บทที่ 459 เอาคนมาส่ง
“เดี๋ยวแกก็รู้เอง” เฉินเฟิงตอบกลับแบบปกติ ความจริงแล้วความสามารถพลังที่แท้จริงของเขานั้น ไม่ต้องใช้พลังภายในอะไรมากมายก็สามารถทำได้ก่อนที่ชายกำยำที่คลุมหน้าอยู่ที่ถือปืน ควบคุมชายกำยำที่คลุมหน้าอยู่ แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะว่า เขารู้ ชายกำยำที่คลุมหน้าอยู่นั้น ก็แค่เป็นหมาที่หวู่เหวินโป๋ใช้ให้มาทำงานเท่านั้นเอง
ถ้ามัวแต่ไปควบคุมชายกำยำที่คลุมหน้าเอาไว้ วันต่อไป ก็จะมีชายกำยำที่คลุมหน้ามาหาทุกๆ วัน
ถึงแม้ว่าจะไม่สร้างความรู้สึกโดนคุกคามกับเขา แต่มันก็เป็นการเสียพลังภายในของเขาเช่นกัน
เพื่อจัดการให้สิ้นซาก เฉินเฟิงถึงได้ตัดสินใจขึ้นรถกับชายกำยำที่คลุมหน้าพวกนี้ ‘อย่างเชื่อฟัง’
เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวหวู่เหวินโป๋ก็จะมาหาเขา ต้องเซอร์ไพรส์มากๆ แน่
“คุณชายโป๋ จับตัวคนมาได้แล้ว คุณบอกสถานที่มาได้เลย ผมจะรีบเอาตัวไปส่งให้คุณทันที”
ชายกำยำที่คลุมหน้ามองมาที่เฉินเฟิงแวบหนึ่ง แล้วเห็นว่าเฉินเฟิงนั่งอยู่ตรงกลางเบาะด้านหลังโดยไม่ขยับสักนิด เขาถึงได้เก็บปืนลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อต่อสายไปหาหวู่เหวินโป๋
เมื่อครู่หวู่เหวินโป๋ออกคำสั่งให้เขา ให้ไว้ชีวิตไว้ เขาต้องการจัดการเฉินเฟิงด้วยความโหดร้าย ให้เฉินเฟิงเหมือนตายทั้งเป็น
ถ้าไม่ใช่คำสั่งของหวู่เหวินโป๋ ตอนที่เขาเห็นเฉินเฟิงในตอนแรกนั้น ก็คงจัดการฆ่าเฉินเฟิงทิ้งไปแล้ว
“พี่เปียวสถิตินี้มันเร็วมากเลยนะ!”
ปลายสาย หวู่เหวินโป๋เพิ่งจะจัดการดาราตัวประกอบที่อยู่ใต้ร่างกายเขาไปยกหนึ่งอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ตอนนี้กำลังสูบบุหรี่อยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเปียว ถึงกลับยิ้มอย่างดีใจ “ฉันอยู่ที่วิลล่าตุงกง แกเอามันมาที่นี่!”
“ได้ครับ คุณชายโป๋!”
หวังเปียวตอบตกลงอย่างสุขุม จากนั้นก็กดวางสาย
“พี่เปียว คุณชายโป๋คิดจะจัดการไอ้เด็กนี่ยังไง?”
หลังจากที่หวังเปียววางสายแล้ว ชายกำยำที่อยู่ด้านหลังก็ถามอย่างสงสัย
“ฉันรู้สึกว่า เป็นไปได้มากที่มันคงโดนคุณชายโป๋ทุบจนแหลกเป็นเศษก่อน จากนั้นก็คงเอาไปให้หมากิน” ชายกำยำที่คลุมหน้าอยู่พูดเสียงเย็นยะเยือก
“จัดการไอ้เด็กนี้แล้วยังไง?” หวังเปียวยิ้มอย่างถากถาง แล้วเอ่ยปากถาม “ต้องดูอารมณ์ของคุณชายโป๋ ถ้าเขาอารมณ์ดี บางทีก็แค่เอาไอ้เด็กนี้ทุบให้แหลก จากนั้นก็เอาไปให้หมากิน”
“ถ้าคุณชายโป๋อารมณ์ไม่ดีล่ะ งั้นทั้งตระกูลของไอ้เด็กนี้ คืนนี้ก็ไม่รอดทั้งตระกูล!”
คำพูดประโยคสุดท้าย หวังเปียวหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาให้ หลังจากพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว ภายในรถนักธุรกิจสีดำ ก็มีแต่บรรยากาศความเย็นยะเยือกแผ่ไปทั่ว
ชายกำยำชุดดำที่คลุมหน้าอยู่ ขนาดนั่งอยู่ด้านหน้าพร้อมคนขับรถ ยังทำตัวสั่นเทาตามไปด้วย
พวกเขาเข้าใจดีว่า หวังเปียวจริงจัง ไม่ได้พูดเล่น มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าหวู่เหวินโป๋ คงต้องฟาดงวงฟาดงาใส่กับครอบครัวของเฉินเฟิงกับหลี่เล่อแน่นอน!
คำพูดที่พูดว่าทำลายคนในครอบครัว ฟังไปฟังมาก็ดีนะ!
ทว่าหลี่เล่อในเวลานี้ เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเปียวทำให้ตกใจจนหน้าซีดเผือด เขาไม่คิดเลยว่า หวู่เหวินโป๋จะโหดร้ายทารุณได้ถึงเพียงนี้ ขนาดครอบครัวของเขาก็ยังไม่เว้น
ท่ามกลางความหวาดกลัว หลี่เล่อได้แต่กัดฟัน นัยน์ตาฉายอาการตัดสินใจบางอย่างได้
เขาไม่สามารถนั่งรอความตายต่อไปได้ ถ้าให้ไอ้มือปืนชายกำยำสามคนนี้เอาตัวเขากับเฉินเฟิงไปส่งถึงมือหวู่เหวินโป๋ทางนั้นสำเร็จ งั้นเขาจะรอโอกาสแค่ตายกับตายเท่านั้น!
ขนาดคนในครอบครัวของเขาเอง เกรงว่าคืนนี้คงไม่เหลือชีวิตรอดแน่!
เขาต้องสู้ให้สุดชีวิต!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลี่เล่อเบนสายตาไปทางเฉินเฟิง ทำราวกับว่าต้องการให้เฉินเฟิงคิดไปในทางเดียวกันด้วย
ทว่าเฉินเฟิงที่มองหลี่เล่อกลับมาในเวลานี้ เมื่อเห็นว่าหลี่เล่อในเวลาสั้นๆ ในการตัดสินใจได้เช่นนี้ นัยน์ตาของเฉินเฟิงฉายความชื่นชมออกมา
เขามองคนไม่ผิดจริงๆ หลี่เล่อคุ้มค่าให้เขาอบรมสั่งสอนจริงๆ
ถึงแม้ว่าการแสดงออกของหลี่เล่อในเวลาปกติมักทำให้คนรู้สึกอ่อนโยนสิ้นไร้ไม้ต่อ
แต่เมื่อเผชิญหน้าเรื่องหนักหนานั้น หลี่เล่อกลับฉายแววการตัดสินใจความต้องการฆ่าออกมาทันที
สามารถใช้เวลาเพียงน้อยนิด ในการตัดสินใจสู้กับมือปืนกำยำสามคนอย่างเอาเป็นเอาตาย จนแสดงให้เป็นปัญหาได้ว่า หลี่เล่อไม่ใช่คนไม่ได้ความ
เวลาที่ต้องสู้ถวายหัว เขากล้าสู้!
สวบ!
ในเวลานั้นเอง...
เสียงดังขึ้นในอากาศ เฉินเฟิงเริ่มลงมือแล้ว!
มือทั้งสองข้างของเขา ความเร็วดั่งสายฟ้าฟาด มันกระทบเข้าบริเวณข้อมือของชายกำยำชุดดำที่นั่งอยู่ด้านหลังสองคน
“แก...”
ชายกำยำชุดดำสีหน้าเปลี่ยนไป จิตใต้สำนึกวิตกกังวล
“ฉับ——”
เสียงร้องตกใจยังไม่ทันจะออกจากปากพวกมันด้วยซ้ำ พลันได้ยินเสียงกระดูกแตกละเอียดแทน
วินาทีต่อมา ชายชุดดำทั้งสองคนแผดเสียงกรีดร้องดังลั่น มือที่ถือปืนอยู่นั้น ลงไปกองกับพื้นในเวลานั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...