ลูกเขยมังกร นิยาย บท 341

บทที่ 341 แผลจากการโดนลอบทำร้าย

ตอนสือโพ่จุนมองเขา สายตาเต็มไปด้วยการค้นหา ไม่ได้ละลาบละล้วงอะไร แต่รังสีการฆ่าของเขากลับแผ่กำจายออกมาตอนนี้เอง

เพราะว่าวรยุทธ์สูงทำให้เฉินเฟิงไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าเป็นคนธรรมดา โดนรังสีนี้สาดเข้าไปคงตกใจเข่าอ่อนแน่ บางทีอาจจะหลงเหลือเอฟเฟคส์อะไรไว้ก็ไม่แน่อีก

“เฉินเฟิง ดูออกด้วยหรอ?” สือโพ่จุนรู้สึกตะลึงมาก เฉินเฟิงนี่สุดยอดจริงๆ เขาเคยโดนนินจาลอบทำร้ายตอนไปแย่งของกับคนญี่ปุ่นชื่อเสิ่นอิ่นที่ประเทศญี่ปุ่น ตันเถียนเลยได้รับบาดเจ็บตอนนั้น

พอกลับประเทศ ลมปราณภายในร่างกายเขาก็แปรปรวนไม่มั่นคงมาโดยตลอด ทำให้รังสีการฆ่าก็โดนผลกระทบไปด้วย เก็บรังสีไม่อยู่บ่อยๆ

สภาพนี้ทำให้เขาทุกข์มาก ถึงเขาจะเป็นจอมยุทธ์ แต่ภรรยาและลูกๆล้วนเป็นคนธรรมดา ทุกครั้งที่รังสีการฆ่าของเขาหลุดการควบคุม ก็จะทำให้ภรรยาและลูกๆตกใจแทบตาย

เพื่อไม่ให้ภรรยาและลูกๆใช้ชีวิตอย่างหวาดหวั่น หลายปีมานี้เขาแทบไม่กลับบ้านเลย

ความรู้สึกที่มีบ้านแต่กลับไม่ได้ คนที่โดนเท่านั้นถึงจะรู้

เฉินเฟิงยิ้มพยักหน้า ปกติแล้ว เหตุผลที่ทำให้จอมยุทธ์ควบคุมรังสีการฆ่าในตัวไม่อยู่มีแค่อย่างเดียวคือ ตันเถียนโดนลอบทำร้ายมาก่อน สือโพ่จุนวรยุทธ์ด้อยเล็กน้อย ไม่รู้ก็ไม่แปลก

ส่วนเฉินเฟิงได้รับการอบรมถ่ายทอดจากเซียวกั่วจง เลยไม่มีปัญหาพวกนี้

“เฉินเฟิง อาการบาดเจ็บของพี่นี่มีทางรักษาไหม?” สือโพ่จุนน้ำเสียงสั่นไหว ถามอย่างวาดหวัง เฉินเฟิงเป็นคนแรกที่มองออกว่าตันเถียน ของเขาโดนลอบทำร้ายมาก่อน ดังนั้นตอนนี้เขาทุ่มความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวเฉินเฟิง

“มี” เฉินเฟิงยิ้มน้อยๆ พยักหน้าอย่างมั่นใจ

“จริง...จริงหรอ?” สือโพ่จุนลอบกลืนน้ำลาย เหมือนไม่กล้าเชื่อ หลังจากตันเถียนได้รับบาดเจ็บ เขาไม่ใช่ไม่เคยเสาะหาหมอเก่งๆ แต่พอหมอพวกนั้นรู้ว่าเป็นตันเถียนของเขาที่ได้รับบาดเจ็บ ก็พากันส่ายหน้า แสดงความหมดหนทางของตัวเอง

เพราะตันเถียนเป็นจุดที่น่าพิศวงมากรองจากสมองของมนุษย์ กระทั่งหมอตะวันตกจำนวนมากไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในร่างกายคนเรามีตันเถียนด้วย พวกเขาคิดว่า ตันเถียนเป็นสิ่งที่คนหวาเซี่ยคิดกันออกมาเอง

ไม่มีอยู่จริง เท่ากับว่าไม่มีทางรักษา

แต่สือโพ่จุนที่เป็นจอมยุทธ์รู้ดีว่า ตันเถียนมีอยู่จริงในร่างกายคนเรา

คนธรรมดาพอกลายเป็นจอมยุทธ์ จะรู้ถึงการมีอยู่ของตันเถียน

นั่นเป็นจุดที่เก็บสะสมลมปราณ!

ในตำราโบราณ กล่าวว่า ตันเถียนก็คือแหล่งลมปราณ!

“จริง รักษาได้ตอนนี้เลย” เฉินเฟิงยิ้ม การโดนลอบทำร้ายที่ตันเถียนของสือโพ่จุน หมอธรรมดาอยากรักษา ยากกว่าขึ้นสวรรค์อีก

แต่สำหรับจอมยุทธ์อย่างเขาแล้ว แค่ยกมือก็ทำได้แล้ว

เพราะจอมยุทธ์รู้จักโครงสร้างของตันเถียน ยิ่งเป็นจอมยุทธ์ที่วรยุทธ์สูง ยิ่งเข้าใจมากขึ้น

“พี่สือ ตอนนี้พี่รวบรวมลมปราณทั้งหมดไปไว้ในตันเถียน และชกมาที่ผมหนึ่งหมัด ผมจะดูตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บของตันเถียนพี่ให้ชัดๆ” เฉินเฟิงบอก

“ได้” สือโพ่จุนพยักหน้า ไม่ลังเล เริ่มรวบลรวมลมปราณไปไว้ที่ตันเถียนทั้งหมดต่อหน้าเฉินเฟิง รังสีการฆ่ารุนแรงแผ่กำจายออกมาจากตันเถียนของสือโพ่จุน แผ่มาจากทั่วร่างกายมารวมกันที่หมัดของเขา

ปึ้ก!

สือโพ่จุนออกหมัด หมัดเร็วแทรกกลางอากาศจนเกิดเสียง

หมัดนี้มีพลังราวพันชั่ง ต่อให้เบื้องหน้าเป็นกำแพงเหล็ก สือโพ่จุนก็ชกกำแพงแตกได้!

แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขากลับไม่ใช่กำแพงเหล็ก แต่เป็นเฉินเฟิงที่น่ากลัวกว่ากำแพงเหล็กร้อยเท่า!

เฉินเฟิงใช้มือเพียงข้างเดียวก็หยุดหมัดสือโพ่จุนไว้ได้ แถมยังด้วยท่าทีสบายๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ออกเต็มแรง

“พี่สือ แรงยังไม่พอ” เฉินเฟิงส่ายหน้า แผลโดนลอบทำร้ายของตันเถียนสือโพ่จุนมีอายุนานแล้ว จะโผล่ออกมาก็ต่อเมื่อลมปราณถูกใช้ถึงขีดสุดเท่านั้น ตอนนี้ยังขาดอีกนิดหน่อย

ยังไม่พอ?

สือโพ่จุนเบิกตากว้าง ใจสั่นไม่หยุด

ถึงระดับของเขาจะเป็นแค่อ้านจิ้งชั้นกลาง แต่เพราะออกรบฆ่าฟันกับศัตรูหลายปี เลยทำให้ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าอ้านจิ้งชั้นปลายเท่าไหร่

แต่ตอนนี้หนึ่งหมัดเต็มแรงของเขา ในสายตาเฉินเฟิงกลับแลกมาแค่คำว่า แรงยังไม่พอ!

สือโพ่จุนใจสั่น ในขณะเดียวกันก็สลายสิ้นความกังขาสุดท้ายในตัวเฉินเฟิง

เฉินเฟิงต้องเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แน่

นอกจากปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แล้ว ไม่มีทางรับหมัดนี้ของเขาด้วยท่าทีสบายๆแบบนี้แน่!

พอคิดถึงตรงนี้ สือโพ่จุนไม่มีการออมแรงอีก และตะคอกเสียงดัง ส่งพลังทั่วร่างออกมา!

พริบตาเดียว สือโพ่จุนเส้นเลือดโปนข้างขมับ สีหน้าแดงก่ำ รังสีที่ตันเถียนเริ่มหมุนเวียนเหมือนพายุโหมกระหน่ำ พุ่งหมัดของเขาออกไป

ตอนนี้เอง!

เฉินเฟิงหรี่ตามอง สายตาเป็นประกายวาบหนึ่ง

อาศัยตอนสือโพ่จุนใช้พลังออกมา เขาเริ่มเดินลมปราณที่ตันเถียนของตัวเอง และใช้ปราณนั้นพุ่งพลังไปที่ร่างสือโพ่จุน

“อ๊ากส์!”

ตอนเฉินเฟิงใส่ปราณเข้าร่างกายตน สือโพ่จุนร้องโหยหวนออกมาหนึ่งที เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนเข็มแทงใจไปทั่วร่าง ความรู้สึกนั้นคล้ายกับโดนม้าแยกร่าง แล้วก็คล้ายโดนสับเป็นหมื่นชิ้น!

คนธรรมดาไม่มีทางทนรับไหวแน่!

แต่สือโพ่จุนไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นศิษย์สหพันธ์สงคราม!

ความเจ็บปวดที่ลมปราณเข้าร่าง ถึงจะแทงใจ แต่เทียบไม่ได้สักนิดกับความเจ็บปวดที่ต้องรบราฆ่าฟันกับศัตรูในหลายปีมานี้!

สือโพ่จุนกัดฟันกรอด ทนมันเอาไว้

เฉินเฟิงประกายตาส่อแววชื่นชมวาบขึ้นมา ความเจ็บปวดที่ลมปราณเข้าร่าง เขาเองก็เคยโดน มันเป็นตอนที่เขาอายุสิบห้าปีและเข้ารับเซียวกั่วจงเป็นอาจารย์

ตอนนั้นเซียวกั่วจงใช้ลมปราณของมหาปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ชำระล้างและเปิดเส้นชีพจรในร่างเขา แทบประกอบกระดูกขึ้นให้เขาใหม่

ต่อให้เขามีจิตใจมั่นคงแค่ไหน ระหว่างนั้นก็เจ็บจบสลบไปถึงสามครั้ง

ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาหลังจากสลบ เซียวกั่วจงจะบอกเขาว่า ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ จะยอมแพ้ก็ได้นะ

แต่ในพจนานุกรมของเขาในตอนนั้นไม่มีคำว่ายอมแพ้อยู่

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ถ้าตอนนั้นเขายอมแพ้ เขาคงไม่สามารถเป็นศิษย์คนสุดท้องของเซียวกั่วจงได้แน่

เพราะเซียวกั่วจงไม่ชอบขยะ!

ตอนลมปราณพุ่งเข้าตันเถียนของสือโพ่จุเหมือนพายุบ้าคลั่ง พริบตาเดียวก็พบว่าแผลที่ตันเถียนของสือโพ่จุนอยู่ตรงไหน อยู่ตรงจุดนี้นี่เอง

ที่นั่นยังหลงเหลือลมปราณสีดำหลายจุด เป็นเจ้าพวกลมปราณสีดำนี่เอง มันคอยเกาะกินตันเถียนของสือโพ่จุนในหลายปีมานี้ ทำให้เขานอนไม่ได้ และเหมือนอยู่ในสภาพหลุดการควบคุมตลอดเวลา

เฉินเฟิงหรี่ตามอง ลมปราณสีดำนี่ทำไมดูเหมือนลมปราณของนินจาที่ญี่ปุ่นนั่นล่ะ?

หรือว่าสือโพ่จุนเคยประมือกับนินจาของญี่ปุ่นมาก่อน?

เฉินเฟิงสะกดความสงสัยในใจไว้ เริ่มควบคุมลมปราณของตัวเองเข้าทำลายลมปราณสีดำนั่น

ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาราวหนึ่งนาที ในหนึ่งนาทีนี้ ที่ข้างขมับของสือโพ่จุนมีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดออกมาไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าอดทนถึงขีดสุดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร