ลูกเขยมังกร นิยาย บท 387

บทที่ 387 คนกระจอกที่ขับซานตาน่า

เซียวรั่วมุมปากกระตุก อยากอธิบายอีกสักหน่อย แต่มือถือเธอดังขึ้นมาซะก่อน พอรับสาย ก็ได้ยินเสียงเฉินเฟิงพูดอย่างเหนื่อยใจว่า: “เซียวรั่ว ออกมารับพี่หน่อย ยามหน้าประตูไม่ยอมให้เข้า”

“ไม่ยอมให้เข้า?” เซียวรั่วอึ้งก่อน และได้สติกลับมา วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดของมหาลัยจงไห่ ทางมหาลัยไม่ยอมให้คนภายนอกเข้ามาได้ กลัวว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายโดยไม่จำเป็น เลยมีแต่นักศึกษาที่นี่และศิษย์เก่าเท่านั้นที่เข้ามาได้

“พี่เฟิง รอก่อนนะ ฉันจะออกไปรับเดี๋ยวนี้ค่ะ” เซียวรั่วรีบบอก ยามของมหาลัยนิสัยยังไงเธอรู้ดี ถ้าเธอไม่รีบออกไป พวกเขามีสิทธ์ปะทะกับเฉินเฟิงได้แน่

“พี่เซียวรั่ว พี่โทรเรียกพี่เฉินเฟิงมาหรอ?” พอได้ยินคำเรียกจากปากเซียวรั่ว หลินหวั่นชีวปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ แต่สีหน้าแสดงความตื่นเต้นออกมา เดิมเธอคิดว่าเซียวรั่วแค่ล้อเธอเล่น แต่ไม่คิดเลยว่า เซียวรั่วจะโทรเรียกเฉินเฟิงมาจริงๆ และตอนนี้เฉินเฟิงก็มาถึงหน้ามหาลัยแล้วด้วย

“ตอนแรกกะจะเซอร์ไพร์สเธอ แต่ตอนนี้...” เซียวรั่วมองหลินหวั่นชีวพลางถอนหายใจ: “เธอก็เห็นแล้วนี่ ออกไปรับพี่เฉินเฟิงของเธอกับฉันด้วยกันไหม?”

หลินหวั่นชีวหน้าแดงเรื่อ เธอลังเลชั่วครู่ ก่อนพยักหน้าเบาๆ: “อืม ไปด้วยกันเถอะค่ะ”

พูดจบ ทั้งคู่ก็เดินคู่กันออกไป

พวกที่เหลืออยู่หลังเวทีสบตากันไปมา ก่อนรีบตามออกไป

นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะได้เห็นใบหน้าของคนรวยปริศนาที่ซื้อของขวัญให้เซียวรั่วไปหนึ่งล้านสี่แสนกว่าๆ พวกเขาไม่ยอมพลาดหรอก

นอกจากหวังหย่าหนานแล้ว ในที่นี้ไม่มีใครเคยเจอเฉินเฟิง ดังนั้นระหว่างทาง ทุกคนเลยเริ่มคิดวาดภาพเฉินเฟิงในหัว

ผู้ชายวัยกลางคนพุงพลุ้ย? หรือว่าคุณชายตระกูลสูงที่หล่อเหลา? หรืออาจจะเป็นบิ๊กบอสในตำนาน?

แค่ไม่กี่นาที ทุกคนต่างพากันคิดวาดภาพเฉินเฟิงไปเป็นพันเป็นหมื่นแบบ

แต่พอเจอตัวจริง ทุกคนก็ตะลึงมอง

บางคนยังขยี้ตาตัวเอง พวกเขาคิดว่าตัวเองตาฝาดไป ชายหนุ่มคนนั้นที่หน้าตาธรรมดาและยืนพูดคุยยิ้มแย้มกับยามหลายคน จะเป็นแฟนคลับอภิมหารวยที่ซื้อของขวัญให้เซียวรั่วจริงหรอ?

ล้อเล่นกันหนักเกินไปแล้ว!

คนแบบนี้จะมีปัญญาซื้อของขวัญราคาหนึ่งล้านกว่าหรอ งั้นคนอื่นบนถนนก็เป็นคนรวยกันหมดแล้วสิ?

สาวๆหลายคนทำหน้าผิดหวังสุดขีด ภาพจินตนาการทั้งหมดสลายกลายเป็นฟองสบู่เมื่อเจอเฉินเฟิง

พอเห็นเฉินเฟิง เซียวรั่วเองยังตะลึงชั่วครู่ ทำไมเฉินเฟิงที่เธอเจอครั้งนี้กับที่เจอครั้งก่อนถึงไม่เหมือนกันเลยล่ะ

เฉินเฟิงที่เธอเจอคราวที่แล้ว ทั้งดุดันเย่อหยิ่ง คำว่าไสหัวไปสองครั้งติด ทำหลิวคุนคุณชายตระกูลสูงอันดับต้นๆของมหาลัยจงไห่ตกใจหนีหางจุกตูดเลยทีเดียว

แต่เฉินเฟิงที่เธอเจอครั้งนี้ ให้ความรู้สึกว่าเป็นชายหนุ่มธรรมดา แถมท่าทีสนิทสนมกับคุยหัวเราะสูบบุหรี่กับยามนั่นอีก ดูกระจอกมากเลย

เหมือนเป็นคนละคนเลย

ถึงในใจจะตกใจแค่ไหน แต่เซียวรั่วก็ไม่เผยมันออกมาทางสีหน้าเลย กลับยิ้มดึงหลินหวั่นชีวที่หน้าแดงไปยืนหน้าเฉินเฟิง

“ขอโทษนะคะ พี่เฟิง ลืมบอกพี่ตอนโทรไปเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของมหาลัยจงไห่ในวันนี้ จะไม่ยอมให้คนนอกเข้ามหาลัย” เซียวรั่วยิ้มร่าเริงบอก

“ไม่เป็นไร พี่ก็พึ่งมาได้ไม่นาน” เฉินเฟิงยิ้ม ตอนเจอเขาที่หน้ามหาลัย ยามหลายคนเสียมารยาทกับเขามากอยู่ แต่พอบุหรี่ไม่กี่มวนสูบไป พวกเขาก็มีทีท่าดีขึ้น

“พี่เฉินเฟิง...” หลินหวั่นชีวมองเฉินเฟิงด้วยสีหน้าแดงก่ำ พอเห็นเขาเบนสายตามาทางเธอ เธอก็รีบก้มหน้าลง

เฉินเฟิงหน่ายใจเมื่อเห็นท่าทีของหลินหวั่นชีว เขาไม่ได้ตาบอด หลินหวั่นชีวชอบเขา เขาดูออก แต่ในใจเขาเต็มไปด้วยเสี้ยเมิ่งเหยาแล้ว ดังนั้นเขาเลยเห็นหลินหวั่นชีวเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอด

แต่เขาไม่รู้ว่าจะบอกหลินหวั่นชีวยังไงดี

“เรื่องการแสดงสู้ๆนะ พยายามนิ่งไว้ อย่าตื่นเต้น” สุดท้าย เขาเลยยิ้มกำชับหลินหวั่นชีวไปหน่อย ไม่ว่ายังไง ก็ต้องให้หลินหวั่นชีวแสดงการแสดงครั้งแรกในชีวิตนี่ออกมาให้ดีที่สุด

“ค่ะ” หลินหวั่นชีวพยักหน้าเบาๆ สายตาหม่นหมองลงวูบหนึ่ง

“พี่เฟิง มายังไงคะเนี่ย ขับรถหรือนั่งแท็กซี่มา?” เซียวรั่วถาม

“พี่ขับรถมาน่ะ” เฉินเฟิงชี้ไปที่ซานตาน่าที่จอดอยู่

“ซานตาน่า?!” พอเห็นรถของเฉินเฟิงคือซานตาน่า เซียวรั่วเบิกตากว้าง แววตาตกใจปิดไม่มิด อย่างเฉินเฟิง ยังไงก็ไม่น่าจะขับซานตาน่ามานี่นา

“ฉันมองไม่ผิดใช่ไหม? เขาขับรถซานตาน่า?”

“นายไม่ได้ดูผิด ซานตาน่าจริงๆ!”

“ฮะฮะฮะ น่าขำชะมัด ทำไมเขาไม่ขับรถตู้มาซะเลยล่ะ”

“เขาเห็นมหาลัยจงไห่ของเราเป็นอะไรเนี่ย? ที่เก็บขยะหรือไง? มีหน้าขับซานตาน่ามา ไม่ขายหน้าเลย”

“แถมยังเป็นซานตาน่ามือสองอีก ดูท่าจะขับมาเจ็ดแปดปีแล้วเนี่ย”

หนุ่มสาวมากมายพากันประชดประชันเฉินเฟิงอย่างไม่ไว้หน้า วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดมหาลัยจงไห่ มีศิษย์เก่ามากมายที่ประสบความสำเร็จกลับมาร่วมงานด้วย

ดังนั้นรถที่ขับเข้ามา อย่างน้อยสุดก็เป็นระดับออดี้A8 ดีขึ้นมาหน่อยก็มีปอร์เช่ เบนลีย์ หรือแม้แต่รถแข่งอย่างมาเซราติ

ซานตาน่าของเฉินเฟิงเรียกได้ว่าเป็นคันเดียว

ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางรถหรูทั้งหลาย

สำหรับการประชดประชันของคนรอบข้าง เฉินเฟิงทำแค่ยิ้ม และไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาไม่จำเป็นต้องถือสานักศึกษาที่ยังไม่ได้เข้าสังคมเลยพวกนี้

“หวังหย่าหนาน ยังจำได้ไหมว่าตัวเองเคยพูดอะไรไว้?” ตอนนี้เซียวรั่วยิ้มเย็นพูดออกมา เฉินเฟิงขับซานตาน่ามาดูกระจอกไปหน่อย แต่รถซานตาน่านี่ก็ตบหน้าหวังหย่าหนานเข้าฉาดใหญ่เลย

หวังหย่าหนานหน้าเปลี่ยนสี เธอจำได้อยู่แล้วว่าตัวเองพูดอะไรไว้ แต่ที่เธอพูดไปก่อนหน้านั้นไม่ได้พูดลอยๆ เธอมีหลักฐาน

ครั้งก่อนที่เฉินเฟิงตบหน้าหลิวคุนกับอู่จื้อเคอฉาดนั้นที่ฮงเยคลับ เธอยังจำได้ดี

เธอไม่เคยเห็นหลิวคุนกลัวเกรงใครขนาดนั้นมาก่อนเลย ตอนนั้นเธอเลยแน่ใจว่า เฉินเฟิงต้องมีเบื้องหลังอะไรที่แน่มาก ถึงได้พูดออกไปว่า เฉินเฟิงเป็นแฟนคลับคนรวยที่อยู่เบื้องหลังเซียวรั่ว

แต่ตอนนี้ เสื้อผ้าโลโซและรถซานตาน่ามือสองของเฉินเฟิงกลับตบหน้าเธอฉาดใหญ่

คนรวยที่ให้ของขวัญมูลค่าล้านกว่าได้ จะขับรถซานตาน่ามือสองให้ขายขี้หน้าคน?

ล้อเล่นอะไรเนี่ย?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร