ลูกเขยมังกร นิยาย บท 270

บทที่270 ตระกูลโห้ ณ เกาะก๊าง

“ศิษย์พี่ คุณเกินไปแล้วนะ!” ในตาของเฉินจื๋อเหวินมีไฟโกรธเดือดพล่าน เมื่อก่อนตอนที่อยู่แก๊งชาวจีนโพ้นทะเล ถึงแม้หวงเฟยห้าวจะไม่ลงรอยกับเขา แต่มีเจ้าสามหวงอยู่ อย่างไรเสียหวงเฟยห้าวยังคงควบคุมไว้บ้าง

แต่ตอนนี้ออกจากแก๊งชาวจีนโพ้นทะเล หวงเฟยห้าวกลับกำเริบเสิบสานขึ้นมาถึงที่สุด ล้วนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาโดยสิ้นเชิง

“เกินไปแล้ว?” ท่าทีของหวงเฟยห้าวก็เย็นลงมา เขาชายตามองเฉินจื๋อเหวิน บอกว่า “เกินไปแล้วจะยังไง? ศิษย์น้อง นายอยากจะลงมือกับฉัน?”

แก้มเฉินจื๋อเหวินตึงแน่น ควบคุมสุดกำลัง และไม่ได้พูดอะไร

หวงเฟยห้าวหัวเราะแห้งๆ “ถ้าลงมือแล้วล่ะก็ พวกนายสี่คนพี่น้องสามารถเข้ามาพร้อมกันได้ ให้ศิษย์พี่ดูหน่อย ออกไปจากแก๊งชาวจีนโพ้นทะเลแล้ว การฝึกฌานของพวกนายพัฒนาบ้างรึเปล่า”

เห็นเฉินจื๋อเหวินไม่พูด หวงเฟยห้าวก็ส่ายหน้าแล้วบอกว่า “ถ้าไม่ลงมือ อย่างนั้นศิษย์พี่ก็จะไปแล้ว คุณโห้ทางนั้น กำลังรอโชวูอยู่ล่ะ”

“คุณโห้เป็นใคร? คุณบากหน้าไปพึ่งพาเธอเหรอ?”

เฉินจื๋อเหวินกัดฟันถาม ตอนแรกที่เห็นหวงเฟยห้าวอยู่ที่นี่ เขาคิดว่าหวงเฟยห้าวมาพยายามเพื่อเจ้าสามหวง ปรากฏว่าหวงเฟยห้าวบอกมาหาโชวูเพื่อคุณโห้อะไรนี่

“ชื่อของคุณโห้นายยังไม่มีสิทธิ์รู้ ขอเพียงนายต้องจำไว้ คุณโห้เป็นคนของตระกูลโห้ ณ เกาะก๊างก็พอแล้ว” หวงเฟยห้าวท่าทางหยิ่งยโสที่สุด ราวกับบากหน้าไปพึ่งตระกูลโห้ ณ เกาะก๊าง เป็นเรื่องที่มีเกียรติอย่างยิ่ง

ตระกูลโห่ ณ เกาะก๊าง?

คนส่วนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านี้

แต่เฉินจื๋อเหวินกลับตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี

ไม่นึกเลยว่าจะเป็นตระกูลโห้ ณ เกาะก๊าง

อย่างไรเฉินจื๋อเหวินก็คิดไม่ถึง หวงเฟยห้าวจะกอดขาของตระกูลโห้ไว้

ตระกูลโห้ หนึ่งในตระกูลใหญ่สี่ตระกูลของแห่งเกาะก๊าง

ในข่าวลือ ระดับทรัพย์สินของตระกูลโห้มีห้าหกแสนล้าน!

สามสิบปีก่อน ตอนที่กลับถึงเกาะก๊าง ตำแหน่งเจ้าของตระกูลโห้ แม้กระทั่งยังเคยถูกผู้นำ รองผู้นำมาต้อนรับ

ถึงแม้จะเป็นตอนนี้ ระดับสูงของตระกูลโห้ยังคงสามารถพูดคุยกับคนกลุ่มนั้นที่อยู่ยอดสุดของหวาเซี่ยได้โดยตรง

หลายปีนี้ ถึงแม้ตระกูลโห้ที่เคยรุ่งเรืองจะตกอับลง แต่สิ่งที่พวกเขาลงทุนไปทุกที่ของหวาเซี่ย ยังคงมีเกือบแสนล้าน

ทุกที่ในหวาเซี่ยล้วนมีโรงเรียนและโรงงานที่พวกเขาสร้าง

ผลกระทบของพวกเขาต่อหวาเซี่ยถึงขั้นที่คนทั่วไปคนหนึ่งไม่มีทางจินตนาการได้

ในตาของเฉินจื๋อเหวินเต็มไปด้วยความกังวล ถ้าหวงเฟยห้าวเกาะขาของตระกูลโห้จริง นั้นพวกเขาอย่าคิดที่จะไล่พวกคนชั่วออกไปให้เจ้าสามหวงได้เลย

ถึงแม้เป็นตัวของเจ้าสามหวงเอง ล้วนไม่แน่ว่าสามารถทำอะไรหวงเฟยห้าวที่ตระกูลโห้คุ้มครองอยู่

เพราะตระกูลโห้มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่เพียงหนึ่งท่าน!

“ข่าวเรื่องบัวหิมะซินเจียง คุณเปิดเผยให้ตระกูลโห้รู้หรือไม่?” เฉินจื๋อเหวินสูดหายใจลึกๆ ถามขึ้น สถานการณ์เวลานี้ชัดเจนมาก เจ้าสามหวงได้รับบาดเจ็บหนัก แก๊งชาวจีนโพ้นทะเลถูกทำลาย พวกเขาลูกศิษย์เหล่านี้หนีแตกกระจายไปทั่ว

มีศิษย์บางคนยังคงซื่อสัตย์ภักดีต่อเจ้าสามหวง ตามหาวิธีช่วยรักษาเจ้าสามหวงไปทั่วทิศ

แต่มีศิษย์บางคนกลับทรยศต่อเจ้าสามหวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเอาความลับของบันทึกเจ้าสามหวงไปมอบตัว บากหน้าไปพึ่งพิงผู้มีอำนาจอื่นๆ

ไม่ต้องสงสัยสักนิดว่าหวงเฟยห้าวก็คือกลุ่มนั้นที่ทรยศเจ้าสามหวง เขาไม่เพียงหักหลังเจ้าสามหวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังนำข่าวเรื่องบัวหิมะซินเจียงที่สามารถช่วยรักษาเจ้าสามหวงเพียงหนึ่งเดียวไปบอกกับตระกูลโห้ ณ เกาะก๊าง เพื่อใช้เป็นใบมอบตัวของตนเอง

“ใช่ ข่าวของบัวหิมะซินเจียง ฉันเป็นคนเปิดเผยกับตระกูลโห้จริง” หวงเฟยห้าวหาวทีหนึ่งอย่างเกียจคร้าน “ศิษย์น้อง นายฉลาดมากเลย”

“หวงเฟยห้าว! ถ้าตระกูลโห้เอาบัวหิมะซินเจียงไป นายจะให้อาจารย์ทำยังไง? นายรู้รึเปล่าว่ามีเพียงบัวหิมะเท่านั้นที่จะช่วยอาจารย์ได้?” เฉินจื๋อเหวินสีหน้าเขียวพูดตะคอก หวงเฟยห้าวไม่ช่วยเจ้าสามหวงก็ช่างไป ยังนำเรื่องบัวหิมะซินเจียงที่เจ้าสามหวงเก็บซ่อนไว้เปิดเผยกับตระกูลโห้ นี่เป็นผีซ้ำด้ำพลอยอย่างไม่ต้องสงสัย

“ตาแก่แบบนั้นจะเป็นจะตายเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?” หวงเฟยห้าวส่งเสียงหัวเราะ

“อีกอย่างเจ้าแก่นั้นเป็นอาจารย์ของนาย ไม่ฉันอาจารย์ฉัน ต่อไปอย่าพูดถึงเขาต่อหน้าฉัน เขาจะเป็นจะตายไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิดเดียว!” หวงเฟยห้าวเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างมาก

“นาย……นายคนทรยศ ถ้าไม่ใช่ตอนนั้นอาจารย์เก็บนายมา นายคงอดตายข้างถนนไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้นายยังพูดแบบนี้อีก ไม่กลัวสวรรค์จะฟ้าผ่าใส่รึไง!” เฉินจื๋อเหวินโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว ชี้หน้าด่าหวงเฟยห้าว

หวงเฟยห้าวเบ้ปาก ทำหน้าไม่สนใจไยดี

“เอาล่ะ เฉินจื๋อเหวิน อย่ามาพูดเหลวไหล เห็นแก่ที่นายเป็นศิษย์น้องสำนักเดียวกับฉันมานาน ฉันจะบอกนายอย่างสัตย์จริง อีกสามวัน อย่าปรากฏตัวที่ยู่ฉวนซาน คุณโห้จองบัวหิมะซินเจียงเอาไว้แล้ว นั่นไม่ใช่ของที่นายสามารถมีส่วนแบ่งได้” หวงเฟยห้าวสีหน้าเย็นชา

“แน่นอน ถ้านายไม่ยอม อยากจะปะทะกับตระกูลโห้ นั้นศิษย์พี่ก็ไม่ขวางนาย”

“แต่ศิษย์พี่แนะนำนายว่าดีที่สุดเตรียมโลงศพสี่โลงไว้ล่วงหน้า” หวงเฟยห้าวหัวเราะเยาะ หลังพูดจบ ก็หมุนตัวออกไปอย่างไม่หันหน้า

แต่เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังกลับมีเสียงที่เฉื่อยเนือยลอยมา “ต่อยคนของฉัน นายอยากจะไปแบบนี้?”

หวงเฟยห้าวหยุดชะงักฝีเท้า หันหน้ามืดครึ้มกลับมา เห็นคนหนุ่มที่ยี่สิบห้ายี่สิบหกปีคนหนึ่งส่งเสียงขึ้น

เฉินเฟิงในเวลานี้ยืนตรงเอามือไพล่หลังไว้ สีหน้าไร้ความรู้สึก

“นายกำลังพูดกับฉัน?” หวงเฟยห้าวเอ่ยปากอย่างเย็นยะเยือก เมื่อสักครู่ตอนที่เฉินเฟิงปรากฏตัว เขามองเห็นเฉินเฟิงแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเขาไม่สนใจ รู้สึกว่าเฉินเฟิงก็คือลูกน้องของกู้ตงเชิน

แต่ตอนนี้ดูแล้ว เมื่อสักครู่เขาถูกตบตาแล้ว

เฉินเฟิงที่ดูเหมือนหน้าตาธรรมดา ถึงจะเป็นลูกพี่ของกลุ่มนี้

แม้แต่เฉินจื๋อเหวินยังแอบเห็นเฉินเฟิงเป็นหัวหน้า

“นายว่าไงนะ?” เฉินเฟิงก้าวมาด้านหน้า จ้องหวงเฟยห้าวไปตรงๆ แบบหน้าตาไร้ความรู้สึก

หวงเฟยห้าวหัวใจสั่น ไม่รู้ทำไมบนตัวเฉินเฟิงที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันตรายที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างหนึ่ง

กดทับลงจิตใจจนไม่สงบ หวงเฟยห้าวเอ่ยปากเสียงทุ้ม “นายจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับฉันเพื่อคนธรรมดาไม่กี่คน?”

คนธรรมดา นี่คือความคิดที่หวงเฟยห้าวมีต่อโจวจิ้งหลงคนเหล่านี้

สำหรับเขา คนธรรมดากับจอมยุทธ์ล้วนมีตัวตนในสองโลกโดยสิ้นเชิง

หวาเซี่ยที่ยิ่งใหญ่ มีประชากรหนึ่งพันสี่ร้อยล้านคน แต่จำนวนของจอมยุทธ์ แม้แต่หนึ่งล้านยังไม่ถึง

จอมยุทธ์แต่ละคนล้วนเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน

สถานะของพวกเขาสูงส่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ด้วยเช่นกัน

คนธรรมดาสำหรับจอมยุทธ์ นั้น ก็คือการมีตัวตนของตุ่นและมด

ดังนั้นอย่าพูดว่าทำร้ายตุ่นและมดไม่กี่ตัวเลย ถึงเหยียบตุ่นและมดตายไป เฉินเฟิงก็ไม่ควรมาคิดเล็กคิดน้อยกับเขา

เพื่อคนธรรมดาไม่กี่คน ผิดใจกับจอมยุทธ์คนหนึ่ง พฤติกรรมแบบนี้ช่างโง่เขลามาก!

“คนธรรมดา?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้น ส่ายหน้าอย่างสงบ “พวกเขาไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาเป็นเพื่อนของฉัน”

“เพื่อนนาย ฮ่าๆๆ” หวงเฟยห้าวหัวเราะกะทันหัน จากนั้นเขาเก็บรอยยิ้มฉับพลัน พูดด้วยหน้าเย็นชา “นายอยากออกหน้าแทนเพื่อนยังไง?”

“ตัดแขนตัวเอง หรือว่า……ตาย!” เฉินเฟิงสีหน้าไร้อารมณ์

“ตัดแขนตัวเอง?”

หวงเฟยห้าวโมโหจนหัวเราะ “เจ้าหนู นายมาล้อเล่นกับฉันเหรอ?”

“นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร