บทที่ 410 คนดีถูกรังแก
จินเจี่ยจง ก็คือหนึ่งในนั้น
“มันเป็นเพียงความสงสัยและหลักฐานที่เฉพาะเจาะจงต้องตกอยู่กับเขา” เฉินเฟิงจองไปที่นักดาบญี่ปุ่นที่ถูกจับ
นักดาบญี่ปุ่นผู้นี้ตอนนี้เป็นประโยชน์ที่สุด เราอาจหาหลักฐานการลงมือของจินเจี่ยจงจากตัวเขาได้
“ฉันจะพาเขากลับไปเพื่อสอบปากคำ” มีความดุร้ายในดวงตาของสือโพ่จุน สหพันธ์สงครามก็ต้องรับผิดชอบต่อสงครามต่างประเทศอยู่แล้ว เช่นเดียวกับวันนี้ที่นักดาบญี่ปุ่น ลอบสังหารจอมยุทธ์หวาเซี่ยบนท้องถนน อยู่ในขอบเขตของการรับผิดชอบสหพันธ์สงคราม
“ได้” เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย อันที่จริงเขาไม่ได้คาดหวังกับการสอบปากคำมากนัก มีความเป็นไปได้สูง ว่าสือโพ่จุนไม่สามารถถามอะไรจากนักดาบญี่ปุ่นได้หรอก
นักดาบญี่ปุ่นรู้ดีแก่ใจ หากตนเองไม่พูดความจริงออกไป อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้อยู่รอด หากกล้าพูดความจริงออกไป คงต้องลงเอยด้วยการตายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นจินเจี่ยจง หรือว่าสหพันธ์สงครามต่างก็ไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่แน่
ทางรอดเดียวของเขาคืออดทน อดทนจนกว่าจินเจี่ยจงจะช่วยเหลือเขา
อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่เฉินเฟิงออกจากฮงเยคลับ
ในที่สุดหลินหลันก็โล่งใจ
หลินเย่นหันไปมองหวางเต๋อฝู กล่าวอย่างรู้สึกเสียใจ: “ประธานหวาง ขอโทษจริงๆ พวกเราก็คิดไม่ถึง ว่าไอ้สวะนั่นจะมาปรากฏตัวที่นี่......”
“ไม่เป็นไร” หวางเต๋อฝูโบกมือของเขา แม้ว่าจะรู้สึกหงุดหงิดมากก็ตาม แต่ขณะที่อยู่ต่อหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา เขาก็ไม่สามารถอารมณ์เสียใส่ไปได้
“งั้น.....ประธานหวาง คุณสามารถนัดบอดกับเสี้ยเมิ่งเหยาได้แล้ว ไอ้สวะนั่นก็ไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครมารบกวนคุณแล้ว” หลินหลันยิ้มและเอ่ยปากพูด เมื่อดูจากท่าทางตอนนี้ของหวางเต๋อฝู เขาชอบเสี้ยเมิ่งเหยามาก ไม่มีเฉินเฟิงมาขัด ทั้งสองคนนัดบอดกันอย่างราบรื่น ไม่แน่อาจจะหมั้นกันวันนี้เลยก็ได้
“อืม”
หวางเต๋อฝูพยักหน้าเบาๆ เขาเกิดความภูมิใจอย่างเกินบรรยาย เสี้ยเมิ่งเหยาเพิ่งปฏิเสธเฉินเฟิงไปต่อหน้าเขา และทำให้เขาปลื้มใจมาก
หลังจากที่ได้พิจารณาสักครู่ หวางเต๋อฝูยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยปากพูดว่า: “คุณเสี้ยอดีตสามีของคุณ....หยาบคายมาก ที่คุณหย่ากับเขา เป็นเรื่องที่ฉลาดมาก”
“ประธานหวาง ที่คุณพูดถูกต้องเลย แต่ไอ้สวะนั่น ไม่ใช่แค่คนหยาบคายธรรมดา เขายังเป็นคนหัวรุนแรง! ประธานหวาง คุณไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันอยู่ที่บ้าน ไอ้สวะคนนั้นตบฉันตั้งกี่ครั้ง ไอ้สวะนั่นมองเขา ไม่เคยเห็นฉันเป็นแม่ยายเลย” หลินหลันไม่ได้รับความเป็นธรรมจนเริ่มน่าเวทนา ความคิดของเธอในเวลานี้ง่ายมาก มันคือการสร้างเรื่องที่ครอบครัวตนเองถูกรังแกมาต่อหน้าหวางเต๋อฝู เพื่อเพิ่มโอกาสในการนัดดูตัวให้สำเร็จ
สำหรับเฉินเฟิงผู้น่าอับอาย ในขณะนี้ก็เป็นเพียงแค่ถือโอกาสก็เท่านั้นเอง
“อะไรนะ? แม้แต่คุณก็โดนตบงั้นหรือ? !”
เมื่อฟังคำพูดของหลินหลันจบ สีหน้าของหวางเต๋อฝูก็มืดมนทันที เขาคิดไม่ถึง ว่าเฉินเฟิงจะทำเกินไปได้ขนาดนี้ บ้าไปแล้ว แม้แต่แม่ยายตัวเองก็ยังตบ
ทำตัวเช่นนี้ ไม่กลัวโดนฟ้าผ่าบ้างหรือ?
“ใช่สิ ไอ้สวะนี้ไม่เคยมีความเคารพอยู่ในสายตา เขารังแกผู้หญิงอย่างเราสองคน กลั่นแกล้งจนแย่มากๆ ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่ให้เสี้ยเมิ่งเหยากับเขาหย่ากันหรอก” หลินหลันน้ำตาไหลพรากและเล่าเรื่องน่าเวทนาต่อ
หวางเต๋อฝูกำหมัดไว้แน่น น้ำตาร่วงลงมาบนใบหน้าที่เศร้าหมอง “คุณเสี้ย คุณวางใจได้ คนเลวคนนั้นที่รังแกพวกคุณแม่ลูก ผมจะต้องเอาคืนให้สาสมแน่นอน หลังจากวันนี้ไป ผมจะไม่ปล่อยให้เขามารังควานพวกคุณได้อีก”
เมื่อได้ยินความภักดีของหวางเต๋อฝู หลินหลันก็ดูมีความสุขมาก
หลังจากนั้นก็หันไปมองที่เสี้ยเมิ่งเหยา หลินหลันรีบพูดกระตุ้น: “เมิ่งเหยา มัวอึ้งอะไรอยู่ รีบๆขอบประธานหวางซะสิ!”
“ขอบคุณอะไร?” คำพูดของเสี้ยเมิ่งเหยายังคงอยู่ในความนิ่งสงบ แต่น้ำเสียงนั้นเย็นชาอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบ
หลินหลันถึงกับผงะ: “ขอบคุณประธานหวางที่ช่วยเธอจัดการไอ้สวะนั่นไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...