บทที่ 950 อย่าทำตัวเป็นกระดี่ได้น้ำหน่อยเลย – ตอนที่ต้องอ่านของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!
ตอนนี้ของ ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! โดย เมียวเมียว ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายมนุษย์หมาป่าแวมไพร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 950 อย่าทำตัวเป็นกระดี่ได้น้ำหน่อยเลย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฟางยู่เชินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง นึกถึงคำพูดของพวกคณะกรรมการ เขาก็ดึงเนกไทไปมาอย่างอยู่ไม่สุข
ให้ตายสิวะ!
ใครมันขัดขาในการทำสัญญาครั้งนี้กันแน่
" ท่านประธานครับ ผมกับอีกฝั่งได้คุยกันแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเซ็นสัญญาครับ " ผู้ช่วยเดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ เขา เพื่อรายงานสถานการณ์ล่าสุด
ฟางยู่เชินหันกลับไปถาม " ได้บอกเหตุผลไหม "
" ไม่มีครับ "
ฟางยู่เชินขมวดคิ้ว " จะไม่มีเหตุผลได้ยังไง ผมคุยกับพวกเขาด้วยตัวเอง ข้อตกลงทุกอย่างต่างฝ่ายต่างพอใจแล้ว จู่ ๆ จะไม่เซ็นสัญญาก็ต้องมีเหตุผลหรือเปล่า "
ผู้ช่วยก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกลับคำ เพราะฟางซื่อกรุ๊ปให้ราคาและข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้ว ทำไมอีกฝ่ายถึงทำอะไรแปลก ๆ แบบนี้ได้
ฟางยู่เชินสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นสุขุม " เรื่องนี้ต้องมีคนมาก่อกวนแน่ ๆ "
แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าเป็นใคร
" แล้วพวกเราจะเอายังไงดีครับ "ผู้ช่วยถาม
" ไปคุยกับบริษัทอื่นแทน "
ถ้าบริษัทนั้นไม่รักษาข้อตกลง จากนี้ก็ลากเข้าแบล็กลิสต์ไปเลย ชาตินี้คงไม่ได้ทำงานร่วมกับฟางซื่อกรุ๊ปอีก
" ครับ ผมจะไปติดต่อตอนนี้เลย "
ผู้ช่วยรีบออกไป
ฟางยู่เชินหลับตาลง ค่อย ๆ หายใจ พยายามกดความโกรธในใจเอาไว้
เขาห้ามโกรธ ห้ามร้อนรน ไม่อย่างนั้นจะสมดั่งใจคนพวกนั้น
อีกข้างหนึ่งในขณะเดียวกัน ฟางเฉิงมาที่ห้องทำงานของลูกชายของเขา ฟางอี้หมิง
" อี้หมิง วันนี้เป็นวันที่พ่อมีความสุขจริง ๆ "ฟางเฉิงพูดด้วยสีหน้าภูมิใจ
เขาเดินไปตรงหน้าลูกชาย มือทั้งสองข้างเท้าสะเอว แล้วพูดอย่างตื่นเต้น " แกไม่รู้หรอกว่าเมื่อกี้ฟางยู่เชินน่ะ สีหน้าของไอ้เด็กนั่นมันทุเรศทุรังแค่ไหน อุตส่าห์เก็บไว้ในใจตั้งนาน วันนี้มีเรื่องดี ๆ กลับมาสักที "
ฟางอี้หมิงเห็นประตูด้านหลังของเขาไม่ได้ปิด เลยขมวดคิ้ว " พ่อ เดินไปปิดประตูที อีกอย่าง ช่วยเสียเบา ๆ ด้วย ถ้าใครมาได้ยินเข้า แล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกฟางยู่เชินเราจะซวยกันหมด "
เขาพูดแบบนั้น ฟางเฉิงถึงพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองดีใจเกินเหตุ เลยค่อย ๆ เดินไปปิดประตูอย่างสมอารมณ์
" พ่อ เรื่องนี้มันแค่การเริ่มต้น อย่าทำตัวเป็นกระดี่ได้น้ำเลย ถ้าโดนจับได้จะรู้สึก "
ถ้าเทียบกับฟางเฉิงที่ดีใจออกนอกหน้าแล้ว ฟางอี้หมิงกลับมีท่าทีสุขุมกว่ามาก
" พ่อรู้ พ่อรู้ " ฟางเฉิงพยักหน้าขอไปที
ฟางอี้หมิงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เลยกำชับไป " พ่อ ทำเรื่องให้มันหมดจดกว่านี้ อย่าทิ้งร่องรอยให้มาเดือดร้อนทีหลังล่ะ "
" พ่อของแกทำเรื่องอะไรแกก็ยังไม่วางใจอีกเหรอ แผนน่ะวางเสร็จเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว " ฟางเฉิงยิ้มอย่างมีเลศนัย
ถึงยังไงเรื่องวันนี้ ฟางยู่เชินก็หาตัวพวกเขาไม่ได้แน่นอน
......
จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อมาถึงเมืองหลวงแล้ว ก็ตรงมาที่โรงพยาบาลที่แรก
เดินมาถึงหน้าประตูของห้องคุณท่านฟาง ก็ได้ยินเสียงอ่านหนังสือดังออกมา
พวกเขาเลยสบตากัน ก่อนจะผลักประตูห้องเข้าไป
ฟางเสว่มั่นที่นั่งอยู่ข้างเตียง ในมือมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม ก่อนจะอ่านหนังสือทีละตัว ๆ อย่างตั้งใจ
คุณท่านชอบอ่านหนังสือ ดังนั้นเธอเลยวานให้ซ่างหยิงเอาหนังสือมาจากห้องหนังสือใหญ่ที่บ้านมาหลาย ๆ เล่ม เวลาว่างก็จะอ่านหนังสือให้คุณท่านฟัง
เผื่อวันไหนคุณท่านจะตื่นขึ้นมา
เธออ่านหนังสืออย่างตั้งใจ แม้แต่เสียงประตูก็ไม่ได้ยิน
เจียงสื้อสื้อยืนจังก้า สายตาที่อบอุ่นนั้นมองไปที่แม่ของเธอ มุมปากทั้งสองข้างก็ยกขึ้น
เหมือนว่าการที่เธอรับแม่มาไว้ที่นี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
" ใช่น่ะสิ แม่ต้องขอบใจลูกจริง ๆ นะ " ฟางเสว่มั่นกุมมือเธอเอาไว้ พูดออกมาอย่างทีเล่นทีจริง
เจียงสื้อสื้อยิ้มกริ่ม " ไม่ต้องขอบคุณเลย ตั้งใจรักษาตัวเพื่อหนูดีกว่า "
" รู้แล้ว "
แม่ลูกยิ้มแย้มกันอยู่สองคน
จิ้นเฟิงเฉินรู้สึกว่าตัวเองจะเป็นส่วนเกิน เลยเดินไปนั่งบนโซฟาอย่างเงียบ ๆ มองดูพวกเธอคุยกันไปมา
เจียงสื้อสื้อนั่งเป็นเพื่อนแม่จนหมดครึ่งวันบ่าย ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เธอเลยกลับมาที่บ้านใหญ่ตระกูลฟางกับจิ้นเฟิงเฉิน
ตอนนี้คุณท่านอยู่ในโรงพยาบาล บ้านใหญ่เลยมีแค่ครอบครัวน้าชายเล็กฟางเถิงอาศัยอยู่
เมื่อเห็นว่าพวกเขามา ซ่างหยิงก็ตกใจ " สื้อสื้อ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย "
" เกือบ ๆ ช่วงเช้าค่ะ "
" อ้าว ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อนล่ะ " ซ่างหยิงมองด้วยสายตาตำหนิเธอเบา ๆ
สื้อสื้อยิ้มแหย ๆ " นั่งคุยเป็นเพื่อนแม่จนลืมไปเลยค่ะ "
ซ่างหยิงยิ้มไม่หุบ " เจ้าเด็กคนนี้ วันหลังมาต้องโทรบอกกันก่อนนะ รู้ไหม "
" รู้แล้วค่า " เจียงสื้อสื้อ พยักหน้าอย่างว่าง่าย
ซ่างหยิงมองตาจิ้นเฟิงเฉิน " พวกเธอคงจะหิวแล้วสิ เราจะไปกินข้าวกันพอดี ไปกินด้วยกันสักมื้อนะ "
" ขอบคุณค่ะน้าสะใภ้เล็ก "
ซ่างหยิงยิ้มแล้วมองไปที่เธอ " ครอบครัวเดียวกัน จะเกรงใจไปทำไมล่ะ "
เจียงสื้อสื้อยิ้มเคอะเขิน แล้วเกินตามหลังเธอไปยังห้องอาหาร
" ดูสิว่าใครมา " ซ่างหยิงพูดอย่างดีใจ
ฟางเถิงกับฟางยู่เชินหันหน้ามามอง เมื่อเห็นเจียงสื้อสื้อ พวกเขาก็ยืนขึ้นมาพร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!