บทที่ 511 หยกเขียวมรกตจักรพรรดิ
“แกหมายความว่า ไอ้คนที่แซ่เฉินมันดูแปลกประหลาดอยู่ใช่ไหม?” หูฉี่ซิงทำหน้าแปลกใจมองมาทางหยางเสี่ยนหมิง
“ไม่มั่นใจ แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาไม่ธรรมดา” หยางเสี่ยนหมิงส่ายหน้าไปมา
“ศิษย์พี่จาง พี่คิดว่าไง?” หูฉี่ซิงรีบเบนสายตาหันกลับไปหาจางเทียนเซออีกครั้ง
ทว่าจางเทียนเซอขมวดคิ้วเข้าหากัน “ตอนนี้มามัวแต่หมกมุ่นกันแต่เรื่องนี้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้การเดิมพันประลองฝีมือก็จะเริ่มแล้ว ไอ้แซ่เฉินจะเป็นลาหรือม้า ขึ้นเวทีเดี๋ยวก็รู้เรื่องเอง”
เมื่อเห็นว่าจางเทียนเซอไม่ค่อยพอใจเรื่องที่พูดถึงเฉินเฟิงสักเท่าไหร่ หูฉี่ซิงเริ่มพูดต่อ “ศิษย์พี่จางพูดก็ถูกอีก พวกเราไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องของไอ้แซ่เฉินคนนั้นว่ามันจะแปลกประหลาดหรือเปล่า พวกเราแค่จัดการทำเรื่องของตนเองให้ดีก็พอ”
เกาะมุ๋ยลายยามค่ำคืน แสงไฟสว่างจ้า
หาดทรายขาวริมทะเล ต่างมีนักท่องเที่ยวจับกลุ่มสี่ถึงห้าคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน
หลังจากที่จัดหาโรงแรมห้องพักให้เสี่ยวอู่กับพวกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินเฟิงก็เดินออกมาที่ชายหาดคนเดียว
ในเวลานั้น บนเกาะมุ๋ยลาย ก็มีแต่ชายหาดทางฝั่งนี้ที่มีนักท่องเที่ยว
ดังนั้น วังโฉงหยางและพวกพ้องมีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่ที่นี่มากที่สุดแล้ว
เม็ดทรายที่อยู่บนชายหาดเนียนละเอียด เมื่อสัมผัสเวลาเหยียบ เหมือนได้ยินเสียงอันสดใส
ยามเมื่อลมทะเลหอบความเค็มตีพัดโดนใบหน้า มันทำให้ร่างกายของคนเราผ่อนคลายลง
เฉินเฟิงไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้มานอนแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านตระกูลเฉิน เขาก็แบกรับความอับอายหนักหนาสาหัสมาโดยตลอด ราวกับไม่ได้มีโอกาสปล่อยให้ตนเองได้ผ่อนคลายลงบ้างเลย
การเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะมุ๋ยลายในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เขาได้แอบมาพักผ่อนไปในตัวด้วย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ความรู้สึกสบายใจอย่างอบอุ่นแบบนี้ไม่สามารถครอบครองไว้ได้นาน
หลังจากที่เดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ด้านหน้าของเฉินเฟิงก็เจอกับคนสองกลุ่ม
หลายคนที่อยู่ในสองกลุ่มนั้นมีคนที่เฉินเฟิงคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่
หวางหงอี้ หลี่สื้อผิง หวางซือหยวน เพิ้งเย้นฟาง ยังมี ...หลิ่วซวนคนที่เคยเจอตอนที่ไปเที่ยวอยู่บนเรือสำราญก่อนหน้านี้ด้วย
เฉินเฟิงไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนในบ้านของหวางหงอี้ถึงไปเจอกับหลิ่วซวนได้ แต่ว่าในเวลานี้ ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหน้ากับหลิ่วซวนที่กำลังหน้าแดงก่ำ
ในมือของเพิ้งเย้นฟางกำลังหยิบกำไลข้อมือหยกสีเขียวแต่หักเป็นสองชิ้น พร้อมทั้งกำลังตะคอกใส่หลิ่วซวน “ทำกำไลคนอื่นเขาหักราคามันตั้งห้าล้านเลยเหรอ? นี่แกคิดแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ จนบ้าไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย?!”
“ทำไมราคามันจะไม่ถึงล่ะ?” หลิ่วซวนเอามือกอดอก พร้อมทั้งยิ้มให้และมองมาทางเพิ้งเย้นฟางอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “อีคนบ้านนอก ผลงานกำไลชิ้นนี้ของของคุณกงปุ่น เป็นหยกจักรพรรดิมรกตที่หาได้น้อยมาก อีกอย่าง ฉันบอกว่าห้าล้าน นั่นเป็นราคาที่ฉันประมาณเอาไว้ว่าเป็นราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว ถ้าเอาหยกจักรพรรดิมรกตของคุณกงปุ่นออกไปประมูลราคาแล้ว ราคาประมูลก็อาจจะแตะไปถึงแปดล้านก็ได้!”
“ดังนั้น ฉันเลยให้พวกแกจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณกงปุ่นห้าล้าน จริงๆ ก็ให้เกียรติพวกแกแล้วนะ พวกแกอย่าทำตัวพูดไม่รู้เรื่องว่าอะไรดีหรือไม่ดี!”
คุณกงปุ่นเหรอ? ฟังชื่อแล้วเหมือนว่าเป็นคนญี่ปุ่น?
หัวคิ้วของเฉินเฟิงขมวดเข้าหากัน เขามองไปที่หลิ่วซวน แวบนั้นก็เห็นว่า ข้างกายหลิ่วซวนนั้น มีชายวัยกลางคนที่แต่งกายชุดกิโมโนยืนอยู่ด้วย
ชายวัยกลางคนคนนี้ผิวพรรณขาวเกลี้ยงเกลา การวางตัวสง่างาม ดูจากลักษณะภายนอกแล้ว คล้ายคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง
มีความเป็นไปได้ว่า ชายวัยกลางคนคนนี้น่าจะเป็นคุณกงปุ่นที่หลิ่วซวนคอยพูดถึงอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...