ลูกเขยมังกร นิยาย บท 251

บทที่251 เย่ไห่ถังนัดเจอ

“มาก……มากเกินไปแล้ว ฉันรับไว้ไม่ได้” เน่หย่วนรีบปัดมือ พูดจาไม่คล่องเท่าไรไปหมด

ถึงเขาจะอยากได้สินสอดทองหมั้น แต่เดิมทีเขาไม่อยากได้มากขนาดนั้น

สิบล้านนั้นเพียงแค่อยากขู่ให้จูกว่างฉวนตกใจ ให้จูกว่างฉวนรู้ถึงความยากแล้วถอยไปเท่านั้น

แต่พอเฉินเฟิงเอ่ยปาก ก็เป็นห้าสิบล้าน

นี่เขากล้ารับที่ไหนกัน?

แม้เขาจะเป็นพวกที่โลภในทรัพย์สินเงินทอง แต่ยังไม่โลภถึงขั้นแม้แต่ห้าสิบล้านยังกล้ารับมา

“เทียบกับความสุขของกว่างฉวนขึ้นมาแล้วไม่มากหรอก” เฉินเฟิงยิ้มเรียบๆ

“กลับไปผมจะให้คนโอนเงินมาให้คุณ” หลังพูดจบ เฉินเฟิงก็หมุนตัวออกไปแบบไม่หันหน้ากลับมา

เน่หย่วนตะลึงค้างอยู่ที่เดิม มองสายตาของแขกที่อยู่ภายในห้องโถงมากมายซึ่งกำลังอิจฉาสุดๆ แล้วก็ทำอะไรไม่ถูกเท่าไร

“บัตรนี้นายเก็บไว้เถอะ ห้าสิบล้านนั้น คิดเสียว่าฉันให้นายยืม”

หลังออกจากลิฟต์ เฉินเฟิงก็นำบัตรยื่นไปในมือจูกว่างฉวน สำหรับเขานั้น ห้าร้อยล้านไม่ได้มีความจำเป็นอะไร แต่หากห้าร้อยล้านมาอยู่ในมือจูกว่างฉวน จูกว่างฉวนกลับสามารถทำได้หลายเรื่อง

“ได้ ห้าร้อยล้านนี้ คิดเสียว่าฉันยืมนาย รอต่อไปฉันหาเงินได้ จะคืนนายสองเท่า”

จูกว่างฉวนรับบัตรมา ไม่ได้เกรงใจกับเฉินเฟิง หน้าตาชั่วร้ายของผู้คนในวันนี้ ถือว่าทำให้เขารับรู้ได้แล้ว เงินมีความสำคัญแค่ไหนในสังคมนี้

ไม่มีเงิน แม้แต่ขี้หมานายยังสู้ไม่ได้ อย่างน้อยขี้หมาก็ไม่มีใครอยากเหยียบสักนิด

เมื่อก่อนเขาไม่อยากติดหนี้เฉินเฟิงมากเกินไป เป็นเพียงเพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่มีกำลังชดใช้คืน

แต่ครั้งนี้ เขาอยากลองสักตั้ง เขาอยากใช้ห้าร้อยล้านนี้ของเฉินเฟิงหาเงินให้ได้มากกว่าห้าร้อยล้าน

เขาต้องบีบตัวเองสักครั้ง

“ดี” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ความจริงกำลังแฝงของจูกว่างฉวนยิ่งใหญ่อย่างมาก สิ่งที่เขาขาดก็คือโอกาสประจวบเหมาะที่จะบินขึ้นสู่ฟ้า

ขอเพียงมอบเวทีให้เขา สิ่งที่เขาทำก็จะไม่แย่กว่าคนอื่น

หลังออกมาจากโรงแรมจุนเสิ้ง

เฉินเฟิงกลับมาที่คฤหาสน์ยู่ฉวนซาน

ในคฤหาสน์ว่างเปล่า เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้อยู่ที่บ้าน

เฉินเฟิงถอนหายใจทีหนึ่ง ตั้งแต่เสี้ยเมิ่งเหยารู้สถานะผู้สืบทอดตระกูลเฉินของเขา ระหว่างเขากับเสี้ยเมิ่งเหยามีความเข้ากันไม่ได้โดยปริยาย

ครั้งก่อนที่แยกห่างกันชั่วคราวก็ไม่ได้ทำให้ความไม่เข้าใจนี้หายไป แต่ทว่ายังลึกเพิ่มขึ้นอีก

เฉินเฟิงจำใจอยู่บ้าง เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเรื่องราวแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าควรจัดการเช่นไร

ในเวลานี้ หมายเลขโทรศัพท์แปลกหน้าโทรเข้ามา

“เฉินเฟิง”

เสียงในสายโทรศัพท์กังวานมาก เสนาะหูราวกับนกขมิ้น

เย่ไห่ถัง?

พอครุ่นคิดแวบหนึ่ง ในที่สุดเฉินเฟิงก็ย้อนนึกได้ว่านี่คือเสียงของเย่ไห่ถัง

“มีธุระอะไร?” เสียงของเฉินเฟิงเย็นชาพอสมควร ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากพัวพันกับเย่ไห่ถังลึกเกินไป

“ไม่มีธุระแล้วโทรหาคุณไม่ได้เหรอ?”

น้ำเสียงของเย่ไห่ถังฟังดูเหมือนมีความหมายตำหนิระดับหนึ่ง

ไม่รอให้เฉินเฟิงเอ่ยปาก เย่ไห่ถังก็พูดต่อไปอีก “พรุ่งนี้ฉันอยากเจอคุณ”

“ผมไม่ว่าง” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว

“ฉันมีเรื่องอยากบอกคุณ”

“เรื่องอะไร?” เฉินเฟิงยักๆ คิ้ว เมื่อวานเขาพึ่งฆ่าเย่ไห่ตง หรือว่าเย่ไห่ถังมาหาเขาเพื่อพี่ชายของเธอ?

“เกี่ยวกับเสี้ยเมิ่งเหยา”

“เมิ่งเหยา?” คำตอบของเย่ไห่ถังทำให้เฉินเฟิงเกินคาดอยู่บ้าง เมิ่งเหยาเป็นอะไร?

“ถ้าอยากรู้ พรุ่งนี้ตอนสี่โมงเย็น เจอกันที่ถนนหวงเห้า” หลังพูดจบก็ไม่รอเฉินเฟิงตอบกลับ เย่ไห่ถังก็วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว

เฉินเฟิงส่ายหน้าอย่างจำใจอยู่บ้าง เย่ไห่ถังยังจัดการเขาได้อยู่หมัดจริงๆ รู้ว่าพอได้ยินข่าวของเสี้ยเมิ่งเหยา เขาจะสูญเสียความเหมาะสม

วันต่อมาตอนสี่โมงเย็น เฉินเฟิงมาถึงถนนหวงเห้าตรงเวลา

ถนนหวงเห้าอยู่ใจกลางเมืองของเมืองชางโจว ความหรูหราของที่นี่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก

ถึงแม้เป็นตอนสี่โมงเย็น แต่ถนนหวงเห้าก็เต็มไปด้วยผู้คน

เฉินเฟิงจอดรถไว้ริมถนน รอเย่ไห่ถังอยู่เงียบๆ

หลังจากนั้นสองสามนาที แลนด์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดด้านข้างเฉินเฟิง

กระจกรถปลดลง เผยใบหน้างดงามที่สง่าขาวนวลใบหนึ่งออกมา

คือเย่ไห่ถัง

“ขึ้นรถเถอะ” เย่ไห่ถังยิ้มหวาน

พอดึงประตูรถเปิด เฉินเฟิงก็นั่งไปที่นั่งข้างคนขับ

ไม่รู้ทำไมเขาถึงมีความไม่สบายใจ อุณหภูมิของเย่ไห่ถังเสมือนกับอากาศเดือนหก เปลี่ยนแปลงไป แวบเดียวก็หนาวเย็นราวกับเทพธิดาภูเขาน้ำแข็ง แวบหนึ่งก็ราวกับภูตสาวน่ารักแสนฉอเลาะ

“ว่ามาเถอะ เมิ่งเหยาเป็นอะไร?” เฉินเฟิงถามอย่างทนไม่ไหว

เย่ไห่ถังฉีกมุมปากขึ้น “เดินช็อปปิ้งเป็นเพื่อนฉัน เดินเสร็จแล้วฉันจะบอกคุณ”

มุมปากเฉินเฟิงหดลง เขาเคยคิดเงื่อนไขร้อยแปดที่เย่ไห่ถังจะเสนอขึ้นมา แต่ยังไม่เคยคิดแบบนี้ เดินช็อปปิ้ง?

“ทำไม ไม่ยอม?” เย่ไห่ถังยักคิ้วเรียวงอนที่ดูดีขึ้น

“ยอม” เฉินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถ้าเป็นไปได้เขายินยอมช่วยเย่ไห่ถังฆ่าใครสักคน แต่จะไม่ยินยอมไปเดินช็อปปิ้งกับเย่ไห่ถัง

“หึๆ งั้นไปเถอะ” เย่ไห่ถังหัวเราะคิกๆ เหยียบคันเร่งทันใด

ความรู้สึกดันกลับที่รุนแรงลอยขึ้นมา แลนด์โรเวอร์ของเย่ไห่ถังพุ่งไปราวกับวัวป่าที่หลุดบังเหียน คำรามขับเคลื่อนบนท้องถนนขึ้นมา

คนข้างถนนต่างจ้องมอง

“คุณขับช้าๆ หน่อย” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ที่นี่เป็นย่านการค้าที่เจริญคึกคัก เย่ไห่ถังกลับขับรถไปถึง140 ถ้าเกิดชนคนเข้าควรจะทำอย่างไรดี?

“คุณกลัวแล้วเหรอ?” เย่ไห่ถังฉีกมุมปากขึ้นหยอกล้อ

เฉินเฟิงมองค้อนทีหนึ่ง ไม่ได้สนใจเย่ไห่ถัง

“ผู้ชนะเลิศถ้วยรถเทพที่น่าเกรงขาม คาดไม่ถึงว่าจะกลัวรถเร็ว” เย่ไห่ถังซุบซิบไปประโยคหนึ่ง ไม่เพียงไม่ได้ลงความเร็วรถลง ทว่ายังเหยียบคันเร่งเพิ่มอีกครั้ง

แลนโรเวอร์สีดำพุ่งไปราวกับฟ้าแลบ ขับแทรกตัวในกระแสรถแซงหน้าไป ทิ้งรถแต่ละคันไว้ด้านหลัง

“แม่งเอ๊ย ไอ้คนนี้เมายาแล้วรึเปล่า?”

ที่ด้านหลังแลนด์โรเวอร์ขับไปไม่ไกลนัก บนมาเซราติสีเหลืองคันหนึ่ง ชายวัยรุ่นผมทองนั่งอยู่ที่นั่งคนขับตบพวงมาลัยอย่างแรง อดสบถด่าไม่ไหว

“คุณชายต้วน คุณ……คุณขับช้าๆ หน่อยสิ ฉันกลัว” ที่นั่งข้างคนขับ หญิงสาวที่ใส่เสื้อครอปเอ่ยปากเสียงสั่น

หลังจากที่มาเซราติถูกแลนด์โรเวอร์ขับแซงหน้าไป ชายวัยรุ่นผมทองคนนี้ก็เหยียบคันเร่งราวกับคนบ้า ผ่าไฟแดงบนถนนไปตั้งหลายที่

ก่อนหน้านี้หล่อนคิดว่าชายวัยรุ่นผมทองขับรถเร็วแล้วเท่มาก แต่ตอนที่หล่อนนั่งอยู่บนรถของชายวัยรุ่นผมทองจริง ขณะที่นั่งรถเร็วไปกับชายวัยรุ่นผมทองด้วยกันนั้น หล่อนกลับรู้สึกไม่เท่เลยสักนิด

ขับรถเร็วก็คือคนตัวจริงกำลังบินอยู่ตรงหน้า วิญญาณกำลังตามด้านหลัง

พอไม่ระวังสักนิด วิญญาณก็ไม่มีแล้ว

“กลัวอะไร?” ชายวัยรุ่นผมทองถลึงตาใส่สาวสวยหน้าพิมพ์นิยม จากนั้นเหยียบคันเร่งลงไปอีก พูดอย่างโหดเหี้ยม “วันนี้ฉันจะต้องตามเจ้าโง่นั้นให้ได้”

“ให้เขารู้ว่าที่ถนนหวงเห้าแห่งนี้ ใครถึงจะเป็นลูกพี่ใหญ่”

รถคันสีดำและคันสีเหลืองขับราวกับฟ้าแลบตัดสลับกันบนถนน

เป็นธรรมดาที่เย่ไห่ถังสังเกตได้ถึงมาเซราติที่ตามมาไม่เลิกอยู่หลังรถ

“เจ้าโง่” เธอหัวเราะเหยียดหยาม เหยียบคันเร่งไปจนสุด

ที่นั่งข้างคนขับ เฉินเฟิงหลับตาลงไปทันที เตรียมจะหลับสักหน่อย

เขาไม่คิดจะพูดเหตุผลกับเย่ไห่ถัง เพราะอยู่ที่นี่กับเย่ไห่ถังผู้หญิงบ้าคนนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรน่าพูดทั้งนั้น

สิบนาทีต่อมา เย่ไห่ถังนำรถมาจอดที่หน้าประตูห้างสรรพสินค้า

เธอไม่ได้ลงจากรถในวินาทีแรก แต่ว่ากำลังรอมาเซราติด้านหลังที่ตามเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร