บทที่193 ดื่ม หรือจะตาย
ถ้าเย่หมิงเหวินคิดว่าพึ่งพิงตระกูลเย่มาขู่ให้เฉินเฟิงตกใจได้ เช่นนั้นอาเหาก็ได้แต่พูดว่า เย่หมิงเหวินช่างเด็กน้อยเหลือเกิน
อาเหาตบไปทีหนึ่งนี้ เป็นการตบให้เย่หมิงเหวินมึนงงถึงที่สุด เขานึกไม่ถึงว่าแม้จะเผยชื่อของตระกูลเย่ออกมาแล้ว อาเหายังกล้าลงมือ
เย่หมิงเหวินกระหืดกระหอบ จ้องอาเหาตาเขม็ง ไฟโกรธในดวงตาพุ่งกระฉูดไม่ขาด
“ทำไม ไม่ยอม?” อาเหามองเย่หมิงเหวินอย่างเมินเฉย ถ้าเย่หมิงเหวินไม่ยอม เขาก็จะตีจนกว่าเย่หมิงเหวินจะยอม!
“ยอม! ฉันยอม!” เย่หมิงเหวินกัดฟันพ่นคำสองคำนี้ออกมา เขากล้าบอกว่าไม่ยอมเหรอ? เขาไม่กล้า!
“ยอมแล้วยังไม่คุกเข่าลง” อาเหาเอ่ยปากอย่างเรียบนิ่ง สำหรับเฉินเฟิง เขาเคารพมาจากหัวใจ ด้านหนึ่งเป็นเพราะความสามารถของเฉินเฟิง แต่ยิ่งกว่านั้นกลับเป็นเพราะนิสัยของเฉินเฟิงเป็นผู้ที่ซื่อตรงและชอบธรรมอย่างแท้จริง
เย่หมิงเหวินเหยียดหยามเขาได้ แต่เหยียดหยามเฉินเฟิงไม่ได้!
เสียง“ฟุบฟับ”ดังขึ้น เย่หมิงเหวินคุกเข่าลงไปตรงพื้นต่อหน้าเฉินเฟิงทันที
ชายชาตรีย่อมไม่ต่อสู้เมื่อรู้ว่าไม่มีทางสู้ได้!
เย่หมิงเหวินกัดฟันไว้แน่น ปล่อยให้ความอาฆาตแค้นพุ่งโจมตีจิตใจของตนเอง เขาจะจำความรู้สึกเวลานี้ไว้ ตอนที่ออกไปจากประตูบานนี้ เขาจะนำความอัปยศอดสูที่ได้รับทั้งหมด กลับไปที่ตัวของเฉินเฟิงและอาเหาเป็นร้อยเท่า
เห็นเย่หมิงเหวินคุกเข่าแล้ว ท่าทางคังไห่โปและหวังฉีซานก็ดีใจยกใหญ่
“ท่านเชิน!”
ท่านเชินมาได้อย่างไรกัน?
สำหรับกู้ตงเชิน ทั้งสองคนคุ้นเคยกันอย่างเป็นธรรมชาติ เจ้าพ่อใต้ดินของเมืองชางโจวเขตตะวันตก บนถนนยังครอบครองชื่อเสียงอันโด่งดังไร้เทียมทาน!
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีสองตระกูลอยู่เบื้องหลัง พอเห็นกู้ตงเชินเข้า ล้วนเพิ่มความเคารพขึ้นอีก
“กู้ตงเชิน!” บนหน้าเย่หมิงเหวินก็มีความยินดีเช่นกัน แต่ที่ไม่เหมือนกับคังไห่โปและหวังฉีซานก็คือเขาไม่ได้เรียกกู้ตงเชินว่าท่านเชิน แต่ว่าเรียกชื่อของกู้ตงเชินไปตรงๆ โดยเฉพาะเขามีที่พึ่งเป็นตระกูลเย่ เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลเย่ ไม่ว่าสถานะตำแหน่ง ถึงแม้จะแย่กว่ากู้ตงเชินระดับหนึ่ง แต่กลับไม่ได้แย่ถึงขั้นเรียกกู้ตงเชินว่าท่านเชิน
“ท่านเชิน ช่วยด้วย!”
คังไห่โปและหวังฉีซานเกือบคลานกลิ้งเกลือกไปแทบเท้าของกู้ตงเชิน
“กู้ตงเชิน รีบช่วยฉันจัดการคนพันธุ์ผสมนี้ให้ฉันด้วย!” เย่หมิงเหวินชี้ไปที่จมูกของอาเหา พูดสั่งอย่างโหดเหี้ยม ในสายตาเขา ขอเพียงกู้ตงเชินไม่ใช่คนโง่ น่าจะรู้ว่าระหว่างตระกูลเย่กับลูกเขยแต่งเข้าบ้านสวะคนหนึ่ง ควรยืนอยู่ฝั่งไหน
กู้ตงเชินไม่ได้พูดอะไร แต่เดินมาตรงหน้าของเย่หมิงเหวินโดยตรง เอ่ยปากด้วยท่าทางไร้ความรู้สึก “นายอยากจะจัดการใครให้ตาย?”
เย่หมิงเหวินมึนงง ชี้ไปทางอาเหา จากนั้นก็ชี้ไปทางเฉินเฟิงอีก แล้วบอกว่า “พวกคนพันธุ์ผสมพวกนี้ แถมยังมีเจ้าสวะนี้ด้วย จัดการทั้งสองคนให้ฉันหมดเลย”
“ยังมีนังคนเลวนี้ด้วย คืนนี้ฉันจะให้หล่อนมานอนบนเตียงฉัน!” เย่หมิงเหวินย้ายสายตาไปทางเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว ความหยาบกระด้างในสายตาไม่ปิดบังแม้สักนิดเดียว
กู้ตงเชินถอนหายใจทีหนึ่ง เย่หมิงเหวินนี่จริงๆ เลย ไม่รู้คำว่าตายเขียนอย่างไรสินะ
เห็นกู้ตงเชินไม่พูดจา เย่หมิงเหวินอดขมวดหัวคิ้วไม่ได้ “กู้ตงเชิน นี่เป็นถิ่นของนาย อย่าบอกฉันนะว่านายทำไมได้?”
กู้ตงเชินส่ายหน้าแล้วมองเย่หมิงเหวินอย่างเห็นใจแวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็เอ่ยปากถาม “เย่หมิงเหวิน นายอยากตายยังไง?”
พอคำพูดนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นสีหน้าเย่หมิงเหวินก็เปลี่ยนไป
“กู้ตงเชิน นายหมายความว่าอะไร? ฉันเป็นตระกูลเย่……”
“ตระกูลเย่?” เย่หมิงเหวินยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกกู้ตงเชินหัวเราะเยาะขัดจังหวะ “ต่อให้เย่ไห่ตงหัวหน้าตระกูลของพวกนายมาแล้ว ฉันก็จะพูดคำนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนายก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่ง”
พูดจบ กู้ตงเชินถีบบนท้องของเย่หมิงเหวินไปทีหนึ่ง จนเย่หมิงเหวินล้มลงอย่างอเนจอนาถ
“กู้ตงเชิน นายอยากตายเหรอ!”
เย่หมิงเหวินดวงตาแดงก่ำ เหมือนสิงโตผู้บ้าคลั่งตัวหนึ่งที่คำรามกระโจนเข้าไปทางกู้ตงเชิน
กู้ตงเชินส่งเสียงหัวเราะเยาะ โบกๆ มือ ชั่วพริบตาเดียวด้านหลังก็มีนักเลงเจ็ดแปดคนโผล่ออกมา
คนกลุ่มหนึ่งล้อมเย่หมิงเหวินไว้ จากนั้นเริ่มเตะต่อยขึ้นมา
ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็ทำให้เย่หมิงเหวินได้แต่หายใจเข้า ไม่ได้หายใจออก
หลังจากเก็บกวาดเย่หมิงเหวินแล้ว กู้ตงเชินเดินไปตรงหน้าของเฉินเฟิง ตบๆ มือ เอ่ยปากอย่างเคารพ “คุณชายเฉิน ควรจัดการพวกโง่สามคนนี้อย่างไรดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...