ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?! นิยาย บท 993

“ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตระกูลย่วนทั้งนั้นแหละครับ”

พอพูดจบ ลิฟต์ก็มาถึงชั้นที่จอดรถพอดี ฟางยู่เชินหันมามองฟางอี้หมิงแวบหนึ่ง มุมปากแย้มขึ้น พอประตูเปิดออก เขาก็ก้าวเดินออกไป

ฟางอี้หมิงจ้องมองไปยังแผ่นหลังของเขา หรี่ตาลง เขารู้อะไรแล้วอย่างนั้นเหรอ?

พอนึกถึงเรื่องบางอย่าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

หรือเขาตรวจเจอแล้วอย่างนั้นเหรอ?

พอฟางอี้หมิงกลับถึงบ้าน เขาก็พุ่งขึ้นไปห้องหนังสือที่อยู่ชั้นสองทันที เมื่อพบฟางเฉิงพ่อของเขาแล้วเขาก็รีบถามไปว่า “พ่อครับ ตอนนั้นพ่อให้ใครเป็นคนดำเนินเรื่องส่งออกกับศุลกากรเหรอครับ?”

“ทำไมเหรอ?” ฟางเฉิงไม่เข้าใจว่าจู่ๆ ถึงได้ถามถึงเรื่องนี้

ฟางอี้หมิงไม่ได้อธิบาย “พ่อแค่บอกผมมาว่าใครก็พอครับ”

“ก็อาของแกย่วนชิงโซงไงล่ะ”

พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฟางอี้หมิงก็ดูแย่หนักยิ่งกว่าเดิม “จบกัน!”

พอเห็นแบบนั้น ฟางเฉิงจึงรีบถามไปว่า “มีอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ฟางยู่เชินอาจจะตรวจพบอะไรเข้าแล้วก็ได้” ฟางอี้หมิงตอบ “กลางคืนผมเจอเขาในลิฟต์ จู่ๆ เขาก็ถามถึงตระกูลย่วนขึ้นมา?”

ฟางเฉิงขมวดคิ้ว “แกคิดมากเกินไปรึเปล่า? เขาอาจจะแค่ถามไปอย่างนั้นก็ได้?”

ฟางอี้หมิงนึกย้อนถึงสิ่งที่ฟางยู่เชินพูดในลิฟต์ ขมวดคิ้วอย่างแรง “ผมก็หวังว่าตัวเองจะเข้าใจผิดไปจริงๆ ครับ”

เขาคิดไปคิดมา “พ่อครับ พรุ่งนี้พ่อบอกให้ ตระกูลย่วนส่งคนไปเยี่ยม ท่านปู่ที่โรงพยาบาลหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องดูแย่ในสายตาคนอื่น

“หมายความว่ายังไง?”

“วันนี้ฟางยู่เชินพูดถึงเรื่องของท่านปู่ ไม่มีใครในตระกูลย่วนไปเยี่ยมท่านปู่เลยครับ”

พอฟางเฉิงคิดว่าเป็นแบบนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหขึ้นมา “ต้องโทษแม่ของแกโน้น บอกว่าไม่ต้องไปเยี่ยมหรอกดังนั้นจึงไม่ได้ส่งคนไปเยี่ยมตาของแกไง”

ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่ไม่นึกเลยว่าพวกฟางยู่เชินจะสนใจมันขนาดนี้

นอกจากให้ตระกูลย่วนไปเยี่ยมท่านปู่แล้ว พ่อช่วยบอกให้ อาไปอยู่ต่างประเทศสักพักนะครับ รอให้เรื่องไฟไหม้โกดังเงียบลงไปก่อนค่อยกลับมา”

ฟางเฉิงพยักหน้า “ได้ ฉันจะไปติดต่อพวกเขาเดี๋ยวนี้เลย”

ฟางอี้หมิงกำหมัดแน่น สายตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ไม่ว่ายังไงก็ห้ามให้ฟางยู่เชินตรวจเจออะไรเด็ดขาด

……

เสี่ยวเป่าฟื้นฟูได้เร็วมาก หมออนุญาตให้เขาออกจากโรงพยาบาลก่อนโดยเฉพาะ

“พอกลับไปแล้วต้องคอยดูแลความสะอาดของแผลอย่างเคร่งครัด ห้ามแผลโดนน้ำเพื่อไม่ให้อักเสบ และอย่าให้เขาวิ่งหรือกระโดดนะครับ” หมอพูดกำชับ

เจียงสื้อสื้อยิ้ม “ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

หลังจากที่หมอจากไป เจียงสื้อสื้อก็เริ่มเก็บข้าวของ

“เสี่ยวเป่า ได้ยินที่คุณหมอพูดเมื่อกี้รึเปล่า พอกลับไปที่บ้านก็ห้ามวิ่งไปวิ่งมาเหมือนเมื่อก่อนอีก เข้าใจมั้ย” ?” เธอเก็บของไปพูดไป

“หม่ามี๊ ผมเข้าใจแล้วครับ”

เสี่ยวเป่าว่าง่ายมาก

แต่ว่า เจียงสื้อสื้อรู้ดีว่าเขาอาจจะทำไม่ได้จริงๆ หรอก”

ถึงเขาจะไม่ใช่เด็กดื้ออะไร แต่พอได้เล่นแล้ว บางทีก็อาจจะเผลอลืมไปก็ได้

เจียงสื้อสื้อจึงตัดสินใจว่าช่วงนี้จะตั้งใจดูเขาเป็นพิเศษ

พอเก็บของเสร็จ จิ้นเฟิงเฉินก็เดินเข้ามา เดินเข้ามาหยิบของในมือเจียงสื้อสื้อไป “เดินเรื่องเสร็จแล้ว เรากลับกันเถอะครับ”

“ไปกลับบ้านกัน เสี่ยวเป่า” เจียงสื้อสื้อยื่นมือไปทางเสี่ยวเป่า

หนุ่มน้อยรีบยื่นมือมาจับมือของเธอไว้ ใบหน้าชายเล็กๆ เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส “กลับบ้านแล้ว”

เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา จูงมือเขาแล้วเดินตามจิ้นเฟิงเฉินออกจากโรงพยาบาลไป

จิ้นเฟิงเฉินส่งพวกเธอกลับบ้าน จากนั้นเขาก็เดินทางไปที่บริษัท

ทันทีที่เจียงสื้อสื้อเข้าบ้านมา เสียงที่น่ายินดีเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“พี่สะใภ้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกชายของประธาน....เรียกฉันหม่ามี๊?!