บทที่ 24 ลำเอียง
ทั้งสองคนพาเดินไปถึงห้องทำงานท่านประธาน พอเปิดประตูเข้าไป หนังตาของเสี้ยห้าวก็กระตุกน้อย ๆ เป็นอย่างที่พูดจริง ๆ เสี้ยเมิ่งเหยามาหาเสี้ยหยุนเสิ้งก่อนเขาก้าวหนึ่งจริง ๆ และดูจากสีหน้าที่มืดขรึมถึงขีดสุดของเสี้ยหยุนเสิ้งตอนนี้แล้ว น่าจะเป็นเพราะได้ยินคำพูดของเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว
ในตอนที่เสี้ยห้าวกำลังคิดว่าจะเปิดปากพูดยังไงดีนั้น เสี้ยจื่อหลันก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนแล้ว
“เสี้ยเมิ่งเหยา เธอมันผู้หญิงไร้ยางอาย นี่เธอยังกล้ามาหาคุณปู่อีกเหรอ? !”
พอเห็นเสี้ยจื่อหลันที่มีท่าทางข่มขวัญแล้ว ดวงตาแดงคู่สวยของเสี้ยเมิ่งเหยามีแววสงสัยพาดผ่านขึ้นมา
แต่ว่าเฉินเฟิงที่อยู่ข้าง ๆ กลับหรี่ตาขึ้นอย่างอดไม่ได้ ก่อนหน้านั้นเสี้ยเมิ่งเหยาจะมาหาเสี้ยหยุนเสิ้งตามลำพัง เขาก็ไม่ค่อยไว้วางใจแล้ว เขารู้สึกว่าเสี้ยห้าวไม่มีทางยอมจำนนง่าย ๆ แน่ และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า ดูจากท่าทางของเสี้ยจื่อหลันแล้ว เห็นได้ชัดว่าเสี้ยห้าวจะต้องเตรียมบทพูดอีกชุดมาเรียบร้อยแล้ว
งั้นอย่างนี้ก็มีความหมายแล้ว !
“เสี้ยจื่อหลัน เธอหมายความว่าไง?” เสี้ยเมิ่งเหยาถามอย่างสงสัย
“ฉันหมายความว่าไงเหรอ?” เสี้ยจื่อหลันยิ้มเสียงเย็นถามต่อ “วันนี้ตอนเที่ยงเธอไปที่คลับเจวายมาใช่ไหม แล้วเธอก็ยังอยู่ในห้องส่วนตัวกับกู้ตงเชินตลอดทั้งบ่ายอีก!”
เสี้ยเมิ่งเหยาอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ใช่ฉันไปคลับเจวายมา แต่ว่าฉันไม่ได้อยู่ในห้องส่วนตัวกับกู้ตงเชินตลอดทั้งบ่ายนะ!”
“ขี้โม้ ! เสี้ยห้าวเขาเห็นทั้งหมดแล้ว เขาบอกว่าเธอเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกมาตลอดทั้งบ่าย!” เสี้ยจื่อหลันพยายามพูดให้ดูมีพลัง เธอคิดไม่ถึงว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะโง่เขลาขนาดนี้ ยังกล้ายอมรับว่าตัวเองไปคลับเจวายมาอีก
“เสี้ยห้าว!” เสี้ยเมิ่งเหยาหันหน้าไปอย่างเร็ว กัดฟันไว้แน่นและมองเสี้ยห้าวด้วยสายตาเย็นเฉียบ เธอเข้าใจแล้วว่าเสี้ยห้าวอยากจะคิดย้อนกลับมาทำร้ายเธอ จะมาใส่ร้ายป้ายสีเธออีก
เผชิญหน้ากับสายตาเย็นเฉียบของเสี้ยเมิ่งเหยา เสี้ยห้าวกลับไม่หวั่นสักนิด
“เสี้ยเมิ่งเหยา เธอมองฉันทำไม? ทำไม กล้าทำไม่กล้ารับเหรอ?”
“ฉันทำอะไร!” เสี้ยเมิ่งเหยาโกรธจนจะระเบิดแล้ว
“ทำอะไรเหรอ ตัวเธอรู้อยู่แก่ใจ” เสี้ยห้าวหือเสียงเย็น แล้วพูดขึ้น
“เสี้ยเมิ่งเหยา อย่าคิดว่าทุกคนเป็นคนโง่นะ ก่อนหน้านั้นที่เธอไปนอนกับหลินจงเหว่ยก็ช่างเถอะ ในเมื่อก็เพื่อตระกูลเสี้ยของพวกเรา แต่ว่าครั้งนี้ เธอไปนอนกับกู้ตงเชินมันไม่เกินไปหน่อยเหรอ เธอคิดว่าตัวเองเป็นอะไร ห้องน้ำสาธารณะเหรอ? ใครอยากจะนอนด้วยก็……”
“เพี๊ยะ”
เสี้ยจื่อหลันพูดยังไม่ทันจบ ฝ่ามือใหญ่ของเฉินเฟิงก็สะบัดไปที่หน้าเธอแล้ว
“จะพูดก็ใช้คำพูด ปากอย่าให้มันสกปรกขนาดนี้” เฉินเฟิงพูดขึ้นเสียงเรียบ เขาทนผู้หญิงโง่เขลาแบบเสี้ยจื่อหลันมามากพอแล้ว โดนคนหลอกใช้แล้วยังมีสีหน้ามาภาคภูมิใจอีก ถ้ายังไม่ให้การสั่งสอนเธอสักหน่อย เธอคงจะไม่รู้ว่าตัวเองแซ่อะไรแล้ว
เสี้ยจื่อหลันเอามือกุมหน้าตัวเองไว้ นิ่งอึ้งไปเลย เจ้าเฉินเฟิงเจ้าคนไร้ค่าคิดไม่ถึงว่าแม้แต่ตัวเธอยังกล้าตบเหรอ?
พอตั้งตัวได้แล้ว เสี้ยจื่อหลันก็โวยวายขึ้นมาทันที
“เจ้าคนไร้ค่า แกกล้าดียังไงมาตบฉัน!”
“แกมันน่าสมเพชเอง โดนคนสวมเขาเองแล้ว มีสิทธิ์อะไรเอาอารมณ์มาลงที่ฉัน!”
“แกทำไมไม่ไปตบเสี้ยเมิ่งเหยาผู้หญิงร่านที่ให้คนอื่นเอาไปทั่ว…..”
“เพี๊ยะ”
เฉินเฟิงฟาดไปที่หน้าเสี้ยจื่อหลันอีกหนึ่งฝ่ามือ แล้วเฉินเฟิงก็พูดเสียงเย็นว่า “ถ้าพูดภาษาคนไม่เป็น ฉันสามารถสอนเธอได้!”
พอเห็นข้อความนี้ สีหน้าของเสี้ยหยุนเสิ้งก็เย็นชาลง แล้วมองไปทางเสี้ยห้าวเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าคนสารเลว แกยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
แต่ว่าทำไมไม่รู้เสี้ยห้าวกลับไม่ลนลานแม้แต่นิดเดียว กลับพูดได้อย่างสีหน้าเรียบเฉยว่า “คุณปู่ ข้อความนั้นผมไม่ได้เป็นคนส่งให้เธอ คุณปู่ดูที่เบอร์โทรศัพท์นั้นให้ดี ๆ มันไม่ใช่เบอร์ผมสักหน่อย เสี้ยเมิ่งเหยาเธออยากจะใส่ร้ายผม”
เสี้ยหยุนเสิ้งมองไปทางเสี้ยเมิ่งเหยาอีกครั้ง
เสี้ยเมิ่งเหยาคิ้วขมวดกันเป็นปม เธอมองข้ามจุดนี้ไปจริง ๆ ด้วย เบอร์โทรศัพท์มือถือนี้ ไม่ใช่เบอร์ที่เสี้ยห้าวใช้ประจำจริง ๆ
“คุณปู่ ก่อนจะได้รับข้อความ เสี้ยห้าวได้โทรมาหาหนูก่อนแล้ว เขาบอกให้หนูไปหาที่คลับเจวาย” เสี้ยเมิ่งเหยาได้แต่พูดไปตามความเป็นจริง
“ฉันเคยโทรหาเธอเหรอ? เสี้ยเมิ่งเหยาเธออย่ามาพูดมั่ว ๆ นะ!” เสี้ยห้าวแสร้งทำเป็นไม่พอใจ แต่ในใจกลับกำลังดีใจอยู่ เห็นได้ชัดว่า เสี้ยเมิ่งเหยาที่ไม่ประสบการณ์ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ก่อนเขาจะวางแผนจัดการเสี้ยเมิ่งเหยานั้น เขาก็หาคนจัดการจดทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ใหม่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้เสี้ยหยุนเสิ้งจะให้คนไปสืบ ก็สืบไม่เจออะไรหรอก
เพราะฉะนั้นเรื่องก็กลายเป็นง่ายขึ้นแล้ว ทุกคนต่างก็ไม่มีหลักฐาน เวลานี้ก็ดูว่าใครจะพูดเก่งกว่ากันแล้ว
“นาย……” เสี้ยเมิ่งเหยาโกรธจนกัดฟันแน่น ในเมื่อเสี้ยห้าวยืนกรานไม่ยอมรับ เธอก็จนปัญญาแล้วจริง ๆ
เฉินเฟิงถอนหายใจอยู่ในใจ ภรรยาตัวเองช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจิตใจคนจะชั่วร้ายขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นญาติกันก็ตาม บางครั้งก็อาจจะผลักคุณตกเหวได้
หลักฐานเหรอ เขามีแน่นอนอยู่แล้ว กู้ตงเชินก็คือหลักฐานชิ้นที่ใหญ่ที่สุดไง!
ขอแค่เขาเรียกกู้ตงเชินมาสอบถามต่อหน้า เสี้ยห้าวก็ไม่กล้าไม่ยอมรับแล้ว
แต่เฉินเฟิงไม่อยากจะทำแบบนั้น เขาอยากจะยืมโอกาสนี้ ทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาเติบโตขึ้น การเป็นคนดีเกินไปบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“งั้นก็คือว่า เธอก็ไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอใช่ไหม?” น้ำเสียงของเสี้ยหยุนเสิ้งเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...