บทที่ 460 วิลล่าตุงกง
“ฉับ”
ท่ามกลางความเจ็บปวดทรมาน จนทำให้หวังเปียวตัวสั่น สูดลมหายใจเข้า จิตใต้สำนึกต้องการส่งเสียงร้องตะโกนออกมา
จากนั้น——
เมื่อคำพูดหลุดออกมาจากปาก เขาก็เห็นว่าข้อมือของเขามีเลือดมีเนื้อปนปนกัน กระดูกขาวๆ ทะลุออกมาจากผิวหนัง เลือดแดงฉาน บรรยากาศที่ตึงเครียด ทำให้คนตกใจจนสิ้นสติ
เรื่องนี้ ทำให้ความเจ็บปวดที่จะหลุดออกมาจากปากของหวังเปียว ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนลงคอ
เขาเบิกดวงตาโต พร้อมทั้งจ้องมองเฉินเฟิงอย่างเอาเป็นเอาตาย นัยน์ตา มีแค่ความหวาดกลัว!
เขาไม่เคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน!
ถึงว่าเขาจะเคยเป็นหัวหน้านักฆ่าในกลุ่มระดับต้นๆ ก็ไม่ได้เหมือนเฉินเฟิงแบบนี้ แค่ทำท่าที่คีบคุกกี้มันง่ายจนบีบกระดูกแตกได้อย่างง่ายดาย
“แก... แกเป็นใครกันแน่?!”
ท่ามกลางความหวาดกลัว ภายใต้จิตสำนึกของคำถามของหวังเปียว
ตอนแรก เฉินเฟิงกับหลี่เล่อขึ้นรถมาด้วยอาการเชื่อฟัง เพราะเขาคิดว่าเฉินเฟิงคงสติฟั่นเฟือน
ทว่า ตอนนี้ เขาไม่ได้คิดเช่นนั้นอีกแล้ว
เขามั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก่อนที่จะขึ้นรถ เฉินเฟิงสามารถจัดการเขาได้อยู่หมัด
ที่เฉินเฟิงไม่ทำอย่างนั้น ก็ต้องมีเหตุผลอื่น
“ฉันเป็นใครเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มถากถาง จากนั้นก็มองมาทางหวังเปียวเล็กน้อย “ฉันคือคนที่แกไม่สามารถทำให้ผิดใจได้”
น้ำเสียงนิ่งๆ ของหวังเปียว ถ้าเป็นคำพูดก่อนหน้าที่จะพูดกับเฉินเฟิง เขาต้องหัวเราะเยาะเฉินเฟิง
ทว่าตอนนี้...
เขาก็ไม่กล้าอ้าปากพูดอะไรกับเฉินเฟิงที่พูดแบบนี้มาก่อน
เขาไม่สามารถแตะต้องเฉินเฟิงได้ ส่วนหวู่เหวินโป๋ อย่าพูดเลย
ถึงแม้ว่าบิดาของเขาคือหวู่เหวินเฉิงยิง แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินเฟิงที่บ้าดีเดือดเกินต้านทานคนนี้ หวู่เหวินเฉิงยิง ก็แค่ศพที่เดินได้เท่านั้นเอง
“เอื้อก”
หวังเปียวกลืนน้ำลายลงคอ เขาเตรียมอ้าปาก เหมือนจะขอชีวิต
ทันใดนั้น เฉินเฟิงก็ยิ้มให้เล็กน้อย “วางใจได้เลย แกไม่ตายหรอก อยากน้อยก็ยังไม่ตาย”
“ถ้าแกยังทำหูทวนลมกับคำพูดของฉัน งั้นฉันก็ไม่สนใจอาจจะเปลี่ยนความคิดก็ได้”
“ไม่หรอก ไม่หรอก!” สีหน้าของหวังเปียวยินดี ศีรษะเหมือนกลองที่สั่นไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน
เขามั่นใจมากกว่า เฉินเฟิงไม่ได้โกหกเขา
เฉินเฟิงโหดร้ายเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องหลอกเขา
ถ้าเฉินเฟิงต้องการฆ่าเขา แค่ลงมือ คงไม่ต้องมาพูดให้เสียน้ำลายกับเขามากมายถึงเพียงนี้หรอก
“แกไม่ต้องเครียด ขับรถดีๆ เอาฉันไปส่งสถานที่ที่หวู่เหวินโป๋บอกให้ไปเมื่อครู่นี้ ฉันจะไม่ฆ่าแก” เฉินเฟิงเบนสายตาไปทางคนขับที่อยู่ด้านหน้ารถ
“ครับ...ครับ...”
เมื่อได้รับคำยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว คนขับรถที่เหงื่อไหลไคลย้อยไปทั้งศีรษะ ในที่สุดก็โล่งใจไปได้
เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เฉินเฟิงก็หลับตาลง จากนั้นก็กลับมานั่งสบายอกสบายใจบนเก้าอี้ตัวเดิมอีกครั้ง
“พี่เฟิง...”
หลี่เล่อกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง เขาอยากจะพูดว่า ในมือของหวังเปียว ยังมีปืนอยู่ ปืนกระบอกนี้ เฉินเฟิงยังไม่ได้เก็บ
ถึงแม้ว่าหวังเปียวมือจะขาดไปหนึ่งข้าง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะใช้อีกมือหนึ่งยิงปืนได้นี่
“วางใจได้เลย เขาไม่ยิงหรอก” ราวกับรู้ว่าในใจของหลี่เล่อกำลังคิดอะไรอยู่ เฉินเฟิงยิ้มให้แล้วเอ่ยปากพูด
สามารถมองออกได้ว่า หวังเปียวเป็นคนฉลาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...