ลูกเขยมังกร นิยาย บท 376

บทที่ 376 ก็แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย

“ใช่ใช่ใช่ ผมจะกลับไปบอกน้า” หนุ่มหัวทองรีบพยักหน้า ล้อเล่นน่า คนแบบเฉินเฟิงที่ใช้แค่มือเดียวก็ผลักประตูรถกระเด็นไปสิบกว่าเมตรได้ ต่อให้พวกเขามาเป็นร้อย ก็ไม่คณามือเฉินเฟิงหรอก

คนแบบนี้จะหาเรื่องเพิ้งเย้นฟาง ต่อให้สิบเพิ้งเย้นฟางก็เอาเขาไม่อยู่หรอก

เฉินเฟิงพยักหน้า: “เอาล่ะ พวกคุณไปกันได้แล้ว”

พอได้ยินอย่างนั้น ทุกคนรีบวิ่งหนีกันไปอย่างไว

“เดี๋ยว!” เฉินเฟิงกลับเรียกพวกเขาไว้

ทั้งหมดชะงักกึก มีหลายคนหงอขนาดขาเริ่มสั่น

เฉินเฟิงยิ้ม เดินไปยืนด้านหลังหนุ่มหมวกปากเป็ด ตบบ่าเขาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย: “คุณจะไปไหนล่ะ?”

“ฉัน...ฉัน...” หนุ่มหมวกปากเป็ดพูดตะกุกตะกักแทบไม่เป็นประโยค เฉินเฟิงไม่ใช่ว่าไม่ชอบหน้าเขา แล้วจะจัดการเขาหรอกนะ

“อย่ากลัวไปเลย ผมแค่จะให้คุณส่งผมกลับไปเท่านั้นเอง ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองมากอยู่ คุณไม่ส่งผมกลับไป จะให้ผมวิ่งกลับเองหรอไง?” เขาเห็นหนุ่มหมวกปากเป็ดกลัวแทบกางเกงราด ก็อดหน่ายใจไม่ได้ ใช่เรื่องต้องกลัวขนาดนี้หรือไง?

หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว หนุ่มหมวกปากเป็ดขับรถแท็กซี่พาเฉินเฟิงไปส่งโรงแรมจิ่นไท่โดยดี

ส่วนหนุ่มหัวทองหลังจากเฉินเฟิงจากไป เขารีบโทรหาเพิ้งเย้นฟางทันที

พอได้ยินว่าเฉินเฟิงใช้มือเดียวก็ผลักประตูรถกระเด็นไปสิบกว่าเมตร มือถือของเธอก็ร่วงพื้นดังแกร๊กทันที เธอมึนงงขึ้นมาทันที

และออกแนวไม่กล้าเชื่อด้วยว่า เฉินเฟิงที่หนุ่มหัวทองบอกเป็นคนเดียวกับเฉินเฟิงที่เธอเจอ

หลังจากตกใจกลัวเสร็จ ตามมาคือโกรธแค้น

เพิ้งเย้นฟางไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองจะโดนลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียคนหนึ่งข่มขู่เข้าให้

เธอหยิบมือถือขึ้นมาจากพื้น และโทรกลับไป

“คุณน้า ทำไมหรอ?” เผิงชิงเฟิงถามอย่างเหนื่อยใจ

“ชิงเฟิง ให้พ่อเธอจัดการสั่งสอนไอ้บ้านนอกนั่นซะหน่อย” เพิ้งเย้นฟางกัดฟันกรอดพลางพูด เธอไม่มีทางยอมทนความอัปยศนี้

เผิงชิงเฟิงตกใจ ส่ายหน้าพูดรัวๆว่า: “คุณน้า พูดอะไรน่ะ? ฐานะพ่อผมน้าไม่ใช่ไม่รู้ เขาไม่มีทางลงมือกับคนธรรมดาแน่”

“คนธรรมดา? เธอเอาตาที่ไหนมองว่าเจ้านั่นเป็นคนธรรมดาล่ะ? เขาใช้มือเดียวผลักประตูรถกระเด็นไกลสิบกว่าเมตรได้นี่ จะเป็นคนธรรมดาได้ยังไง?” เพิ้งเย้นฟางค้านเสียงสูง

“คุณน้า น้าจะบอกว่าเจ้านั่นเป็นจอมยุทธ์หรอ?” เผิงชิงเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง เพิ้งเย้นฟางไม่ได้บอกว่าหมอนี่เป็นลูกเขยแต่งเข้าเมียหรือไง?

อีกอย่างเจ้านั่นมาจงไห่ คือมาอาศัยใบบุญหวางหงอี้นี่นี คนแบบนี้นี่นะจะเป็นจอมยุทธ์ได้ไง?

“เขาเป็นจอมยุทธ์หรือเปล่า ให้พ่อเธอลงมือก็รู้แล้วไม่ใช่หรอ?” เพิ้งเย้นฟางยังไม่ยอมแพ้

“แต่ว่า...” เผิงชิงเฟิงยังลังเล

“แต่ว่าอะไร! มีอะไรน่าแต่นักหะ?!”

“พ่อนายเป็นผู้อาวุโสของสหพันธ์บูโด ให้เขาทดสอบฝีมือลูกเขยแต่งเข้าเมียคนหนึ่ง ง่ายเหมือนปอกกล้วยไม่ใช่หรือไง?!” เพิ้งเย้นฟางค้านขึ้น

“คุณน้า พ่อผมเป็นผู้อาวุโสสหพันธ์บูโดน่ะใช่ แต่เขาไม่สามารถไปหาเรื่องใครโดยไม่มีสาเหตุได้นะ มันเป็นกฎของสหพันธ์บูโดน่ะ” เผิงชิงเฟิงยิ้มเศร้า กฎของสหพันธ์บูโดเขารู้ดีกว่าใคร ไม่ว่าเฉินเฟิงจะเป็นจอมยุทธ์หรือไม่ ถ้าพ่อลงมือ เท่ากับทำผิดกฎสหพันธ์บูโดทันที

“ใครให้พ่อเธออยู่ดีๆไปหาเรื่องล่ะ? เผิงชิงเฟิง ตกลงสมองเธอนี่มีแต่น้ำหรือไง? หาเหตุผลสักข้อไม่ได้หรือไง?” เพิ้งเย้นฟางด่าเข้าให้

“คุณน้า น้าหมายความว่า...”

“โกหกไปสิ โกหกไม่เป็นหรือไงหะ? บอกพ่อนายว่า เจ้าบ้านนอกนั่นใช้มือเดียวผลักประตูรถกระเด็น แถมยังตบหน้าเธอหลายฉาดด้วย พ่อเธอก็มีเหตุผลจัดการมันแล้วไม่ใช่หรือไง?” เพิ้งเย้นฟางพูดอย่างอารมณ์เสีย กฎของสหพันธ์บูโดน่ะเธอพอรู้อยู่บ้าง ในสถานการณ์ปกติแล้ว จอมยุทธ์ไม่สามารถลงมือกับคนธรรมดาได้

ถ้าลงมือ สหพันธ์มีอำนาจในการตรวจสอบได้

“คุณน้า ไอเดียดีนะ ทำไมผมคิดไม่ถึงเนี่ย” เผิงชิงเฟิงตาเป็นประกาย พูดอย่างดีใจ

เพิ้งเย้นฟางมองบน สมองหมูอย่างเธอ วันๆนอกจากผู้หญิงก็คือผู้หญิง จะคิดอะไรแบบนี้ออกได้ไง

“คืนนี้พอพ่อเธอกลับมาแล้ว ก็บอกเขาว่า เธอโดนไอ้บ้านนอกนั่นตบเข้าให้ แต่อย่าบอกว่าเธอไปหาเรื่องมันก่อน มันถึงตบเธอนะ”

“บอกไปว่ามันหาเรื่องก่อน” เพิ้งเย้นฟางกำกับ

“วางใจเถอะ คุณน้า แสดงละครนี่ผมถนัด พ่อต้องเชื่อผมแน่” เผิงชิงเฟิงยิ้มร่า

“ได้ แสดงให้ดีล่ะ ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ ฉันจะให้ซือหยวนแนะนำเพื่อนให้เธอ” เพิ้งเย้นฟางบอก

“ขอบคุณครับคุณน้า!” พอได้ยินว่าเป็นเพื่อนหวางซือหยวน เผิงชิงเฟิงก็เบิกตาโต เพื่อนของหวางซือหยวนแต่ละคนเป็นสาวสวยขายาวหุ่นดีทั้งนั้น หลายคนในนั้นไม่ด้อยไปกว่าหวางซือหยวนเลย แถมบางคนยังสวยกว่าหวางซือหยวนซะด้วยซ้ำ

ทางนี้เพิ้งเย้นฟางกับเผิงชิงเฟิงปรึกษากันว่าจะเล่นงานเฉินเฟิงยังไง ทางด้านอู่จื้อเคอกับหลิวคุนก็ไม่ได้ว่าง

แทบจะในเวลาเดียวกับที่เฉินเฟิงกลับถึงโรงแรม อู่จื้อเคอก็หยิบแฟ้มเอกสารหนึ่งไปที่ฮงเยคลับ

พอเข้าห้องวีไอพี อู่จื้อเคอก็โยนเอกสารทิ้งลงโต๊ะดังโครม

“แม่งเอ๊ย พี่คุน ครั้งนี้พวกเรามองพลาดไปจริงๆ” อู่จื้อเคอด่ากราดออกมา

หลิวคุนกระตุกวูบในใจ: “มองพลาดไป? จะมองพลาดไปได้ยังไง? พี่ว่าเจ้าหมอนั่นมีแบ็คแน่ๆ”

“มีที่ไหนล่ะ!”

“พี่คุน เจ้านั่นมันเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย!” อู่จื้อเคอทนไม่ไหวด่าออกมาอีก

“ลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมีย?” หลิวคุนอุทานเสียงสูง ก่อนรีบหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาเปิดดู เปิดไปทีละหน้า สีหน้าหลิวคุนก็เคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายคิ้วขมวดเป็นปมโบว์เลยทีเดียว

“จื้อเคอ นายแน่ใจว่านะว่าข้อมูลพวกนี้เป็นของจริง?” หลิวคุนกัดฟันถาม ข้อมูลที่อู่จื้อเคอสืบมาได้บอกไว้แน่ชัดถึงเรื่องราวตลอดสามปีมานี้ของเฉินเฟิง เขาแต่งเข้าบ้านเสี้ย เป็นพนักงานส่งของของบริษัทแห่งหนึ่ง หลายวันก่อนพึ่งหย่ากับเมียและโดนไล่ออกจากบ้านเสี้ย

ถ้าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง งั้นครั้งนี้หน้าของเขากับอู่จื้อเคอก็โดนตบจนบวมไปแล้ว

สองคุณชายสุดรวยของจงไห่กลับตกใจกลัวกับลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียคนหนึ่ง

ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เขากับอู่จื้อเคอคงไม่ต้องอยู่ในวงการนี้อีกแล้ว พวกเขาสองคนคงกลายเป็นตัวตลกของทุกคนแน่

“เป็นเรื่องจริงสิพี่!”

“ข้อมูลพวกนี้ผมให้นักสืบสามคนไปสืบพร้อมกันเลย จะไม่จริงได้ไง? เจ้านี่เป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านเมียจริงๆ!” อู่จื้อเคอยืนยันหนักแน่น นักสืบเอกชนที่เขาจ้างมา พอรับรูปภาพไป ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันก็รู้ได้ว่าเฉินเฟิงเป็นคนชางโจว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร