บทที่ 211สำนักชายแดนเหมียว
“วิ่ง!”
ทันใดนั้น ผู้เฒ่าผอมตัดสินใจทันที ว่าเขาต้องวิ่งออกไป
ถึงแม้ว่าระยะห่างระหว่างเมืองชางโจวกับเมืองหนานหนิงนั้น คนที่สามารถข่มขู่เขาได้มีไม่กี่คน แต่เขาก็ไม่อยากที่จะลอง
ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาล่ะ งั้นก็หมายความว่าจบสิ้นชีวิตน้อยๆ นี้ไปแล้ว
ผู้เฒ่าผอมเพิ่งก้าวเท้าหน้าออกไป เฉินเฟิงก็มาถึงในทันที
แล้วเห็นเด็กสาวหน้าซีดที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น เฉินเฟิงย่นคิ้วหากันทันที พลันความคิดเย็นชาโผล่ขึ้นมาทันที
ที่แท้ก็ฝึกวิชาด้านมืด!
หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ!
เฉินเฟิงโมโหเดือดพล่าน แต่ว่าเขายังคงต้องตามแกะร่องรอยผู้เฒ่าผอมมาให้ได้
สำหรับผู้เฒ่าผอมแล้วตอนไหนเขาก็มีโอกาสที่จะจัดการได้เสมอ แต่ว่าสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้ จูเจียเหยียนกับเด็กสาวอีกสามคน ถ้าเขาไม่ช่วยชีวิตเอาไว้ เกรงว่าคงไม่พ้นกับคำว่าตายแน่ๆ
เฉินเฟิงย่อตัวลง เพื่อสังเกตอาการของเด็กสาวทั้งสี่คน เลยพบว่าลมปราณของเด็กสาวทั้งสี่คนนั้นมันปั่นป่วนไปหมด
เฉินเฟิงย่นคิ้ว ลมปราณที่ปั่นป่วนนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากการถูกดูดพลังที่มากเกินไป
เป็นวิธีการของดูดพลังของฝ่ายมืด....
เขตชายแดนเหมียว
มันต้องเกี่ยวข้องกับเขตชายแดนเหมียวแน่ๆ!
แววตาของเฉินเฟิงทอประกายแวววาวออกมา เขากับเซียวกั่วจงเคยผ่านยุคสมัยหวาเซี่ยมาด้วยกัน เคยอยู่ร่วมทีมเดียวกับเขตชายแดนเหมียวที่เป็นผู้นำมาก่อน พร้อมทั้งยังเคยเจอเด็กสาวไม่น้อยที่ถูกดูดพลังจนเสียชีวิต
หลังจากตรวจสอบแล้ว เด็กสาวที่ถูกดูดวิญญาณพวกนั้น คือตายด้วยกลุ่มคนเดียวกัน
ตอนนั้นคนเหล่านี้ฝึกวิชาวิทยายุทธคัมภีร์ยู่นูต่างวิ่งพล่านไปทั่วทุกหนแห่งของตามตะเข็บชายแดนเหมียวแต่ว่านิยมชมชอบในการใช้วิชาเดินลมปราณกับเด็กสาว ต่างตกเป็นเหยื่อของพวกเธอทั้งสิ้น
ในตอนนั้นเด็กสาวที่ตายไปกับวิทยายุทธมืดอย่างคัมภีร์ยู่นูเช่นนี้ ก็มีไม่น้อยกว่าร้อยคน!
หลังจากที่เซียวกั่วจงรู้แล้ว ก็เกิดอาการเดือดพล่านทันที ก็พาเฉินเฟิงออกมา คืนนี้ก็เดินทางมาตั้งสามร้อยลี้ เพื่อมาหาสำนักงานใหญ่ของสำนักยู่นู พร้อมทั้งฆ่าคนที่มีตำแหน่งสูงของสำนักยู่นูไปตั้งสิบกว่าคน พร้อมทั้งจัดการลูกน้องจนไม่เหลือซาก
ในช่วงกำลังหั้วจิ้งขั้นกลางนั้นท่านปรมาจารย์สำนักยู่นู ถูกเซียวกั่วจงตัดแขนขาออก จากนั้นก็โยนลงไปในหุบเขาอสรพิษ ทุกข์ทรมานอย่างเจ็บปวดสามวันสามคืนถึงจบชีวิตลง
ตามแนวตะเข็บชายแดนเหมียวที่ได้ยินข่าวต่างตกใจจนขวัญผวา!
เฉินเฟิงคิดว่า สำนักยู่นูปีนั้นถูกเซียวกั่วจงจัดการไปสิ้นซากแล้ว
ถึงแม้ว่าจะมีคนรอดชีวิตออกไปได้สองสามคน ก็ไม่กล้าที่จะปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง
แต่คาดไม่ถึงว่า วันนี้พลันพบกับคนของสำนักยู่นูที่นี่อีกครั้ง อีกอย่างการที่ได้เห็นคนคนนั้นดูดจิตวิญญาณอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้มีวรยุทธแก่กล้าในสำนักยู่นู
อย่างน้อยวรยุทธก็อยู่ในอ้านจิ้งขั้นกลาง
การมีวรยุทธ์อยู่ในอ้านจิ้งขั้นกลางสำหรับเฉินเฟิงในตอนนี้นั้น ไม่มีอะไรหรอก
ในโลกของศิลปะการต่อสู้ของเมืองชางโจวทั้งเมืองนี้ อ้านจิ้งขั้นกลางแต่มันกลับกลายเป็นเหมือนการมีอยู่ที่หายนะ
ตั้งแต่เวลาเมื่อยี่สิบก่อน หลังจากที่ เย่ตงเสี้ยวใช้เลือดล้างโลกบูโด โลกการบูโดในเมืองชางโจว จอมยุทธ์ก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถกลับมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...