ ว่า " เถียนเถียน งั้นหม่ามี๊กับน้าคนนั้นใครสวยกว่ากันล่ะ "

" อืม....... "

เถียนเถียนเอียงหัว ตั้งใจเพ่งไปที่เธอแล้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวออกมา " แน่นอนว่าต้องเป็นหม่ามี๊อยู่แล้วที่สวยกว่าน่ะ "

เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา เมื่อได้ยินคำชม แต่เด็กน้อยก็พูดขึ้นมาอีกประโยค " น้าคนนั้นก็สวย เถียนเถียนชอบนะ "

คนที่ทำให้เถียนเถียนให้คะแนนสูงขนาดนี้ เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะอยากเห็นหน้าหญิงสาวคนนั้น

" เถียนเถียน ลูกต้องจำไว้นะ หม่ามี๊คือคนที่สวนที่สุดในโลกใบนี้ " จิ้นเฟิงเฉินสอนเถียนเถียนอย่างเอาจริงเอาจัง

เถียนเถียนผงกหัวไปมา " หนูรู้แล้ว แด๊ดดี้หล่อที่สุดในโลก หนูกับพี่ชายก็คือเด็กน่ารักที่สุดในโลกเหมือนกัน "

คำพูดของเด็กน้อยทำให้ทั้งสองคนอดขำไม่ได้

" อยู่เป็นจริง ๆ เลยนะ เด็กคนนี้ " เจียงสื้อสื้อหยิกที่แก้มของเธอเบา ๆ

เถียนเถียนที่โดนชมก็ยิ้มจนคิวน้อย ๆ ยกขึ้น

แต่เรื่องนี้ไม่นานก็โดนพวกเขาโยนออกไปจากสมองเรียบร้อย เหมือนเป็นแค่ละครฉากเล็ก ๆ เอาไว้คั่นรายการแค่นั้นไม่ได้สำคัญอะไร

.....

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว จิ้นเฟิงเฉินจึงพาภรรยาและลูก ๆ กลับบ้าน

เด็ก ๆ พากันกินนู่นกินนี่ทั้งวัน อีกทั้งเล่นกันจนเหนื่อย กลับมาเลยอาบน้ำอาบท่าและเข้านอนไปแล้ว

" ถ้าพูดง่ายแบบนี้ทุกวันจะดีมากเลย "

จิ้นเฟิงเฉินห่มผ้าให้เด็ก ๆ แล้วขำออกมา

เจียงสื้อสื้อยิ้มแล้วพูดต่อ " เด็ก ๆ คึกคักกันมาก เล่นทั้งวันแต่ไม่บ่นเหนื่อยเลยสักคำ ฉันเหนื่อยจนแทบจะคลานอยู่แล้ว"

ได้ยินจบ แม่จิ้นก็รีบพูด " ถ้างั้นเธอก็รีบไปกินข้าว เสร็จแล้วจะได้ไปพักผ่อน "

เห็นท่าทีที่จริงจังของแม่จิ้น เจียงสื้อสื้อแกต่างพัลวัน " แม่คะ ร่างกายของหนูไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกค่ะ อย่าห่วงไปเลย "

" ไม่ได้อ่อนแอได้ยังไง เมื่อวานยังเป็นลมอยู่เลย " แม่จิ้นมองเธออย่างกังวล

" มันเป็นแค่อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ " เจียงสื้อสื้อดึงมือของเธอมากุมอย่างใกล้ชิด " แม่คะ หนูกับเฟิงเฉินอาจจะต้องกลับไปเมืองหลวงอีก คงต้องลำบากแม่เรื่องเถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าหน่อยนะคะ "

" เราก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ไม่ได้ลำบากอะไรเลยจ้ะ " แม่จิ้นตบไปบนมือเธอเบา ๆ " ฝากทักทายคุณตาของเธอทีนะแล้วก็ให้แม่เธอรักษาดี ๆ ล่ะ พวกเรารอเธอกลับมาอยู่นะ "

เจียงสื้อสื้อรู้สึกเจ็บที่จมูกเบา ๆ เธอพยายามหายใจ เพื่อสะกดน้ำตาเอาไว้ เธอยิ้มแล้วตอบกลับไป " วางใจเถอะค่ะหนูจะบอกแม่ให้นะคะ "

แม่จิ้นยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา " ไป พวกเราลงไปกินข้าวดีกว่า "

กินข้าวเย็นเสร็จ เจียงสื้อสื้อก็ขึ้นไปพักผ่อน แต่จิ้นเฟิงเฉินกับพ่อจิ้นไปห้องหนังสือ

" เฟิงเฉิน ที่อิตาลีเป็นเกิดอะไรขึ้น " พ่อจิ้นเกริ่นอย่างตรงประเด็น

" ไม่มีอะไรครับ ก็แค่ทำสัญญาโครงการหนึ่งกับตระกูลฟาง "

จิ้นเฟิงเฉินไม่อยากให้พ่อรู้เยอะเกินไป เพราะมันไม่เป็นการดีกับตระกูลจิ้น

" ร่วมมือกับทำโครงการอะไร " พ่อจิ้นถามอย่างแปลกใจ

" เภสัชภัณฑ์ครับ "

พ่อจิ้นผงกหัว ไม่ถามใด ๆ ต่อ " ฉันได้ยินว่าเฟิงเหราก็เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แค่อยากถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ "

" พ่อ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน "

" ไปเถอะ "

จิ้นเฟิงเฉินกลับห้องไป เห็นเจียงสื้อสื้อที่กำลังละพิงหัวเตียงแล้วอ่านหนังสืออยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วถาม " ทำไมยังไม่นอน "

" รอคุณอยู่น่ะสิ " เจียงสื้อสื้อเปิดหนังสือแล้ววางลงข้าง ๆ

.....

เช้าวันต่อมา จิ้นเฟิงเฉินกับสื้อสื้อก็เดินทางไปเมืองหลวง

ขณะเดียวกัน ที่ฟางซื่อกรุ๊ป

" นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ " ฟางยู่เชินเอาเอกสารฟาดลงบนโต๊ะในห้องประชุม

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เขาจะจะคุยเรื่องโครงการนี้ แต่คู่กรณีดันกลับคำเสียได้

" อะเชิน ลุงใหญ่ไม่ได้ตำหนิแกหรอกนะ แต่การที่แกไม่ได้เอาสัญญาไปให้เขาเซ็นให้เรียบร้อย แล้วค่อยบอกพวกเราว่าสำเร็จงานแล้ว แต่พอเกิดเรื่องที่เขามาเปลี่ยนใจอย่างนี้แล้ว ไม่ใช่การหลอกให้ทุกคนดีใจเปล่า ๆ เหรอ "

ฟางเฉิงไม่รู้จะทำยังไง สีหน้าดูหมดหนทาง แต่ใจแอบสะใจเบา ๆ

โครงการครั้งนี้ เป็นงานแรกของฟางยู่เชิน

เขาคิดว่าถ้าครั้งนี้เขาทำสำเร็จ อีกหน่อยเขาคงต่อกรกับฟางยู่เชินได้ลำบาก

ฟางยู่เชินพยายามสงบอารมณ์ ไม่ได้พูดอะไร

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ อีกฝั่งถึงเปลี่ยนใจ ทุกอย่างก็ตกลงกันไปหมดแล้ว เหลือแค่เซ็นสัญญาเท่านั้น

" อะเชิน แกยังเด็กเกินไป ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีใครเขาโทษแกหรอก " ฟางรุ่ย ฟังเหมือนจะพูดแทนเขา อีกด้านกำลังประชดประชันว่าเขาเป็นวัยรุ่นที่ไม่เอาไหนอย่างเงียบ ๆ

" สัญญาครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับฟางซื่อกรุ๊ปมาก ครั้งนี้แกทำไม่สำเร็จ ฟางซื่อกรุ๊ปต้องขาดทุนไปตั้งเท่าไหร่ล่ะ "

" ใช่ ยู่เชิน แกจะเอาแต่เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ คุณปู่ของแกยกบริษัทนี้ให้ เพราะว่าเชื่อมั่นในตัวแก แต่ตอนนี้แกจะทำให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวแกได้ยังไง "

......

คณะกรรมการต่างพูดทีว่าที ในคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความไม่พอใจ

ฟางยู่เชินเลยยกมือขึ้นกุมขมับไว้ และพูดด้วยเสียงกดต่ำว่า " พวกคุณวางใจเถอะ ผมจะหาวิธีรับมือมันให้ได้ "

" แกจะรับมือให้เราได้ยังไง ตอนนี้สัญญาก็ยังสำเร็จ แกจะช่วยเรื่องนี้ได้ยังไง " ยังไงเสียฟางเฉิงก็ไม่ปล่อยให้เขาผ่านเรื่องนี้ไปได้ง่าย ๆ

ฟางยู่เชินยิ้มที่มุมปาก " ลุงใหญ่ ตอนนี้ผมเป็นใหญ่ในบริษัท ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ผมก็จะรับผิดชอบมันทั้งหมด "

ฟางเฉิงยิ้ม " ดี อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะรับผิดชอบมันยังไง "

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!