บทที่142 เรื่องน่าอาย
เฉินเฟิงคิ้วกระตุก สาวน้อยนี่ร้ายนัก ถ้าตนเป็นคนธรรมดา เชื่อคำพูดเหลวไหลของเธอล่ะก็ ชกหมัดนี้ไปคงต้องกระดูกหักไปโรงหมอแน่ เพราะใช้แรงทั้งหมดมันไม่เหมือนใช้แรงแค่บางส่วน
“เอาล่ะ คุณอาออกหมัดได้แล้วล่ะ” ดวงตางามของซูหลิงยู่ฉายแววเจ้าเล่ห์ เจ้าโง่เอ้ย กล้าไร้มารยาทกับข้า ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก
เฉินเฟิงหัวเราะ สาวน้อยนี่น่าสนใจ แต่อยากหาเรื่องแกล้งข้านี่มันไม่ไหวจริงๆ ต้องแกล้งคืนซะหน่อยแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ เฉินเฟิงหัวเราะถามว่า: “ข้าบอกว่าข้าสามารถชกกระสอบทรายนี้ได้ เจ้าเชื่อไหม?”
ซูหลิงยู่เหลือบตามองบน ตอบว่า: “คุณอา ท่านอย่าล้อเล่นได้ไหม? ท่านรู้ไหมว่ากระสอบทรายนี้หนักแค่ไหน? ห้าร้อยกิโลนะ ข้าแค่อยากให้ท่านลองสัมผัสกระสอบทราย ข้าไม่เคยคิดว่าท่านจะชกมันได้จริง”
ซูหลิงยู่มีอีกประโยคไม่ได้พูดคือ จ้าวตงศิษย์พี่ใหญ่ของเธอ ซึ่งเป็นจอมยุทธ์หมิงจิ้งระดับกลางของสำนักยังชกกระสอบทรายเหล็กนี่ไม่ขยับสักนิด แล้วคนธรรมดาอย่างเฉินเฟิงเนี่ยนะ
“หากข้าทำมันขยับได้เล่า?” เฉินเฟิงถาม
“ถ้าท่านชกมันขยับได้ ตามแต่ท่านจะลงโทษข้าเลย” ซูหลิงยู่พูดอย่างไว หากพอพูดแล้ว เธอกลับเสียใจขึ้นมา หากเจ้านี่อยากทำมิดีมิร้ายเธอจะทำอย่างไร?
ไม่สิ ตนจะเกรงกลัวอันใด? เจ้านี่ไม่มีทางชกกระสอบทรายเหล็กขยับอยู่แล้ว เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อคิดได้อย่างนี้ คำโอ้อวดใครๆต่างพูดได้
“แน่ใจ?”
“แน่ใจ!” ซูหลิงยู่ทำใจกล้ายอมรับ ตนใช่คนสับปลับพูดไม่เป็นคำพูดหรือไร!
“งั้นดี เจ้าอย่าเสียใจละกัน” เฉินเฟิงหัวเราะ และชกหนึ่งหมัดไปที่กระสอบทรายเหล็ก
“ทำไมท่านไม่...” เธอกำลังจะเตือนเฉินเฟิงให้นั่งท่าขี่ม้า หากวินาทีต่อมา การสั่นไหวของกระสอบทรายเหล็กทำให้เธอกลืนคำพูดทั้งหมดลงไป
ซูหลิงยู่ขยี้ตา เธอต้องตาฝาดแน่
ใช่ ตาฝาดแน่!
กระสอบทรายเหล็กที่แม้แต่ศิษย์พี่ใหญ่ยังชกไม่ขยับ เจ้าโง่นี่จะทำได้อย่างไร
ซูหลิงยู่ขยี้ตาอย่างแรงอีกครั้ง จนดวงตางามมีน้ำตาคลอด หากกระสอบทรายยังคงสั่นไหว
แม้ว่าจะสั่นไหวไม่แรงเท่าเมื่อครู่ หากยังคงสั่นไหว
คราวนี้ซูหลิงยู่ไร้คำพูดใดๆ ถึงเธอมิอยากยอมรับ หากเฉินเฟิงสามารถชกกระสอบทรายเหล็กหนักห้าร้อยกิโลขยับได้จริงๆ
ซูหลิงยู่หน้าแดงขึ้นมา เมื่อเห็นเฉินเฟิงมองเธอด้วยสีหน้าคล้ายจะยิ้ม
“ข้าบอกก่อนเลยนะ ถึงการพนันของเราท่านชนะแล้ว แต่ข้าจะบอกให้ ข้ามิใช่หญิงมิมีสกุลรุนชาติใดๆ หากท่านกล้าร้องขอให้ข้าทำเรื่องน่าอายพรรค์นั้นกับท่าน ท่านตายแน่” ซูหลิงยู่ชูกำปั้นข่มขู่
เฉินเฟิงกลับสีหน้าทะมึน ข้าดูเป็นคนอย่างนั้นหรือไร? เด็กน้อยไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้า ต่อให้ถอดเสื้อผ้าหมดก็มิมีเนื้อหนังอันใด ยังทำเรื่องน่าอายกับเจ้าเนี่ยนะ
เห็นเฉินเฟิงไม่กล่าวคำ ซูหลิงยู่แอบได้ใจกลายๆ เขาต้องตกใจเพราะคำขู่ของเธอแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...