ลูกเขยมังกร นิยาย บท 550

บทที่ 550 ส้งลี่เฉิง

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินเฟิงอดกลั้นความร้อนรนในใจลง

ตำแหน่งที่ก่วนหนานเทียนให้เขาถึงแม้มันจะดี แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับตนเอง

มีแค่ตนเองแข็งแกร่งเท่านั้น ตำแหน่งนี้ถึงจะมีค่า

ถ้าหากว่าตนเองไม่แข็งแกร่ง ตำแหน่งนี้สามารถปกป้องเขาได้ช่วงหนึ่ง แต่ไม่สามารถปกป้องเขาได้ตลอดชีวิต

เวลานี้ โทรศัพท์ของเฉินเฟิงดังขึ้น

เบอร์ที่โชว์คือสือโพ่จุน

"พี่สือ เป็นยังไงบ้าง?" หลังจากกดรับสาย เฉินเฟิงถามเสียงเคร่งขรึม

"ได้ข่าวแล้ว"

น้ำเสียงของสือโพ่จุนเคร่งขรึมเล็กน้อย ทำให้เฉินเฟิงที่ได้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจ:“พี่สือ พูดออกมาเถอะครับ ผมเตรียมใจแล้ว"

สือโพ่จุนพยักหน้า พูด:“เมื่อสิบนาทีก่อน มีคนส่งคลิปมายังโทรศัพท์ของฉู่ยี่เฟย ในคลิปวิดีโอ หวั่นชีวกำลังนอนหมดสติอยู่ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง......"

"พวกมันบอกไหมว่าตนเองเป็นใคร?" เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าแล้วเอ่ยถาม

"ไม่ได้บอก พวกมันไม่ได้แสดงตัวว่าตนเป็นใคร พวกมันบอกแค่ว่า หลินหวั่นชีวเป็นทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน ถ้าอยากให้หลินหวั่นชีวมีชีวิต ก็เอาจี๋เต้าเจินเจี่ยไปแลก"

"ทางด้านสมาคมการค้าจงไห่ว่ายังไงบ้าง?" เฉินเฟิงเอ่ยถาม เขาอยากรู้ว่าสมาคมการค้าจงไห่มีท่าทียังไง

"ตอนนี้ทางสมาคมการค้าจงไห่ทะเลาะกันใหญ่โตเพราะเรื่องนี้แล้ว ตระกูลฉู่ตกลงที่จะส่งจี๋เต้าเจินเจี่ยออกไป แต่ตระกูลส้งและตระกูลฉินคัดค้านกับสิ่งที่ตระกูลฉู่ตัดสินใจเป็นอย่างมาก ทางด้านตระกูลวัง......ท่าทีของพวกเขายังไม่ชัดเจน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่"

"ผมเข้าใจแล้ว" เฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความเคร่งเครียดเล็กน้อย ไม่พูดไม่ได้จริงๆ ตอนนี้เรื่องมันหนักหนามาก จี๋เต้าเจินเจี่ยคือสิ่งที่สามารถสร้างมหาปรมาจารย์แห่งบูโด อีกทั้งความคิดเห็นของทั้งสี่ตระกูลใหญ่ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย

"เฉินเฟิง นายอย่าเพิ่งเป็นกังวล ผลกระทบของเรื่องนี้ร้ายแรงมาก ถ้าหากหลินหวั่นชีวเป็นทายาทของมหาปรมาจารย์หลินจริงๆ เช่นนั้นสหพันธ์บูโดและสหพันธ์สงครามก็น่าจะรีบเข้ามามีส่วนร่วม พวกเขาไม่มีวันนิ่งดูดายปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นกับหลินหวั่นชีวหรอก" สือโพ่จุนพูดเสียงเคร่งขรึม

มหาปรมาจารย์แห่งบูโดก็เป็นคน พวกเขาสามารถให้กำเนิดคนได้ ทั้งยังมีลูกหลาน

ถึงแม้ว่าหลินชิงตี้จะหายตัวไปนานกว่ายี่สิบปีแล้ว แต่ถ้าหากหลินหวั่นชีวเป็นทายาทของเขาจริงๆ เช่นนั้นสหพันธ์บูโดและสหพันธ์สงครามต้องปกป้องและรักษาความปลอดภัยให้หลินหวั่นชีวอย่างแน่นอน

ไม่เพื่อสิ่งอื่นใด เพียงเพราะเธอเป็นทายาทของมหาปรมาจารย์แห่งบูโด

ถ้าหากว่าสหพันธ์บูโดและสหพันธ์สงครามไม่สามารถปกป้องได้แม้กระทั่งทายาทของมหาปรมาจารย์ พวกเขาจะมาพูดเรื่องปกป้องวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยได้อย่างไร?

อีกทั้ง ในวงการศิลปะการต่อสู้มีกฎข้อหนึ่ง ซึ่งก็คือไม่กล่าวโทษคนอื่นในครอบครัว

เหล่าจอมยุทธ์ก็มีข้อยึดถือ หาเรื่องแค่กันและกันเท่านั้น ไม่มีวันหาเรื่องคนในครอบครัว นี่คือเส้นตายของสหพันธ์บูโดและสหพันธ์สงคราม

ถ้าทุกคนเอาคนในครอบครัวมาข่มขู่กัน เช่นนั้นวงการศิลปะการต่อสู้คงวุ่นวายไปนานแล้ว เพราะจอมยุทธ์ส่วนมากล้วนมีพ่อแม่และลูกเมีย วันนี้แกฆ่าพ่อแม่และลูกเมียฉัน พรุ่งนี้ฉันฆ่าพ่อแม่และลูกเมียแก เช่นนั้นวงการศิลปะการต่อสู้ จะแตกต่างอะไรกับพวกอธรรม?

"อื้ม ผมไปดูที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมการค้าจงไห่ก่อน" เฉินเฟิงพยักหน้า เขาเชื่อว่าสหพันธ์บูโดและสหพันธ์สงครามต้องเข้ามาข้องเกี่ยว แต่ว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อไหร่นั้น รวมถึงจะเข้ามายุ่งเกี่ยวอย่างไร เขากลับไม่รู้

ดังนั้น เขาจำเป็นต้องทำอะไรสักหน่อย

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เฉินเฟิงมาถึงสำนักงานใหญ่ของสมาคมการค้าจงไห่

เวลานี้ คนที่รับผิดชอบทั้งสี่ตระกูลใหญ่ได้มารวมตัวกันแล้ว

หลังจากเฉินเฟิงเข้ามาในห้องประชุม ดึงดูดความสนใจจากคนจำนวนไม่น้อย

"เสี่ยวเฟิง นายมาได้ยังไง?" ฉู่ยี่เฟยลุกขึ้นยืน สีหน้าของเขาดูแปลกใจเล็กน้อย

"พี่ใหญ่ฉู่ ผมมีธุระกับพี่ครับ"

"เรื่องอะไร?"

"เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน มีคนส่งคลิปวิดีโอมาให้พวกพี่ใช่หรือไม่" เฉินเฟิงเอ่ยถาม

"นายรู้ได้ยังไง?" ฉู่ยี่เฟยแปลกใจมาก เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน มีคนส่งคลิปวิดีโอมาให้เขาหนึ่งคลิป แต่คนที่รู้เนื้อหาของคลิปวิดีโอนี้ กลับมีแค่ทั้งสี่ตระกูลใหญ่และสหพันธ์สงคราม เฉินเฟิงรู้ได้ยังไง?

"เพื่อนคนหนึ่งของผมบอกมาครับ"

เฉินเฟิงไม่ได้พูดชื่อของสือโพ่จุนออกมา เพราะไม่เหมาะสมที่จะพูดออกมา การที่สือโพ่จุนบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของหลินหวั่นชีวถือว่าผิดกฎระเบียบของสหพันธ์สงคราม

"เสี่ยวเฟิง นายรู้จักผู้หญิงที่อยู่ในคลิปวิดีโอ?" ฉู่ยี่เฟยรู้จุดประสงค์ของเฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว

"เธอเป็นน้องสาวของผม......" เฉินเฟิงพูดออกไปตามจริง

"น้องสาว?!”

ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงพากันตกใจ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

"พี่ใหญ่ฉู่ จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ของผมพี่น่าจะรู้ดี"

"เอาจี๋เต้าเจินเจี่ยมาให้ผม ส่วนเงื่อนไขพวกพี่เสนอกันได้เต็มที่"

เฉินเฟิงพูดอย่างตรงไปตรงมา แต่เขาเพิ่งพูดจบ เสียงคัดค้านในห้องโถงก็ดังขึ้นทันที

"เป็นไปไม่ได้!”

คนที่คัดค้านเฉินเฟิงเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา เวลานี้ ชายหนุ่มกำลังจ้องมองมาที่เฉินเฟิงด้วยแววตาเย็นยะเยือก:“นายบอกว่าเธอเป็นน้องสาวของนาย ก็เป็นน้องสาวของนาย?!”

"ถ้าฉันจำไม่ผิด แกนามสกุลเฉินไม่ใช่หรอ?"

"แกเป็นใคร?" เฉินเฟิงขมวดคิ้วแล้วมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาดี เขาไม่เคยเจอชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้มาก่อน แต่ทำไม ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ถึงแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับเขา

"ฉันคือส้งลี่เฉิง" ชายหนุ่มหน้าตาดีบอกชื่อของตนเองด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

"ก่อนหน้านี้พวกเราเคยเจอกันมาก่อน?" เฉินเฟิงขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ส้งลี่เฉิง ฟังจากชื่อแล้วน่าจะเป็นคนของตระกูลส้ง เพียงแต่ เขาเคยไปมีความแค้นอะไรกับตระกูลส้งตอนไหน

"เคยเจอ?" จู่ๆส้งลี่เฉิงก็หัวเราะออกมา "พวกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน"

"แต่ว่า นายคงไม่รู้ อิงโรเป็นว่าที่เจ้าสาวของฉัน"

เฉินอิงโร?!

สีหน้าของเฉินเฟิงเย็นยะเยือกลงมา ถึงว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ถึงมองเขาอย่างกับเป็นศัตรู ที่แท้ก็เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเฉินอิงโร

เช่นนี้ก็สามารถอธิบายทุกอย่างได้แล้ว เขาทำให้ขาของเฉินอิงโรหัก ทำลายวรยุทธ์ของเฉินอิงโร ทำให้เฉินอิงโรกลายเป็นคนพิการ ถ้าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ไม่เกลียดเขาคงเป็นเรื่องแปลก

"นายอยากมาหาเรื่องฉัน?" น้ำเสียงของเฉินเฟิงเคร่งขรึมขึ้นกะทันหัน การเจอว่าที่เจ้าบ่าวของเฉินอิงโรที่นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขา แต่ว่า เขาไม่ใช่คนที่กลัวปัญหา ถ้าหากส้งลี่เฉิงคนนี้จะหาเรื่องเขาจริงๆ เขาก็ไม่ถือสาที่จะให้ส้งลี่เฉิงเห็นฝีมือของเขา

"หาเรื่องนาย?" ส้งลี่เฉิงหัวเราะออกมา "นายคิดมากไปแล้ว ฉันไม่ใช่คนที่ไม่แยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว เรื่องที่นายทำให้อิงโรพิการ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะคิดบัญชีกับนาย ตอนนี้พวกเรากำลังพูดคุยเรื่องจี๋เต้าเจินเจี่ย"

ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงพากันเงียบและขมวดคิ้ว การหาเรื่องกะทันหันของส้งลี่เฉิงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคิดถึง

แต่ว่า สิ่งที่เขาพูดออกมากลับทำให้ทุกคนพากันตกใจ

เฉินเฟิงคือคนโหดเหี้ยมที่ทำให้เฉินอิงโรพิการ

เมื่อก่อนทุกคนเคยได้ยินว่าตระกูลเฉินมีคนแบบนี้ แต่รายละเอียดของเรื่องนี้ ทุกคนกลับไม่รู้เท่าไหร่

สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้ก็คือ หลังจากเฉินอิงโรกลายเป็นคนพิการ ส้งลี่เฉิงที่เดิมทีเป็นคนที่ทั้งสี่ตระกูลใหญ่อิจฉาได้กลายเป็นแค่เรื่องตลกของเมืองจงไห่

เพราะถึงอย่างไรคนที่ตอนแรกเขาจะแต่งงานด้วยเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่ผู้หญิงคนนี้กลับถูกคนทำร้ายจนขาหักในชั่วข้ามคืน อีกทั้งยังทำลายพลังของจอมยุทธ์อีกด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร