บทที่ 218 ไร้คุณค่ายังเรื่องเยอะ
แม้ว่าจะถูกเฉินเฟิงพูดตรงๆ ว่าเป็นต้นเหตุให้เมืองชางโจวไร้เสถียรภาพที่สุด แต่ว่าเย่ไห่ถังก็ไม่ได้โกรธ แต่กลับรู้สึกสะใจเล็กน้อย
นับตั้งแต่ถูกเฉินเฟิงโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เย่ไห่ถัง ก็เกิดความรู้สึกพ่ายแพ้บางอย่าง รู้สึกว่าตนเองในสายตาเฉินเฟิง ก็เหมือนไร้ซึ่งตัวตน แต่ตอนนี้ คำพูดนี้ของเฉินเฟิง กลับพิสูจน์แล้วว่า เธอยังมีตัวตนอยู่บ้างในใจของเฉินเฟิง
“คุณเฉินอยากให้ฉันทำอะไรคะ” เย่ไห่ถังเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มหวาน การที่เฉินเฟิงจะช่วยเธอถ่วงดุลกับตระกูลเติ้ง ที่แท้ก็ไม่ได้ช่วยเปล่า
“ผมอยาก……ให้คุณช่วยผมปกป้องคนคนหนึ่ง” เฉินเฟิงเอ่ยอยากตะกุกตะกัก
“เสี้ยเมิ่งเหยาเหรอ” เย่ไห่ถังขมวดคิ้ว ถือเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความหมายที่เฉินเฟิงจะขอร้องเธอแบบนี้ เดิมเธอคิดว่า เฉินเฟิงจะให้เธอกลับไปเป็นแบบเดิม แต่คิดไม่ถึงว่า เฉินเฟิงจะบอกให้เธอคุ้มครองเสี้ยเมิ่งเหยา
เย่ไห่ถังรู้สึกแปลกประหลาดใจ เสี้ยเมิ่งเหยาตกลงเป็นใครกันแน่ถึงทำให้ เฉินเฟิงทุ่มเททำเพื่อหล่อนขนาดนี้
“ไม่ผิด” เฉินเฟิงตอบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม
“คุณเฉิน ไห่ถังขอพูดตามตรงเรื่องนี้ไห่ถังทำไม่ได้” เย่ไห่ถังส่ายหน้า เธอหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีมาตลอด ให้เธอไปปกป้องผู้หญิงอีกคน ไปเป็นบอดี้การ์ดให้ผู้หญิงคนนั้น เธอทำไม่ได้จริงๆ
“คุณหนู……” ป้าชิงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ เธอคิดไม่ถึงว่า เย่ไห่ถังจะปฏิเสธ สำหรับเธอ ข้อเสนอนี้ของเฉินเฟิง เป็นเรื่องง่ายมาก ก็แค่ให้เย่ไห่ถังคุ้มครองเสี้ยเมิ่งเหยาเท่านั้น ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอื่นอะไร ถือว่าเห็นแก่หน้าของเย่ไห่ถังมากแล้ว แต่เย่ไห่ถังยังทำแบบนี้ก็เท่ากับไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรแล้ว
มีความหยิ่งทระนงเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหยิ่งทระนงมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เสียเรื่องได้
“ทำไมถึงทำไม่ได้” เฉินเฟิงยิ้ม พร้อมทั้งเอ่ยถาม เย่ไห่ถังปฏิเสธ ตามที่เขาคาดเอาไว้ ผู้หญิงที่หยิ่งจองหองอย่างเธอ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ การที่ให้เธอไปปกป้องผู้หญิงอีกคน นั่นทำให้เธอต่ำต้อยอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธ เป็นเรื่องที่ปกติมาก
“ไม่ทำไม ก็คือทำไม่ได้” เย่ไห่ถังสองมือกอดอก โกรธเล็กน้อย
เฉินเฟิงยิ้มขมขื่น “ในเมื่อคุณเย่ทำไม่ได้ อย่างนั้นผมก็จะไม่ฝืนใจ”
ป้าชิงถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าจะตกลงกันได้เร็วขนาดนี้ สุดท้ายแล้ว เย่ไห่ถังที่ยังอายุยังน้อยอารมณ์ยังแปรปรวน
“คุณเฉิน ไห่ถังเธอยังไม่ประสีประสา ขอให้คุณเฉินอย่าได้ถือสาเลยนะคะ” ป้าชิงเอ่ย เย่ไห่ถังไม่ประสีประสา เธอจะไม่ประสีประสาได้อย่างไร ตระกูลเย่ตอนนี้คือน้ำนิ่งไหลลึก ชักศึกเข้าบ้านตระกูลเติ้งภายในก็ขาดสัมพันธ์ระหว่างจอมยุทธ์หากยังมาสร้างความไม่พอใจให้กับทายาทมหาเศรษฐีอย่างเฉินเฟิงอีก เช่นนั้นตระกูลตระกูลเย่คงต้องแย่แน่
“ป้าชิงพูดเกินไป ความรู้สึกของคุณหนู่เย่ ผมเข้าใจได้ เฉินเฟิงโบกไม้โบกมือ เขาไม่ใช่คนใจแคบไม่ใช่เพราะแค่เรื่องที่เย่ไห่ถังปฏิเสธเขา แล้วจะทำให้เขาไม่พอใจตระกูลตระกูลเย่
“ข้อเรียกร้องนี้คุณหนู่เย่อาจจะทำไม่ได้ ผมยังมีข้อเสนออื่นอีก คุณหนู่เย่จะลองรับฟังสักหน่อยไหม” เฉินเฟิงถาม
“คุณเฉินพูดมาได้เลยค่ะ” ป้าชิงสีหน้ายินดีปรีดา พร้อมทั้งรีบเอ่ยปาก คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะยังมีจุดผ่อนปรนให้แก้ตัวอยู่บ้าง
แม้ว่าเย่ไห่ถังจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็หูผึ่งคอยรอฟัง
“ผมหวังว่าคุณหนู่เย่วันหนึ่งในอนาคต ที่ภรรยาผมมีอันตรายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ คุณจะยื่นมือเข้าช่วยสักครั้ง” เฉินเฟิงเอ่ยพลางยิ้ม ความจริงแล้วเขานี่ต่างหากคือจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ดังนั้นตอนแรกเขาจึงเอ่ยว่าให้เย่ไห่ถังคุ้มครอง เสี้ยเมิ่งเหยา ก็เพื่อที่จะโยงให้มาถึงเรื่องที่พูดอยู่นี้
“ไม่มีปัญหา คุณเฉินเรื่องนี้ฉันรับปากแทนไห่ถังค่ะ ไม่รอให้เย่ไห่ถังพูด ป้าชิงก็รีบเอ่ยขึ้นมา เพราะเธอกลัวว่าเย่ไห่ถังจะทำเรื่องโง่เขลาขึ้นมาอีก แล้วพูดอะไรที่ไม่เกรงใจเฉินเฟิงออกมา ข้อเสนอนี้ของเฉินเฟิงเรียกได้ว่าใจกว้างจนไม่รู้จะกว้างยังไงแล้ว แค่ให้ตระกูลเย่ลงมือเพียงครั้งเดียว ไม่ใช่เอาตระกูลเย่ผูกติดไว้กับตัวของเสี้ยเมิ่งเหยา แลกกับการที่เฉินเฟิงลงมือครั้งเดียว การช่วยข่มตระกูลเติ้งเอาไว้ ต่อไปเขาก็คงไม่กล้าคิดจะทำอีก
“ความเห็นของคุณหนู่เย่ล่ะครับ” เฉินเฟิงมองเย่ไห่ถังเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม ตระกูลตระกูลเย่ สุดท้ายแล้วก็ต้องให้เย่ไห่ถังเป็นผู้ตัดสินใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...