ลูกเขยมังกร นิยาย บท 276

บทที่ 276 ย่างกระต่ายป่า

"พกดาบสั้นมาหรือยัง? " เฉินเฟิงยิ้มพลางถามขึ้น

"พกแล้วครับ" เฉินจื๋อเหวินหยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วรีบเอาชักดาบสั้นออกมา จากนั้นก็ยื่นไปให้ในมือของเฉินเฟิง

เวลาเดียวกัน ในใจของรู้สึกตะลึง หรือว่าเฉินเฟิงจะลงมือเอง?

และตอนที่เฉินจื๋อเหวินเพิ่งมีความคิดนี้โผล่ออกมา ก็เหมือนจะรู้สึกตกใจกับภาพตรงหน้า นี่เฉินเฟิงเคยทำแบบนี้เป็นพันครั้งแล้วหรอ

สี่พี่น้องตระกูลเฉินอ้าปากค้าง แล้วถลึงตาโต ตีให้ตายยังไงพวกเขาก็นึกไม่ถึง เฉินเฟิงกลับยังมีฝีมือแบบนี้

เท่าที่เขารู้ เฉินเฟิงเป็นถึงคุณชายใหญ่ ชีวิตที่ผ่านมาก็จะชีวิตที่มีแต่คนปรนนิบัติดูแล เรื่องทำอาหาร ไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งที่คนใช้ควรทำหรือไง?

สี่พี่น้องตระกูลเฉินไม่รู้ ตอนที่เฉินเฟิงยังเด็ก เคยถูกแม่ของเขาโยนเข้ามาอยู่ในกลางป่าลึก แล้วให้เขาหาทางรอดของชีวิตด้วยตัวเอง

ตอนนั้นเขาต้องต่อสู้กับเสือและหมาป่า เพื่อทำตัวเหมือนสัตว์ป่าที่กินเลือดที่หิวโหย

พอเขาฝึกฝนและเก็บประสบการณ์มาเป็นปี เฉินเฟิงไม่เพียงแต่มีความสามารถทางด้านการฆ่าสัตว์ แม้กระทั่งวิธีการย่างสัตว์ป่าเขาก็เคยถูกฝึกฝนมาอย่างยอดเยี่ยม

เวลาช่วงนั้นตอนได้ใช้ชีวิตอยู่ในป่าลึก สัตว์ป่าที่ถูกเฉินเฟิงย่าง ไม่ถึงร้อยชนิด ก็คงจะมีเป็นจำนวนแปดสิบชนิดอยู่

แน่นอนว่านั่นจึงทำให้เฉินเฟิงชำนาญในการปิ้งย่าง

เวลานี้ เขาเริ่มย่างกระต่ายป่า จึงทำให้เขาดูคุ้นชินกับมันมาก

หลังจากสิบห้านาทีผ่านไป ก็มีกระต่ายป่าสองตัวที่ถูกย่างจนมีหนังเป็นสีทองอันหอมกรุ่นปรากฏขึ้นต่อหน้าสี่พี่น้องตระกูลเฉิน

จ๊อกๆ

สี่พี่น้องตระกูลเฉินจึงกลืนน้ำลายพร้อมๆ กัน

ค่ายที่ตระกูลโห้ตั้งไว้ไม่มีใครที่ไม่กลืนน้ำลายเลย ทหารรับจ้างไม่น้อยต่างก็กำลังกลืนน้ำลาย แล้วแต่ละคนก็กวาดสายตามาที่เฉินเฟิง

จากนั้นเขาก็แกะเนื้อกระต่ายย่างออกจากไม้ที่เสียบไว้ เฉินเฟิงค่อยๆ ฉีกมัน แล้วเอาเนื้อกระต่ายที่อ่อนๆ นุ่มๆ ยื่นไปให้สี่พี่น้องตระกูลเฉิน

"ขอบคุณคุณชายเฉินมากๆ นะครับ! "

เฉินจื๋อเหวินยังอยากจะทำตัวเกรงใจ ทว่าเฉินจื๋อโสงกลับยื่นรีบกัดเนื้อกระต่ายที่เฉินเฟิงยื่นให้

ตอนที่เนื้อกระต่ายเข้าปาก เฉินจื๋อโสงก็ขึงตาโตทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความคาดคิดไม่ถึง

"เป็นยังไงบ้าง? " เฉินจื๋อหลี่ถามขึ้นอย่างจริงจัง กระต่ายตัวนี้ที่เฉินเฟิงย่าง แค่ดูก็รู้แล้วว่าต้องอร่อย

เฉินจื๋อโสงไม่ได้เอ่ยพูดอะไร ทว่ากลับกัดแรงๆ อีกคำ สีหน้าเต็มไปด้วยการเศษสุข

เฉินจื๋อโสก็รีบรับเนื้อกระต่ายที่เฉินเฟิงยื่นมา หลังจากที่พูดคำว่าขอบคุณ เฉินจื๋อหลี่ก็กัดหนึ่งคำอย่างรีรอไม่ไหว หลังจากที่เนื้อกระต่ายเข้าปาก ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายแสงขึ้นมาทันที

"อร่อย อร่อยมากๆ! ชาตินี้ผมยังไม่เคยได้กินของอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย! "

เฉินจื๋อหลี่กินเนื้อกระต่ายในปากด้วย แล้วก็พูดประจบประแจงขึ้นอย่างไม่ลังเลใจ

"เนื้อกระต่ายของคุณชายเฉิน เป็นอาหารที่ดีมากจริงๆ! "

หนังหน้าของเฉินจื๋อเหวินไม่ได้หนาดเท่าเฉินจื๋อหลี ทว่านี่กลับออกจากส่วนลึกในใจของเขาจริงๆ

ฝีมือของเฉินเฟิง ไม่ได้แย่ไปกว่าเชฟที่อยู่ในร้านอาหารห้าดาวจริงๆ แม้กระทั่งยังสามารถชนะเชฟพวกนั้นได้

ไม่นาน เนื้อกระต่ายในมือของสี่พี่น้องพวกนั้นก็ถูกจัดการอย่างสะอาด หลังจากที่พวกเขากินจนหมด พวกเขาก็มองหน้ากัน แล้วต่างคนต่างก็พูดขึ้นด้วยความอึดอัดใจ

อร่อยมากๆ กินไม่อิ่มเลย

"ที่นี่ยังมีอีกตัว" เหมือนจะคาดหมายได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าต้องเป็นแบบนี้ เฉินเฟิงจึงยิ้ม แล้วก็เอากระต่ายป่าที่ย่างเสร็จออก จากนั้นก็ยื่นไปตรงหน้าพวกเขาสี่คน

ทั้งสี่คนผายมือขึ้นทันที "คุณชายเฉิน ตัวนี้เก็บไว้ให้คุณ......"

เฉินเฟิงส่ายหัวแล้วพูดแทรก จากนั้นก็เหลือบตามองสัตว์ป่าในป่าผืนเล็กแห่งนี้ แล้วยิ้มพลางพูด "ที่นี่ยังมีมากขนาดนี้ ฉันย่างเองได้"

ครั้งล่าสุดที่เขาย่างกระต่ายป่า ก็คงต้องสามปีที่แล้วที่เขาถูกคนไล่ฆ่า วันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสแบบนี้ เฉินเฟิงก็ต้องย่างให้มันสะใจ

จากนั้นก็ผลักไปผลักมา สุดท้ายสี่พี่น้องก็รับกระต่ายย่างไว้ แล้วเริ่มหั่นออกมา

ทุกคนของตระกูลโห้ แค่มองอยู่ข้างๆ อย่างอึ้งทึ่ง

ถึงแม้พวกเขาจะแบกอาหารพวกที่เป็นเป็ดย่างแบบนี้มา ทว่ามันกลับเป็นอาหารต่างระดับกับที่เฉินเฟิงทำ

หวงเฟยห้าวดูหน้าเขียวขึ้นมาทันที สี่พี่น้องตระกูลเฉินย่างไม่เป็น ทว่าเฉินเฟิงกลับเป็น อีกอย่างท่าทางของเขาดูคุ้นเคยมาก ทำให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก

หวงเฟยห้าวรู้สึกว่าหน้าของตัวเองกำลังเจ็บแสบ

จ๊อกๆ

ท้องของโห้หงเย้นร้องขึ้นเบาๆ

ถึงแม้เสียงจะเบา ทว่ากลับทำให้ทุกคนได้ยิน ทันใดนั้น สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความแปลกพิลึก

ใบหน้าของโห้หงเย้นดูแดงขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกอายเบาๆ เธอเคยกินอาหารที่อร่อยและมีระดับมากมาย แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถอดกลั้นอาการไว้อยู่ กระต่ายย่างของเฉินเฟิงมันหอมมากจริงๆ

"ลงโห้ ฉันก็จะเอา" โห้หงเย้นชี้ไปยังกระต่ายป่าที่มีกิ่งไม้เสียบอยู่ที่เฉินเฟิงทำ เธอในตอนนี้ ไม่เหมือนกับคุณหนูใหญ่ตระกูลโห้เลยสักนิด และกลับเหมือนสาวน้อยที่เห็นแก่กินมากกว่า

โห้ชิงซงรู้สึกอึดอัดใจแล้วมองโห้หงเย้นเพียงพริบตาเดียว "คุณหนูครับ ผมย่างไม่เป็นครับ"

โห้ชิงซงพูดได้ธรรมชาติและจริงจัง เขาที่เป็นจอมยุทธ์ของตระกูลโม้ ตำแหน่งของเขาก็สูงส่ง ปกติเขาก็ถูกเลี้ยงมาอย่างดี เขาจะเคยลงครัวด้วยตัวเองได้ยังไง อย่าว่าแต่ย่างกระต่ายป่าเลย ต่อให้หุงข้าว เขายังไม่เคยทำ เรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมาก็มีแต่คนใช้ของตระกูลโห้เท่านั้นที่ทำ

"ก็ได้" โห้หงเย้นทำปากจู๋อย่างไม่พอใจเล็กน้อย

จากนั้นก็ดึงสายตากลับมา แล้วพยายามไม่ให้ตัวเองไปมองกระต่ายป่าที่อยู่ที่กำลังย่างของเฉินเฟิง

ทว่ายิ่งเธอพยายามเอาชนะมัน ในใจของเธอก็ยิ่งรู้สึกคัน เหมือนมีมือเล็กๆ คอยจี้เธอ ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว

เวลานี้ หวงเฟยห้าวจึงกลอกลูกตาไปมา แล้วพูดขึ้นด้วยความทระนงตัว "คุณหนูครับ จะให้ผมไปแย่งเนื้อกระต่ายมันมาหน่อยไหมครับ"

"ไสหัวไป! เห็นหน้านาฉันก็รู้สึกเครียดแล้ว! "

โห้หงเย้นเหลือบตามองหวงเฟยห้าวเพียงพริบตาเดียวด้วยความรังเกียจ เธอไม่รู้จริงๆ ว่าในสมองของหวงเฟยห้าวมันมีอะไรบ้าง ให้เธอไปแย่งของกินจากคนอื่นงั้นหรอ?

ถ้าเรื่องนี้ถูกคนอื่นรู้จะทำยังไง?

เธอเป็นตั้งคุณหนูใหญ่ตระกูลโห้ ไม่ใช่อันธพาล

"คุณหนูอย่าโกรธเลยครับ ฉันจะไสหัวไปไกลๆ เดี๋ยวนี้" หวงเฟยห้าวคลายยิ้มแล้วถอยออกไปอยู่ข้างๆ เขาค่อนข้างไม่เข้าใจ เขากำลังคิดเผื่อโห้หงเย้นอยู่ไม่ใช่หรอ ทำไมโห้หงเย้นให้เขาไสหัวไป?

หลังจากที่ฟืนที่อยู่บนพื้นพอ เปลวไฟก็ลุกโชนแรงมากขึ้น รวมไปถึงฝีมือการย่างของเฉินเฟิงที่คุ้นเคย แม้ใช้เวลาทุกๆ เจ็ดแปดนาทีก็สามารถย่างสัตว์ป่าออกมาหลายๆ ตัวแล้ว

สี่พี่น้องตระกูลเฉินกินจนลืมตัว ปากของพวกเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมัน

แค่เวลาเพียงสั้นๆ ท้องของพวกเขาก็โตขึ้นมาทันที

เฉินจื๋อหลีกินจนเรอ ใบหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ

พอเห็นหวงเฟยห้าวกำลังจับจ้องตัวเองอย่างไม่พอใจ เฉินจื๋อหลี่กระตุกมุมขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

เขาเอากระต่ายป่าย่างออกขึ้นหนึ่งตัว แล้วยื่นขึ้นลงตรงหน้าหวงเฟยห้าว จากนั้นก็คลายยิ้มแล้วถามขึ้น "ศิษย์พี่หวง จะกินหนึ่งตัวไหม"

ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เฉินเฟิงจื๋อหลี่แค่อยากจะแก้แค้นที่หวงเฟยห้าวมาข่มเหงเขาเมื่อกี้นี้

"ไสหัวไป! "

หวงเฟยห้าวกัดฟันกรอด เขาไม่มีทางปล่ยให้เฉินจื๋อหลี่อยู่อย่างสบายใจแน่นอน

เฉินจื๋อหลี่คลายยิ้ม เขากลับไม่ได้สนใจ เหมือนอย่างหวงเฟยห้าว เขาก็ไม่ได้อยากจะเอากระต่ายแค่ตัวเดียวไปทำอะไรหวงเฟยห้าวหรอก ก็แค่อยากจะเยาะเย้ยหวงเฟยห้าวเท่านั้น

ทว่าใครจะไปรู้ โห้ชิงซงกลับพูดด้วยเสียงเย็นชา "หวงเฟยห้าว ไปเอากระต่ายป่าตัวนั้นมา"

"หา? " หวงเฟยห้าวอ้าปากกว้าง และมองโห้ชิงซงอย่างไม่เข้าใจ โห้ชิงซงกำลังหมายความว่าอะไร?

"นายหูหนวกหรือไง? " โห้ชิงซงทำสีหน้าที่เย็นชา "ฉันสั่งให้นายไปเอากระต่ายป่านั้นมา"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร