บทที่ 509 ความคิดของหวางซือหยวน
เพิ้งเย้นฟางพยักหน้าเห็นด้วยก่อนเอ่ยเสริม “ฉันคิดว่าที่สื้อผิงพูดก็มีเหตุผล ตอนนี้มันกำลังเกาะขายัยคุณหนูเจ้าเล่ห์ตระกูลฉู่อยู่ดูท่าจะมีความสุขทีเดียว หากเราเข้าไปตอนนี้มันอาจจะคิดว่าเราไปประจบประแจงมัน”
“ก็แค่เขยขยะที่เกาะผู้หญิงมีอะไรให้เราไปประจบประแจงกัน?!” หวางซือหยวนกัดฟันแน่น ภายในแววตาสวยเต็มไปด้วยไฟโทสะ เธอไม่เคยรู้สึกคับข้องใจขนาดนี้มาก่อน คนที่ทำให้เธอมีมลทินอยู่ตรงหน้าแท้ๆแต่เธอกลับแก้แค้นไม่ได้
“ลูกจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก มันอาจจะเป็นเขยขยะที่เกาะผู้หญิงก็จริงแต่ตอนนี้มันเป็นผู้ชายที่คุณหนูตระกูลฉู่เลี้ยงดูอยู่”
“อีกอย่างดูท่าคุณหนูตระกูลฉู่จะรักมันมาก แม้แต่ตั๋ววีไอพีราคาใบละสามหมื่นยังซื้อให้มันเลย” เพิ้งเย้นฟางเอ่ยอย่างอิจฉา เธอไม่เข้าใจว่ายัยฉู่ชีงฉือชอบพออะไรในตัวคนที่ไม่มีอะไรดีอย่างเฉินเฟิงกัน อีกทั้งยังเคยเป็นผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงอีก
จากคุณสมบัติของฉู่ชีงฉือจะเลือกผู้ชายแบบไหนก็ได้ แต่สุดท้ายเธอกลับเลือกพ่อหม้ายที่เคยแต่งเข้าบ้านผู้หญิง สมองกลับหรือยังไง
“ก็ได้ ยังไม่ไปหามันตอนนี้ก็ได้” หวางซือหยวนหายใจเข้าลึกๆครั้งหนึ่งเพื่อสงบจิตใจ ไปหาเฉินเฟิงตอนนี้เป็นการกระทำที่ขาดสติจริงๆนั่นแหละ
เธอไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าคนที่ขืนใจเธอในคืนนั้นคือเฉินเฟิง
จากคำให้การของหลี่สื้อผิงฉู่ชีงฉือก็อาจจะไม่เชื่อ ถึงแม้ฉู่ชีงฉือจะเชื่อแต่เพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า เธออาจจะบอกว่าหลี่สื้อผิงกุเรื่องขึ้นมาเองก็ได้
อีกทั้งทางเฉินเฟิงก็ไม่มีทางอยู่เฉยแน่ หากเธอพูดออกไปตรงๆไม่แน่เฉินเฟิงอาจจะแว้งกัดเธอโดยการบอกว่าเธอและหลี่สื้อผิงใส่ร้ายก็ได้
เรื่องนี้ต้องวางแผนกันให้ดีก่อน
เมื่อเห็นว่าหวางซือหยวนเปลี่ยนใจไม่ไปหาเฉินเฟิงแล้ว หลี่สื้อผิงก็โล่งอกไป “คุณป้าเราลงไปด้านล่างกันเถอะครับ”
“อืม” เพิ้งเย้นฟางพยักหน้ารับก่อนเอ่ย “แล้วลุงแกล่ะ?”
“คุณลุงไปซื้อน้ำครับ”
“เดี๋ยวถ้าลุงแกมาก็อย่าบอกเรื่องที่ไอ้ขยะนั่นก็อยู่บนเกาะล่ะ” เพิ้งเย้นฟางเอ่ยกำชับ จากนิสัยของหงอี้หากรู้เรื่องที่เฉินเฟิงอยู่บนเกาะล่ะก็เขาต้องหาทางติดต่อเฉินเฟิงแน่
“วางใจเถอะครับคุณป้า ผมไม่บอกคุณลุงแน่นอน” หลี่สื้อผิงตบอกรับปาก ตอนนี้เรื่องที่เขากลัวที่สุดก็คือคนของบ้านหวางซือหยวนพบเจอกับเฉินเฟิง ดังนั้นถึงเพิ้งเย้นฟางจะไม่กำชับเขา เขาก็ไม่มีทางพูดเรื่องนี้แน่นอน
อีกด้านหนึ่ง เฉินเฟิงและคนอื่นๆก็เข้าสู่เขตของเกาะมุ๋ยลายแล้ว
“พี่ฉู่ จอมยุทธ์ของตระกูลอื่นๆล่ะ? ทำไมพวกเขาไม่ขึ้นเรือสำราญมากับเรา?” ระหว่างทางหูฉี่ซิงอดถามขึ้นมาไม่ได้ การต่อสู้ครั้งนี้ทางด้านสมาคมการค้าจงไห่ สี่ตระกูลใหญ่เชิญจอมยุทธ์ทั้งหมดสิบคน นอกจากสี่คนของตระกูลฉู่แล้ว อีกสามตระกูลที่เหลือก็เชิญตระกูลละสองคน
ทว่าจอมยุทธ์ทั้งหกคนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
“จอมยุทธ์ของตระกูลอื่นๆจะมาถึงช่วงเที่ยงวันนี้ พวกเขาโดยสารเฮลิคอปเตอร์ของตระกูลวังมา” ฉู่ยี่เฟยเอ่ยตอบ
“แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?” หูฉี่ซิงเอ่ยถาม
“อยู่ด้านใน ด้านในมีโซนวิลล่าอยู่” ฉู่ยี่เฟยชี้ไปด้านหน้าพลางเอ่ย “วิลล่าโซนนี้ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยตั้งใจเหมากับทางเกาะมุ๋ยลายไว้ จอมยุทธ์ทั้งหมดของทั้งสองสมาคมการค้ารวมถึงคนของทางหวาเซี่ยและทางการญี่ปุ่นล้วนอาศัยอยู่ที่วิลล่าโซนนี้”
“มีคนของทางการญี่ปุ่นมาด้วยหรือ?” เฉินเฟิงเอ่ยถามขึ้นมา
“อืม คนของทางการญี่ปุ่นก็มาด้วย ได้ยินว่าคนที่มาเป็นรองหัวหน้าของสมาคมการต่อสู้ญี่ปุ่น” ฉู่ยี่เฟยพยักหน้า
ประโยชน์ของสมาคมการต่อสู้ญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศญี่ปุ่นและประโยชน์สหพันธ์บูโดแห่งหวาเซี่ยที่มีต่อหวาเซี่ยนั้นเหมือนกัน ทั้งสององค์กรล้วนมีหน้าที่ในการดูแลตรวจตราจอมยุทธ์ของแต่ละแห่ง
การต่อสู้ในครั้งนี้ทางสมาคมการต่อสู้ญี่ปุ่นส่งรองหัวหน้ามาหนึ่งคนก็เป็นการแสดงให้เห็นเป็นนัยๆว่าทางการของญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการต่อสู้ในครั้งนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...