“นี่มันอะไรกัน”
ฟางเย้นซินได้ยินเสียงแล้วจึงรีบเข้ามา เมื่อเข้าไปในห้องหนังสือก็เห็นแก้วที่แตกกระจายเต็มพื้น พร้อมทั้งพ่อและน้องชายที่ยืนจ้องหน้ากันเขม็ง คิ้วต่างขมวดแน่น
ฟางรุ่ยเห็นลูกชายคนโตเข้ามา จึงลดความโกรธลงเล็กน้อย “น้องชายแกไง ดื้อดึง ไม่รู้จักสำนึก”
ดื้อดึง ไม่รู้จักสำนึก
คำพูดนี้แทงลึกเข้าไปในใจของฟางเย้นชิง เขาพลันระเบิดออกมา “พ่อ พ่อพูดบ้าอะไร ผมทำอะไรผิดใหญ่หลวงขนาดนั้นเลยเหรอ”
เห็นว่าทะเลาะกันขึ้นมาอีก ฟางเย้นซินจึงเอ่ยเสียงเข้ม “พอแล้ว อะชิง ไม่ต้องพูดแล้ว”
ฟางเย้นชิงกำหมัดแน่น แสดงสีหน้าไม่พอใจ
เขาแค่คิดอะไรไม่ดี แต่ไม่ได้ทำอะไรเจียงสื้อสื้อนั่นสักหน่อย
ฟางเย้นซินมองพ่อ จากนั้นหันไปมองน้องชาย จึงค่อยๆ เอ่ยออกมาช้าๆ “อะชิง ฉันรู้ว่านายไม่พอใจ แต่เรื่องนี้นายผิดจริงๆ ...”
“พี่ ทำไมแม้กระทั่งพี่ก็ยังพูดแบบนี้ล่ะ”
ไม่รอให้เขาพูดจบ ฟางเย้นชิงก็พูดตัดขึ้นมา
ฟางเย้นซินยกมือขึ้นห้ามเขาให้ใจเย็นๆ จากนั้นพูดต่อ “ถ้านายเข้าใจว่าตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ไหน บางครั้งยอมก้มหัวก็สามารถแก้ไขอะไรได้หลายอย่าง”
ฟางเย้นชิงส่งเสียงเย้ยหยัน “พูดแบบนี้ก็คือพวกคุณกลัวตระกูลจิ้นสินะ”
“หรือว่านายไม่กลัว” ฟางเย้นซินถามกลับ
ฟางเย้นชิงเกิดเป็นใบ้ขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าเขากลัว เพียงแต่ไม่พอใจเท่านั้นเอง
“ทุกวันนี้ทั้งตระกูลฟาง เป็นฟางยู่เชินน่าภาคภูมิใจที่สุด ฉันกับนายต่ำต้อยที่สุด สู้ฟางอี้หมิงไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าเราไปทำอะไรให้ตระกูลจิ้นไม่พอใจขึ้นมา แบบนั้นเราจะได้จบเห่กันจริงๆ นะสิ” ฟางเย้นซินอธิบายอย่างใจเย็น
“ฟังพี่แกพูดซะ ถ้าแกรู้เรื่องรู้ราวให้ได้ครึ่งของพี่ชายแก ฉันกับแม่แกถึงฝันก็คงหัวเราะจนตื่น”
สำหรับลูกอย่างฟางเย้นชิง ฟางรุ่ยไม่สบอารมณ์กับความไม่เอาถ่านของเขา
ฟางเย้นชิงก้มหน้าไม่พูดอะไร ทว่ากลับกำหมัดแน่นบ่งบอกให้รู้ว่าเขาไม่ยอม
“อะชิง” ฟางเย้นซินเดินเข้าไปหา ยืนมือไปจับไหล่เขาเอาไว้ เอ่ยเสียงหนัก “บางครั้งเราก็ต้องก้มหน้าเพื่อมองทางให้ชัด แบบนี้ถึงจะเดินไปตรงและรวดเร็ว ไม่ใช่เหรอ”
แม้ปกติฟางเย้นชิงจะรักสนุก ทำตัวเสเพลเป็นลูกผู้ดีมีเงิน แต่ก็ไม่ได้โง่ สิ่งที่ควรเข้าใจเขาก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี
“งั้น...งั้นผมต้องทำยังไง ขอโทษเหรอ”
ฟางเย้นซินสบตากับฟางรุ่ย จากนั้นยิ้ม “ใช่ นายต้องไปขอโทษเจียงสื้อสื้อด้วยตัวเอง จนเธอยอมอภัยให้นาย”
ฟางเย้นชิงลังเล “ผม...ผมไม่ไปดีกว่า”
“ฟางเย้นชิง”
ฟางรุ่ยโมโห ฟางเย้นซินจึงรีบบอก “เดี๋ยวฉันจะไปกับนายเอง”
ฟางเย้นชิงทำอะไรไม่ได้ ได้ฟังดังนั้นแล้วจึงพยักหน้า “ครับ ผมจะไป”
เห็นว่าเขาตกลงแล้ว ฟางรุ่ยจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่
……
จนฟ้ามืด เจียงสื้อสื้อจึงกลับบ้าน
เธอพึ่งก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ก็มีร่างเล็กทั้งสองวิ่งเข้ามา
“หม่ามี๊”
เป็นเสี่ยวเป่าและเถียนเถียนนั่นเอง
เจียงสื้อสื้อตกใจ รีบย่อตัวลง กางแขนออกกอดพวกเขาเอาไว้ จูบเบาๆ บนแก้มของพวกเขา
“ลูกรัก มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ผมพาพวกเขามาเอง”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างหู เจียงสื้อสื้อเงยหน้าขึ้น ยิ้มออกมา “คุณดีที่สุดแล้วค่ะ”
เขาเข้าใจเธอดีมาตลอด รู้ว่าเธอคิดถึงเด็กทั้งสอง จึงพาพวกเขามาที่เมืองหลวง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!