บทที่ 523 เสมอ
ยอมแพ้?!
กระบี่ยาวของจางเทียนเซอหยุดชะงักลงตรงหน้าจายเถิงจวั่นจู้ห่างราวสามฟุต
เขาโกรธจนแทบกระอักเลือด เจ้าคนชั่วร้ายนี่มายอมแพ้เอาตอนนี้?!
“ฉันยอมแพ้” จายเถิงจวั่นจู้แค่นเสียงหึ
“แต่ฉันไม่ได้ยอมแพ้เพราะสู้นายไม่ได้”
“ฉันยอมแพ้เพราะเกราะอ่อนของนายต่างหาก”
“ถ้าไม่มีเกราะอ่อนนั่น จางเทียนเซอ นายก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแหละ!”
จายเถิงจวั่นจู้ประชดเข้าให้ และก้าวลงจากเวทีไป
ส่วนจางเทียนเซอก็มีสีหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
ใช่ จริงอย่างที่จายเถิงจวั่นจู้พูด เขาในวันนี้ได้ชัยชนะเพราะเกราะอ่อน ถ้าไม่มีเกราะอ่อนนั่น แม้แต่ชีวิตเขาก็รักษาไว้ไม่ได้
“การประลองครั้งที่สาม จางเทียนเซอชนะ! จายเถิงจวั่นจู้แพ้!”
กรรมการประกาศผลอย่างหน่ายใจ การประลองครั้งนี้จางเทียนเซอขายหน้าจนถึงประตูบ้านเลยเนี่ย ฝีมือเขาน่าจะเก่งกว่าจายเถิงจวั่นจู้หน่อย แต่ด้านความเจ้าเล่ห์กลับด้อยกว่าจายเถิงจวั่นจู้อยู่มากโข
จายเถิงจวั่นจู้แค่แสดงความอ่อนแอออกมานิดเดียว เขาก็ลืมตัวแล้ว
ถ้าเขาไม่ลืมตัว ไม่แน่อาจจะไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ก็ได้
“จางเทียนเซอ คุณจะลงจากเวที หรืออยู่บนเวทีรอประลองกับผู้เข้าแข่งคนต่อไป?”
“ลงเวที” จางเทียนเซอกัดฟันตอบ เขาในตอนนี้เรียกได้ว่าเจ็บหนัก ขีนอยู่บนเวทีต่อไปก็มีแต่หาเรื่องให้ตัวเองขายหน้าเท่านั้น
“งั้นโอเค ทุกท่านครับพักเบรกสิบนาทีนะครับ”
“สิบนาทีผ่านไป การประลองครั้งต่อไปจะเริ่มขึ้น ขอให้ผู้เข้าแข่งของสมาคมการค้าจงไห่และสมาคมการค้าเชียสุ่ยเตรียมตัวให้พร้อมด้วยครับ” กรรมการวัยกลางคนพูดเสียงขรึม
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว การประลองดำเนินไปแล้วสามรอบ
สามรอบ สมาคมการค้าจงไห่ส่งคนออกมาแล้วสามคน ส่วนสมาคมการค้าเชียสุ่ยกลับส่งออกมาแค่คนเดียว
สถานการณ์ของสมาคมการค้าจงไห่ดูจะเสียเปรียบเอามากๆ
พอจางเทียนเซอลงจากเวที ก็เดินไปพักผ่อนคนเดียวเงียบๆ เหมือนไม่มีหน้าสู้ทุกคน
“อู่หลง รอบต่อไปตานายแล้ว”
ฉู่ยี่เฟยเบนสายตาไปที่ชายหนุ่มหัวโล้นคนหนึ่ง
เฉินเฟิงมองอู่หลง พบว่าอู่หลงเป็นศิษย์วัดอย่างที่หวู่เหวินเชี่ยนบอกก่อนหน้านี้
อาจารย์เมี่ยวคงซึ่งเป็นอาจารย์ของอู่หลงนั่งอยู่ที่โซนวีไอพี
“พี่ฉู่ ผมต้องประลองกับใคร?” อู่หลงถามเสียงต่ำ ผิวเขาค่อนข้างคล้ำ สีหน้ามั่นคง ถ้าไม่ใช่ว่าหัวโล้น ก็เหมือนทหารคนหนึ่ง
“อิงจิ่งฟู” ฉู่ยี่เฟยหันไปมองทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยพลางว่า: “เขาเป็นนินจาที่ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยพัฒนาออกมาเอง อาวุธที่ชำนาญคืออาวุธลับ อีกเดี๋ยวพอขึ้นเวที นายต้องระวังอาวุธลับของเขาให้ดีนะ ถ้านายสามารถสกัดกั้นการลอบใช้อาวุธลับของเขาได้ งั้นการประลองครั้งนี้นายจะเอาชนะได้สบายมากเลย”
“ได้ ผมจะระวัง”
อู่หลงพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เรื่องอาวุธลับนี่เขาพึ่งได้สู้เป็นครั้งแรก แต่ไม่ว่ายังไงเขาต้องคว้าชัยชนะในการประลองนี้มาให้ได้
เพราะสมาคมการค้าจงไห่จะแพ้ไม่ได้แล้ว!
“เฉินเฟิง เมื่อกี้ทำไมนายถึงรู้ว่าจางเทียนเซอจะแพ้ล่ะ?”
ในตอนที่ฉู่ยี่เฟยกำลังปรึกษากลยุทธ์กับอู่หลง หวู่เหวินเชี่ยนทนไม่ไหวถามออกมา เมื่อกี้ตอนจางเทียนเซอประลองกับจายเถิงจวั่นจู้ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเลย เฉินเฟิงก็บอกออกมาแล้วว่าจางเทียนเซอจะแพ้
ตอนนั้นเธอยังคิดว่าเฉินเฟิงพูดซี้ซั้ว แต่ไม่ถึงหนึ่งวินาทีเธอก็เหมือนโดนตบหน้าเลย
ดังนั้นเธอเลยแปลกใจมากว่า เฉินเฟิงรู้ได้ยังไงว่าจางเทียนเซอจะแพ้ เขาทำนายอนาคตได้งั้นหรอ?
“มองออกน่ะ” เฉินเฟิงตอบผ่านๆ เมื่อกี้เขาไม่ว่างอธิบายกับหวู่เหวินเชี่ยน ต่อให้อธิบายไป หวู่เหวินเชี่ยนก็ไม่เข้าใจอยู่ดี
“มองออกได้ไงน่ะ?” หวู่เหวินเชี่ยนถามต่ออย่างใคร่รู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...