สรุปเนื้อหา บทที่ 438 ความคิดที่เปลี่ยนไป – ลูกเขยมังกร โดย เมฆทอง
บท บทที่ 438 ความคิดที่เปลี่ยนไป ของ ลูกเขยมังกร ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมฆทอง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 438 ความคิดที่เปลี่ยนไป
ท่ามกลางความเหนื่อยล้า หลินเย่นได้แต่ลากขาที่อ่อนล้าปวกเปียกทั้งสองข้างกลับบ้าน
สามวันต่อมา หลินเย่นก็เหมือนกับคนทำงานเช่นนั้น ในเช้าตรู่ของทุกวันจะมาที่ด้านหน้าประตูบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป แล้วยืนอยู่ทั้งวัน
จิตวิญญาณที่แน่วแน่ไม่หยุดหย่อน เรื่องนี้เองทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาเหล่าพนักงานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป
ไม่นาน ก็มีข่าวลือไปทั่ว ผู้หญิงคนที่มายืนอยู่ด้านหน้าบริษัท เป็นคนเดียวกับคนถ่ายเอกสารคนนั้นเอง
การที่เธอมาบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ก็เพื่อยอมรับผิดถึงได้มา แต่ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาไม่อยากจะสนใจเธอ
ภายใต้การชี้แนะของฟางหย่า สามวันก่อนที่หลินเย่นต้องการให้เสี้ยเมิ่งเหยาเอาตำแหน่งรองประธานบริษัทให้กับถางรั่วเสวี่ยน ก็ลือกันให้แซดไปทั้งบริษัท
เวลานั้นเอง ทุกคนต่างถกเถียงกันเมามัน
ใครจะไปคิดว่า บนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงที่วิเศษวิโสโอหังแบบนี้ด้วยบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ตอนแรกก็บอกว่าตนเองเป็นญาติ แล้วจัดการให้ลูกสาวของตนเองมารับตำแหน่งรองประธานบริษัท ทำตัวราวราชสีห์อ้าปากพูด ราวกับว่าบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปเป็นบริษัทที่ตนเองเป็นเจ้าของกิจการเช่นนั้น
สมน้ำหน้า!
เดิมที่มีคนเห็นใจหลินเย่นอยู่ไม่น้อย แต่พอรู้เรื่องทำเธอทำแล้ว อย่าพูดเลยว่าคนเหล่านี้จะเห็นใจหลินเย่น ไม่ได้ถุยน้ำลายใส่หน้า ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ในเวลานี้เอง ทุกคนต่างเข้าใจเป็นอย่างดี ข้อความทุกอย่างที่เขียนไว้บนกระดาษนั้น มีความเป็นไปได้ว่าหลินเย่นเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นมาเอง เพื่อจะหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเสี้ยเมิ่งเหยา
นานวันเข้า ความคิดเห็นก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไป
ถึงแม้ว่ายังมีคนยังคิดเหมือนเดิม แต่ว่าคนพวกนี้ ก็ยังน้อยมากอยู่
“เมิ่งเหยา ป้าสองของแกยืนอยู่ด้านนอกตึกมาสามวัน แกคิดว่าจะไม่เจอหน้าเธอเลยหรือไง?” เวลาล่วงเลยเข้าวันที่สี่แล้ว หลินหลันถึงกลับทนไม่ไหวแล้ว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หลินเย่นจะทำเรื่องที่เกิดเลยไปมาก แต่จะพูดยังไงก็ตาม หลินเย่นก็เป็นพี่สาวของเธอ หัวใจของคนเรามีเลือดมีเนื้อ เธอไม่สามารถทนกับความน่าสงสารแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว
คิ้วโกงเรียวเลิกขึ้น ไม่พูดไม่ได้ว่า พฤติกรรมของหลินเย่นนั้น มันเกินกว่าที่เธอคาดการณ์เอาไว้มาก
เดิมทีเธอคิดว่า หลินเย่นจะยืนได้มากที่สุดวันสองวันเท่านั้นแหละ แล้วก็จะทนไม่ไหว แต่ไม่คิดเลยว่า หลินเย่นยืนมาจนถึงทุกวันนี้ อีกอย่างเมื่อเห็นท่าทางตั้งมั่น ยังคงยืนต่อไปเรื่อยๆ อีก
ทำไมหลินเย่นต้องอดทนขนาดนี้ด้วย?
ในหัวสมองของเสี้ยเมิ่งเหยาเกิดข้อสงสัย เพราะความเข้าใจของเธอที่มีต่อหลินเย่นแล้ว หลินเย่นไม่ใช่คนที่อดทนอะไรได้แบบนี้ นอกจาก มันต้องมีสาเหตุว่าทำไมหลินเย่นต้องอดทนกับเหตุผลนั้นด้วย....
“ให้เธอเข้ามาเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยปากพูดตามปกติ เพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกัน เหตุผลว่าทำไมหลินเย่นถึงได้อดทนได้ขนาดนี้
หลายนาทีผ่านไป หลินเย่นก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทำงาน
การถูกแดดแผดเผามาสามสี่วันนั้น หลินเย่นเปลี่ยนท่าทางไปอีกอย่างเลย
ถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้หลินเย่นดูแลรักษาดั่งผู้รากมากดีแล้วละก็ งั้นหลินเย่นในตอนนี้ ก็เหมือนผู้หญิงสาวตามหมู่บ้านในชนบทที่โดนแดดเลียผิวจนไหม้เกรียม
หลินหลันเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้หญิงที่ดำไหม้เป็นตอตะโกอยู่ตรงหน้าคนนี้สองสามวันก่อนเป็นหลินเย่นคนนี้ไหม
“เมิ่งเหยา...” เมื่อเจอหน้าเสี้ยเมิ่งเหยา หลินเย่นเริ่มอยากจะร้องไห้ มีแค่สวรรค์ที่รู้เท่านั้นแหละ ว่าการที่เธอยืนตากแดดอยู่ด้านนอกมาตั้งหลายวันนั้นเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง
รูปพรรณภายนอกยังไม่เท่าไหร่ ที่หนักที่สุดก็คือสภาพจิตใจนี่แหละ ในใจของเธอนั้น หลายวันที่ผ่านมานี้ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว
“ทำไมเขาถึงต้องให้คุณมาขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาด้วย?! คำพูดของเขามันจำเป็นที่ต้องเชื่อด้วยเหรอ?!”
“เขาให้คนมาปิดกิจการโรงแรมของสามีฉัน” หลินเย่นยิ้มเยาะเย้ยตอนพูด ถ้าเธอไม่ฟังคำสั่งของเฉินเฟิงแล้ว โรงแรมของถังเย่าโจงก็จะถูกปิดกิจการไป ถ้าเธอยังไม่ฟังคำสั่งเฉินเฟิงอีก ครอบครัวของเธอก็จะต้องกัดก้อนเกลือกิน
“อะไรนะ?! เขาให้คนไปปิดกิจการที่โรงแรมของคุณเลยเหรอ?!” หลินหลันทำสีหน้าตกใจ สามีของหลินเย่นทำธุรกิจด้านโรงแรมเธอรู้เรื่องนี้ดี เพราะว่าหลินเย่นพร่ำพูดกับเธออยู่บ่อยครั้ง ก็คือโรงแรมของสามีเธอนี่แหละ
ทว่าตอนนี้ หมิ่งเย่นกลับพูดว่า โรงแรมของสามีเธอถูกปิดกิจการ
อีกอย่างคนที่ทำกับโรงแรมของสามีเธอ ยังเป็นไอ้ไร้ประโยชน์ที่ตนเองไม่เคยเห็นหัวมาตลอด เขาทำได้อย่างไรกัน?
อาการตกใจของหลินหลันเมื่อเอามาเปรียบเทียบแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาสงบลงเยอะมาก เธอเข้าใจดี ว่าทำไมหลายวันมานี้หลินเย่นถึงได้เก็บงำอารมณ์โกรธเคืองเอาไว้
ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเฉินเฟิงที่อยู่เบื้องหลังนี่เอง
“เมิ่งเหยา ป้าสองทำผิดไปแล้ว ต่อไปป้าสองจะไม่กล้าทำแบบนั้นอีก เอ่อ... แกไปบอกกับเฉินเฟิงให้หน่อย ให้เขาปล่อยป้าสองไปเถอะ เพราะยังไงการทำธุรกิจของสามีของป้าสองนั้นก็ไม่ง่าย อีกอย่าง เราเป็นครอบครัวใหญ่ ตอนนี้ก็อาศัยธุรกิจของลุงเขยของแก ถ้าโรงแรมยังไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ฉันกับก็คงต้องกัดก้อนเกลือกินแล้วรั่วเสวี่ยน” หลินเย่นฝืนยิ้ม กำลังอาศัยความสงสารเป็นข้อต่อรองอยู่
แต่ว่าเสี้ยเมิ่งเหย่าก็ยังเย็นชาเช่นเดิม “คุณมาหาผิดคนแล้ว ฉันกับเขาตอนนี้ตัดขาดกันแล้ว เราหย่ากันแล้ว”
“เมิ่งเหยา ดูแกพูดเข้าสิ หย่าแล้วแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ไม่ใช่เหรอ?”
“อีกอย่าง เฉินเฟิงปฏิบัตกับแก ต้องมีความรู้สึกอยู่แน่ ไม่งั้น เขาคงไม่แอบมาช่วยแกอยู่ข้างหลังหรอก” หลินเย่นยิ้มให้ด้วยตอนที่พูดออกมา สีหน้าไม่มีความโกรธเคืองใดๆ เลย โรงแรมของถังเย่าโจงปิดไปสามวันแล้ว ค่าเสียหายมันเลยล้านแล้ว ถ้ายังปิดกิจการไปเรื่อยๆ งั้นค่าเสียหายที่จะเข้ามานั้น เกรงว่ามันใช้ราคาเป็นล้านที่ประมาณการเอาไว้ ดังนั้นวันนี้ ไม่ว่าจะยังไงเธอต้องพูดให้เสี้ยเมิ่งเหยาทำให้ได้
“พี่เย่น ประโยคที่พี่พูดมานี้ดูเหมือนไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่ เมิ่งเหยาของฉันหย่ากับไร้ประโยชน์นั่นไปแล้ว ระหว่างพวกเขา ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ! ส่วนเรื่องที่พี่พูดถึงความรู้สึกนั้น มีแค่ไอ้ไร้ประโยชน์นั่นมันรู้สึกดีๆ กับเมิ่งเหยา สำหรับเมิ่งเหยาของฉันกับไอ้หมอนั่น ไม่มีความรู้สึกใดหลงเหลือเลย” หลินหลันรีบปฏิเสธทันควัน การที่หลินเย่นให้เสี้ยเมิ่งเหยาช่วยเธอนั้น เธอเข้าใจดี แต่ถ้ามันดึงเอาเฉินเฟิงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีทาง!
มันไม่ง่ายเลยที่จะให้เสี้ยเมิ่งเหยาหลุดพ้นจากเฉินเฟิง ถ้าเพราะเรื่องนี้ ทำให้ทั้งสองคนกลับมาคืนดีกันอีก ฉันเธอยินดีที่จะให้สามีของหลินเย่นล้มละลายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...