ลูกเขยมังกร นิยาย บท 273

บทที่ 273 รังแกคนเกินไป

พอเห็นโห้ชิงซงปล่อยมือ เซ่เชียนซานที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วขึ้นทันที “ท่านโห้!”

ถ้าให้โห้ชิงซงฆ่าเฉินเฟิงต่อหน้าเขา งั้นเขาก็คงไม่ต้องเป็นผู้อาวุโสของสหพันธ์บูโดนี่แล้ว

“ผู้อาวุโสเซ่ คนๆ นี้รังแกคนเกินไปแล้วนะ!”

โห้ชิงซงรู้สึกโกรธจนยั้งอารมณ์ไว้ไม่ไหว คนของตระกูลโห้ ตอนเดินอยู่ในแผ่นดินใหญ่ของหวาเซี่ย ต่อให้ข้าราชการขั้นสูง ก็ยังต้องมาต้อนรับเขาด้วยความเกรงใจเลย แต่ตอนนี้ คนๆ หนึ่งที่เป็นทายาทตระกูลร่ำรวยรุ่นที่สองที่เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อ กลับกล้ามาทำให้เขารู้สึกลำบากใจ แล้วทำให้ตระกูลโห้ต้องลำบากใจเหมือนกัน

นี่ไม่ใช่เป็นการรังแกคนอื่นเกินไป แล้วจะเรียกว่าอะไร!

“นี่นายจะให้หวงเฟยห้าวแขนหักไปข้างหนึ่งจริงๆ หรือไง?”

เซ่เชียนซานทำสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ มองเฉินเฟิงเพียงพริบตาเดียว เขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงมองไม่ออกจริงๆ หรอว่าความสัมพันธ์ของหวงเฟยห้าวกับตระกูลโห้ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่จอมปลอมจริงๆ

แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แค่วันนี้เฉินเฟิงจะฟันแขนของหวงเฟยห้าว งั้นเขากับตระกูลโห้ ก็คงไม่มีทางหวนความสัมพันธ์ที่ดีคืนกลับมาแน่นอน

ตระกูลโห้ต้องมีวิธีเป็นหลายหมื่นวิธีในการฆ่าเฉินเฟิงให้ตายแน่นอน

ตอนนั้นตอนให้สหพันธ์บูโดก็ไม่มีทางออกหน้าออกตาแทนเฉินเฟิงแน่นอน เพราะว่าเฉินเฟิงรนหาที่ตายเอง

“คำๆ เดิม ฉันไม่อยากพูดเป็นรอบที่สอง” เฉินเฟิงคลายยิ้มอ่อนๆ สหพันธ์บูโดมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ ทว่าสหพันธ์บูโดกลับไม่ได้มีอำนาจถึงกับเป็นมือฝ่าเดียวก็สามารถปกคลุมท้องฟ้าได้

อีกอย่างเขาออกหน้าออกตาเพื่อพวกโจวจิ้งหลง มีก็สมเหตุสมผลอยู่แล้ว ต่อให้เจ้าแห่งสหพันธ์บูโดมา ก็ไม่สามารถว่าอะไรเขาได้

“ดี” เซ่เชียนซานพยักหน้า แล้วละสายตาไปยังหวงเฟยห้าว “หวงเฟยห้าว นายหักแขนตัวเองเองเถอะ”

“ผู้อาวุโสเซ่...” หวงเฟยห้าวทำสีหน้าที่ขาวซีด เขานึกไม่ถึง แค่คำสั้นๆ ของเฉินเฟิงกลับทำให้เซ่เชียนซานทำการตัดสินใจแบบนี้

ถ้าจะหักแขนของตัวเองไปหนึ่งข้าง นี่ไม่ใช่ว่าจะตัดหนทางของการเป็นบูโดของเขาทิ้งหรอ?

"ทำไม ยังอยากจะให้ลงมือหรอ? " เซ่เชียนซานทำน้ำเสียงที่เย็นชา

"ไม่กล้า หวงเฟยห้าวก้มหน้าลงต่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

โห้ชิงซงกัดฟันแน่น นัยน์ตาฉายแววแห่งความโมโหออกมา

"ลงมือเองเถอะ" เซี่ยเชียนซานพูดด้วยเสียงเรียบเฉย ถ้าไม่ได้แบบนี้ไม่ได้ เขาก็ไม่อยากจะตัดสินใจทำแบบนี้ ทว่าวันนี้หวงเฟยห้าวทำให้คนได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสมาสามสิบกว่าคน เขาทำผิดกฎขั้นร้ายแรงของสหพันธ์จริงๆ ถ้าเขายังคิดจะปล่อยหวงเฟยห้าวไปอีก

ถ้าเดี๋ยวเฉินเฟิงไปบอกเรื่องนี้ให้กับสหพันธ์ งั้นเขาก็คงไม่มีชีวิตที่สงบสุข อย่างน้อยความผิดที่ละเลยหน้าที่ตัวเองก็คงหนีไม่พ้น

"ได้! " หวงเฟยห้าวกัดฟันแน่น จากนั้นก็ดึงดาบสั้นออกจากเอว แล้วแทงลงตรงแขนซ้ายของตัวเองแรงๆ

แต่ไม่รู้ว่าดาบของเขาทำมาจากวัสดุอะไร พอดาบสั้นแทงลงไป แขนซ้ายของเขาก็หักทันที ตรงจุดที่เป็นบาดแผล กลับดูเรียบเนียน

แขนที่หักนั้นหลุดลงไปบนพื้น ทันใดนั้นบาดแผลของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด หวงเฟยห้าวรู้สึกเจ็บปวดจนต้องร้องตะโกนออกมา แล้วนัยน์ตาที่มองเฉินเฟิงเต็มไปด้วยความอาฆาต เหมือนเขาเป็นสัตว์ป่าดุร้ายที่กำลังจะกลืนกินคน

"พอใจหรือยังไง? " โห้ชิงซงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา

"พอใจแล้ว" เฉินเฟิงหัวเราะเบาๆ

"ฉันไม่มีทางปล่อยนายไปง่ายๆ แน่นอน! " โห้ชิงซงกัดฟันพูด

"ฉันจะรอไว้"

"ท่านอาวุโสเซ่ เราไปกันได้หรือยัง" โห้ชิงซงกวาดสายตามองไปที่เซ่เชียนซาน

เซ่เชียนซานพยักหน้า แล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง "คุณโห้ หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ผมจะกลับเจียงเป่ย เรื่องบาดหมางของพวกคุณ ผมจะไม่สนใจอีก"

ความหมายโดยนัยคือความเป็นหรือความตายของเฉินเฟิง ก็จะไม่เกี่ยวข้องกับสหพันธ์อีก ถ้าโห้ชิงซงอยากจะลงไม้ลงมือกับเฉินเฟิง สหพันธ์จะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก

"ได้ ขอบคุณท่านอาวุโสเซ่"

โห้ชิงซงสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ แค่สหพันธ์ไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว งั้นเขาก็จะบีบเฉินเฟิงให้ตาย และง่ายเหมือนบีบแมลงให้ตาย

จากนั้นก็มีกลุ่มคนหนึ่งจากไป

ในใจของเฉินจื๋อเหวินกำลังแอบถอนหายใจ เฉินเฟิงยังไม่ค่อยมีสมองสักเท่าไหร่ เขากลับสร้างเรื่องบาดหมางใจเพื่อคนธรรมดาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

"คุณชายเฉิน เมื่อกี้ผู้เฒ่าคนนั้นพูดถึงสหพันธ์ มันคือองค์กรอะไรกันแน่? " กู้ตงเชินอดไม่ได้ที่จะถาม

เขาถูกความน่าเกรงขามของเซ่เชียนซานทำให้นิ่งงันไป เขาว่ากล่าวตำหนิเฉินจื๋อเหวิน ตบหน้าหวงเฟยห้าว แม้กระทั่งคนในตระกูลโห้ยังต้องยอมอ่อนข้อให้เขา

ทุกอย่าง ก็เพราะว่าเซ่เชียนซานคือคนของสหพันธ์ ดังนั้นกู้ตงเชินก็รู้สึกแปลกใจ สหพันธ์คือองค์กรอะไรกันแน่ แม้แต่ตระกูลโห้ยังสามารถไม่ให้เกียรติได้

"สหพันธ์ คือสมาคมบูโดที่ก่อนหน้านี้ทีเฉินเคยบอกให้......" เฉินเฟิงคลายยิ้ม แล้วก็พูดถึงที่มาที่ไปของสหพันธ์หนึ่งรอบ

หลังจากที่ได้ยินจนจบ กู้ตงเชินถึงกับขึงตาโต ใครก็นึกไม่ถึง หวาเซี่ยยังมีองค์กรที่เก่งกาจมากขนาดนี้

สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ และดาบกองพลพิเศษอะไรพวกนี้ ถ้ามาเทียบกับสหพันธ์ ก็ย่อมอ่อนแอกว่าอยู่แล้ว

ในแผ่นดินหวาเซี่ย สหพันธ์หลักมีสหพันธ์ย่อยอีก 36 แห่ง!

แทบจะทุกจังหวัด ทุกเทศบาล ก็จะมีสหพันธ์อยู่

สหพันธ์ที่มีสหพันธ์ย่อย อย่างน้อยก็คือคอยฝึกฝนให้จอมยุทธ์ต้องถึงขั้นหั้วจิ้นขั้นต้น ก็คือระดับขั้นของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้!

และนอกจากเจ้าแห่งสหพันธ์ แล้วยังมีรองเจ้าแห่งสหพันธ์ และมีท่านผู้อาวุโสเก้าท่าน

รองเจ้าแห่งสหพันธ์ต้องฝึกวิชาถึงขั้นไหนก็คงไม่ต้องพูดถึงก่อน แต่ถ้าเป็นผู้อาวุโสทั้งเก้าจำเป็นต้องฝึกถึงขั้นไหน อย่างต่ำก็คือขั้นอ้านจิ้งขั้นกลาง!

มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้สามสิบหกท่าน!

จอมยุทธ์อ้านจิ้งสี่ห้าร้อยคน!

คนพวกนั้นเป็นแค่หนึ่งอำนาจความน่าเกรงขามของสหพันธ์เท่านั้น!

ทว่าแค่คิดก็รู้ อำนาจของสหพันธ์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน

มีองค์กรปราบปรามที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ในหวาเซี่ย งั้นก็คงไม่กล้ามีใครทำอะไรแล้ว

แม้กระทั่งเฉินเฟิงก็ไม่สนใจความน่าเกรงขามของสหพันธ์

"คุณชายเฉิน คนของสหพันธ์ ทำไมถึงได้มีความสัมพันธ์กับตระกูลโห้? " เฉินจื๋อเหวินถามด้วยความกังวล เมื่อครู่เซ่เชียนซาน เหมือนจะยืนอยู่ฝ่ายเฉินเฟิง ทว่าคนที่ตาดีก็สามารถมองออกอย่างชัดเจน จริงๆ แล้วเซ่เชียนซานยืนอยู่ฝ่ายตระกูลโห้

และเรื่องที่เขาให้หวงเฟยห้าวตัดแขนของตัวเอง ก็แค่ต้องการจะทำตามกฎระเบียบของสหพันธ์เท่านั้น ถ้าไม่มีกฎของสหพันธ์ เขาไม่มีทางไปสนใจเฉินเฟิง

เฉินจื๋อเหวินก็เป็นกังวลไม่ได้ ถ้าตระกูลโห้มีสหพันธ์คอยหนุนหลัง งั้นการแก่งแย่งบัวหิมะซินเจียงครั้งนี้ พวกเขาก็คงไม่ต้องไปนึกถึงมันอีก

เฉินเฟิงเมีฐานะเป็นปรมาจารย์วิชาการต่อสู้ ทว่าเขาไม่สามารถต่อต้านสหพันธ์ได้ไหวหรอก!

"ฉันก็ไม่รู้" เฉินเฟิงส่ายหน้า "แต่ว่าคุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงมาก ความสัมพันธ์ของตระกูลโห้และสหพันธ์ ไม่ได้ลึกซึ้งเหมือนอย่างที่คุณคิดไว้ เซ่เชียนซานและคนของตระกูลโห้ พวกเขาสองคนคงจะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มากกว่านั้น"

"อีกอย่างสหพันธ์ โดยปกติแล้วก็คงไม่มีทางไปทำการต่อสู้ทางโลกและการแก่งแย่งผลประโยชน์อะไรหรอก หน้าที่ของสหพันธ์ ส่วนมากจะเป็นการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนเป็นสถานีตำรวจของวงการบูโดมากกว่า"

เฉินเฟิงพยักหน้า ตอนนี้แค่หวังว่าเป็นอย่างนี้

วัตถุดิบของชางโจวถูกตระกูลโห้เหมาไปหมดแล้ว ถ้าอยากจะซื้อยา ก็คงต้องไปซื้อถึงสถานที่อย่างเช่นเมืองจินหลิงหนานหลิง

ขณะเดียวกันถ้าจะสั่งการจางตงเฉิน ให้จางตงเฉินเริ่มแอบสืบความสัมพันธ์ของเซ่เชียนซานและตระกูลโห้

หลังจากกลางคืนที่กลับบ้าน เสิ่นหงชังก็โทรมา

"คุณชายเฉิน คนของตระกูลโห้มาชางโจว"

"ฉันรู้"

"คุณชายเฉินรู้? " เสิ่นหงชังรู้สึกตะลึงเล็กน้อย ทว่ากลับไม่ได้ถามมากอีก และพูดขึ้น "คุณชายเฉิน ครั้งนี้คนที่มาชางโจว คือคุณหนูสองตระกูลโห้หงเย้น"

"พอรู้ว่าเป็นโห้หงเย้นมาชางโจว เลขานุการหลี่ไปต้อนรับเธอด้วยตัวเอง อีกอย่างให้โรงแรมจุนเสิ้งจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ทว่าในงานเลี้ยง โห้หงเย้นกลับบอกว่าจะเจอฉัน"

"หลังจากที่ฉันไป โห้หงเย้นก็พูดถึงตามตรง หวังว่ายู่ฉวนซานจะงานในวันพรุ่งนี้หนึ่งวัน พวกเขาจะเข้าป่าไปหาของสิ่งหนึ่ง"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร