ลูกเขยมังกร นิยาย บท 479

บทที่ 479 เทียบเชิญของประธานหวาง

“อาใหญ่ ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม พี่เมิ่งเหยา...จะเป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปได้ยังไง?” หลินโย่วสีหน้าเหลือเชื่อ แทบควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ได้

ข่าวนี้ของหลินเย่นส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมากเกินไปจริงๆ!

นั่นน่ะบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปนะ บริษัทผลิตยาที่มีทรัพย์สินมูลค่ากว่าแสนล้าน

เสี้ยเมิ่งเหยาไปเป็นประธานบริษัทแบบนี้ได้ยังไง ดูจากอายุเธอ อย่างมากก็ยี่สิบห้าเท่านั้น

อายุยี่สิบห้า อย่าว่าแต่ประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปเลย ต่อให้เป็นหัวหน้าแผนกของคางเหม่ยกรุ๊ป เธอก็ปีนขึ้นไปไม่ได้หรอก

“พี่เย่น พี่ล้อหลินโย่วเล่นอยู่ละสิ” ตอนนี้เอง เซ่หยูนฟางที่ยืนอยู่ข้างๆเริ่มหวั่นไหวแล้ว “เมิ่งเหยาน่ะได้เป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย? หลายวันก่อนเธอยังพึ่งทำงานที่ชางโจวไม่ใช่หรอ?”

เหมือนรู้อยู่แล้วว่าทุกคนจะไม่เชื่อ หลินเย่นส่ายหน้าบอก: “หลินโย่ว หยูนฟาง พี่ไม่ได้ล้อพวกเธอเลยนะ ตอนนี้เมิ่งเหยาเป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปจริงๆ พึ่งมารับตำแหน่งเมื่อครึ่งเดือนก่อนน่ะ”

ครึ่งเดือนก่อน...

พอได้ยินคำนี้ คนไม่น้อยพากันสะท้านเยือกในอก ถ้ามารับตำแหน่งเมื่อครึ่งเดือนก่อนจริง งั้นพวกเขาไม่รู้ข่าวนี้ก็ไม่แปลก

ปกติเวลาพวกเขาจะสืบข่าวตระกูลเสี้ยอัพเดทที ก็ต้องสองสามเดือนสืบทีหนึ่ง พวกเขาไม่ชินกับการสืบข่าวทีละครึ่งเดือน

เซ่หยูนฟางไม่พูดอะไรแล้ว แม้แต่หลินโย่วเองก็ยังปิดปากเงียบ

พวกเขาต่างพากันรู้ดีว่า หลินเย่นไม่มีทางพูดโกหก

ถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากหลินหลัน พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่ แต่นี่ออกมาจากปากหลินเย่น มันแทบใช่ร้อยเปอร์เซนต์เลย

เสี้ยเมิ่งเหยาในตอนนี้เป็นประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปจริงๆ

ถึงพวกเขาจะไม่อยากยอมรับมากแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงเรื่องนี้

เซ่หยูนฟางในตอนนี้ สีหน้าดูสับสนมาก ก่อนนี้เธอยังไม่เข้าใจว่า ทำไมวันนี้ท่าทีหลินหลันดูมั่นอกมั่นใจนัก ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว

มีลูกสาวที่ได้เป็นประธานบริษัททรัพย์สินมูลค่ากว่าแสนล้าน หลินหลันไม่ตีหน้ามั่นอกมั่นใจก็แปลกละ

“ประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป?” ตอนนี้เองหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ข้างกายเซ่หยูฟางเอ่ยปากขึ้น เธอมองเซ่หยูนฟางพูดอย่างดีใจว่า: “แม่คะ พูดแบบนี้แปลว่าหนูก็ไปทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปได้สิ”

เซ่หยูนฟางยิ้มกระอักกระอ่วน กำลังจะพูด แต่ไม่คิดว่าหลินหลันจะแย่งพูดก่อนว่า: “นี่เสี่ยวหย่าใช่ไหมจ้ะ?”

หลินหลันพูดพลางมองไปทางหญิงสาวเซ็กซี่ หญิงสาวคนนี้เป็นลูกสาวของเซ่หยูนฟาง ชื่อเต็มว่าหลินหย่า เธอไม่ได้เรียนจบมัธยมปลายก็หนีไปทำงานที่ผับ แถมยังทำนานถึงห้าปีด้วย

พอตอนนี้ถึงวัยต้องหาคู่ครอง เลยต้องหางานที่ดูดีหน่อย

“ค่ะ เสี่ยวหย่าเอง น้าสามใช่ไหมคะ?” หลินหย่าพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ที่จริงตอนเข้ามาเธอก็จำหลินหลันได้แล้ว แต่ตอนนั้นเธอไม่คิดจะทักทายหลินหลัน เพราะเซ่หยูนฟางเคยบอกไว้ก่อนแล้วว่า หลินหลันเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้น้อยที่สุดบรรดาสี่พี่น้อง เป็นแบบฉบับของญาติจนๆ เซ่หยูนฟางไม่อยากให้เธอสนิทสนมกับหลินหลัน

แต่ตอนนี้หลินหลันกลับเป็นแม่ของประธานบริษัท เธออยากเข้าทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ต้องสานสัมพันธ์กับหลินหลันให้ดีก่อน

“อืม น้าสามเอง ไม่เจอกันไม่กี่ปี เธอโตขนาดนี้แล้วนะ” หลินหลันรับคำเสียงต่ำ แสดงท่าทีแบบผู้หลักผู้ใหญ่ออกมา

ฉากนี้ทำเซ่หยูนฟางไม่พอใจมาก แต่พอคิดถึงปัญหางานของหลินหย่า เธอก็กัดฟันทน

“หนูก็ไม่เจอน้าสามมาหลายปีแล้วเหมือนกัน น้าสามสวยกว่าเมื่อก่อนอีกนะคะเนี่ย” หลินหย่ายิ้มหวาน ประจบเอาใจหลินหลัน

แต่หลินหลันไม่สนใจ เธอพูดเสียงเรียบว่า: “หลินหย่า เมื่อกี้หลานบอกว่าอยากไปทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร