ลูกเขยมังกร นิยาย บท 551

บทที่ 551 เจ้าสำนักสือ

เรื่องแบบนี้จะให้ส้งลี่เฉิงรับได้ได้ยังไง?

ถ้าคนที่เขาแต่งงานด้วยเป็นแค่ผู้หญิงตระกูลธรรมดาทั่วไป การที่ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นคนพิการ เขาสามารถถอนการแต่งงานได้ทันที

แต่ผู้หญิงที่เขาจะแต่งงานด้วยเป็นลูกสาวของครอบครัวสองตระกูลเฉิน

เวลานี้ ถ้าเขากล้าถอนการแต่งงาน ก็เท่ากับเหยียบหน้าตระกูลเฉิน

ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะพอใจหรือไม่พอใจ เขาก็ต้องแต่งงานกับเฉินอิงโร

ถึงว่าส้งลี่เฉิงจึงได้เกลียดแค้นเฉินเฟิงมากขนาดนี้ เปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าคงมีใจคิดอยากจะฆ่าเฉินเฟิงแล้ว

แต่ว่าเฉินเฟิงดูเป็นคนไม่ธรรมดา ดูจากการที่เขาทำให้เฉินอิงโรพิการมาจนถึงทุกวันนี้แต่เขายังไม่เป็นอะไรก็ดููออกแล้ว

"นายบอกว่าหลินหวั่นชีวเป็นน้องสาวของนาย? นายมีหลักฐานะไร?

ขณะที่ทุกคนกำลังคาดเดาความสัมพันธ์ของเฉินเฟิงกับตระกูลเฉิน ส้งลี่เฉิงพูดอีกครั้ง

"ไม่มี หวั่นชีวไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของฉัน" น้ำเสียงของเฉินเฟิงนิ่งเฉย เขากับหลินหวั่นชีวไม่ได้เป็นญาติกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามองหลินหวั่นชีวเป็นน้องสาวมาโดยตลอด

"ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ?"

"แล้วทำไมพวกฉันต้องเอาจี๋เต้าเจินเจี่ยให้นายด้วย ใครจะไปรู้ว่านายเป็นคนจับตัวหลินหวั่นชีวไปรึเปล่า" ส้งลี่เฉิงหัวเราะในลำคอ

เฉินเฟิงเป็นคนจับตัวหลินหวั่นชีวไป?

ได้ยินคำพูดของส้งลี่เฉิง สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที อย่าพูดเลย พอจะมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง

เพราะถึงอย่างไรจนถึงตอนนี้ คนที่จับตัวหลินหวั่นชีวไปยังไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรเลย

ถ้าหากเฉินเฟิงรู้ว่าหลินหวั่นชีวเป็นลูกสาวของหลินชิงตี้ เกรงว่าเขาคงวางแผนตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว รวมถึงการเดิมพันครั้งนี้ เฉินเฟิงช่วยทำให้สมาคมการค้าจงไห่พลิกกลับมาชนะ เกรงว่าเขาคงพุ่งเป้ามาที่จี๋เจ้าเจินเจี่ย

เวลานี้ แม้แต่สีหน้าของฉู่ยี่เฟยก็เปลี่ยนไปแล้ว

แม้คำพูดของส้งลี่เฉิงเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่ไม่พูดไม่ได้จริงๆว่า เฉินเฟิงน่าสงสัยมากจริงๆ

เขามีทั้งแรงจูงใจในการทำ อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำด้วย

เมื่อเห็นเฉินเฟิงนิ่งเงียบไม่ยอมพูด ส้งลี่เฉินได้ใจขึ้นมาทันที:“ฉันพูดถูกใช่ไหม?"

"คนที่จับตัวคุณหลินไป คือนายใช่ไหม"

"บางทีตั้งแต่แรก แกก็รู้อยู่แล้วว่าคุณหลินเป็นใคร การเดิมพันระหว่างสมาคมการค้าจงไห่และสมาคมการค้าเชียสุ่ยในครั้งนี้ ต่อให้พี่ใหญ่ฉู่ไม่ไปหาแก แกก็จะหาวิธีเข้ามาร่วมการเดิมพันให้ได้ เพราะถ้าอาศัยแค่ลำพังแกคนเดียว ไม่มีทางได้จี๋เต้าเจินเจี่ยมาครอบครอง"

เสียงของส้งลี่เฉิงหนักแน่น คำพูดทุกอย่างของเขาล้วนมีเหตุมีผล ทำให้เฉินเฟิงไม่สามารถถกเถียงได้

"พี่ใหญ่ฉู่ พี่เชื่อผมไหม?" เฉินเฟิงหันไปมองฉู่ยี่เฟย ส้งลี่เฉิงพูดอะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ เขาอยากรู้ท่าทีของฉู่ยี่เฟย

สีหน้าของฉู่ยี่เฟยเปลี่ยนไปมา ไม่ได้ตอบในทัน

"โอเค ผมเข้าใจแล้ว" เฉินเฟิงถอนหายใจ ฉู่ยี่เฟยแสดงท่าทีออกมาแล้ว เพียงแต่ ท่าทีที่เขาแสดงออกมาทำให้เฉินเฟิงผิดหวัง

"ฉันยอมรับว่าสิ่งที่นายพูดมาทั้งหมดมีหลักการ แต่ฉันไม่ได้เป็นคนจับตัวหวั่นชีวไป" เฉินเฟิงมองส้งลี่เฉิงด้วยสายตานิ่งเฉย

"นายบอกว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่? นายมีหลักฐานไหม?" ส้งลี่เฉิงเลิกคิ้วขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงได้ใจ

"นายอยากได้หลักฐานอะไร?!”

เฉินเฟิงกำลังจะพูด เวลานี้ มีเสียงดังก้องขึ้นมาตรงประตูห้องประชุม

สายตาของทุกคนหันไปมองที่ประตูเป็นตาเดียว ผู้ชายรูปร่างกำยำเดินเข้ามาด้วยความน่าเกรงขาม

บนตัวของชายหนุ่มมีความสง่าผ่าเผย

“สหพันธ์สงคราม สือโพ่จุน!”

หลังจากเดินเข้ามา ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกวาดมองทุกคนในห้องประชุดด้วยสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นบอกว่าตนเป็นใคร

ทุกคนหยุดชะงัก คนของสหพันธ์สงคราม อีกทั้งดูจากเหรียญที่อยู่บนตัวของสือโพ่จุน ยังเป็นระดับเจ้าสำนักของสหพันธ์สงคราม

ดวงตาของส้งลี่เฉิงกลอกไปมา จากนั้นรีบลุกขึ้น:“เจ้าสำนักสือมาเพราะเรื่องของคุณหลินใช่ไหมครับ?"

"ถูกต้อง"

สือโพ่จุนชำเลืองมองส้งลี่เฉิงด้วยสายตาเย็นยะเยือก ตามด้วยพูดออกมาสองพยางค์

สีหน้าของส้งลี่เฉิงฉายความดีใจ:“เจ้าสำนักสือสืบพบอะไรหรือยังครับ ถ้ายังไม่ได้อะไร รุ่นน้องมีคำแนะนำเล็กน้อย"

"พูด!”

"เจ้าสำนักสือ ผมสงสัยว่าคนๆนี้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวคุณหนูหลิน" ส้งลี่เฉิงชี้ไปที่เฉินเฟิง ไม่ว่าการหายตัวไปของหลินหวั่นชีวจะเกี่ยวข้องกับเฉินเฟิงหรือไม่ เฉินเฟิงล้วนน่าสงสัยเป็นอย่างมาก ดังนั้นเวลานี้ เขาจึงโยนความผิดให้กับเฉินเฟิง ต่อให้เฉินเฟิงกระโดดลงไปในแม่น้ำหวงก็ไม่สามารถลบล้างมลทินได้

"มีหลักฐานไหม?"

"ไม่มีครับ แต่ผมรู้สึกว่า เขาน่าสงสัยเป็นอย่างมาก......" ส้งลี่เฉิงส่ายหน้าก่อน จากนั้น เขาก็กำลังจะพูดในสิ่งที่เขาคาดเดาเมื่อกี้อีกครั้ง

เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่า ตอนที่เขาพูดสิ่งเหล่านี้ สีหน้าของสือโพ่จุนเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ

"จบหรือยัง?"

สือโพ่จุนพยายามเก็บกลั้นความโมโหแล้วเอ่ยถาม

ส้งลี่เฉิงชะงัก ทำไมแลดูสีหน้าของสือโพ่จุนมีบางอย่างผิดปกติ

ถึงแม้ภายในใจจะรู้สึกแปลกใจ แต่ส้งลี่เฉิงก็ยังคงพูดออกไป:“พูดจบแล้วครับ"

วินาทีต่อมา สือโพ่จุนระเบิดอารมณ์ :“พูดจาเหลวไหล!”

"ใครให้ความกล้านายในการใส่ร้ายคนที่ทำคุณงามความดีให้กับสมาคมการค้าจงไห่ของพวกเรา?!”

“เจ้าสำนักสือ……”ส้งลี่เฉิงนิ่งค้าง แม้แต่คนของสมาคมการค้าจงไห่ก็พากันตกตะลึง

สือโพ่จุนกวาดตามองทุกคนด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดขึ้น:“ไอ้พวกลืมบุญคุณ!”

"ไม่มีเสี่ยวเฟิง อย่าพูดถึงจี๋เต้าเจินเจี่ย แม้แต่เงินสองแสนล้านหยวน พวกนายก็อย่าคิดจะได้สักบาท!”

"ผลสุดท้ายพวกนายกลับทำแบบนี้ พอเกิดเรื่องคนแรกที่สงสัยก็เป็นเสี่ยวเฟิง"

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป ทำไมฟังจากความหมายในคำพูดของสือโพ่จุน คล้ายว่าเขารู้จักเฉินเฟิง?

ถูกสือโพ่จุนตวาดกลางที่สาธารณะ ทุกคนพากันทำตัวไม่ถูก หนึ่งในนั้น สีหน้าของส้งลี่เฉิงแย่ที่สุด เพราะเขาเป็นตัวตั้งตัวดีในการทำให้ทุกคนสงสัยเฉินเฟิง

หลังจากชำเลืองมองสือโพ่จุนแล้วนั้น ส้งลี่เฉิงกัดฟันแล้วเอ่ยพูด:“เจ้าสำนักสือ ที่พวกผมสงสัยเฉินเฟิง ก็มีเหตุผลของพวกผม ถ้าคุณมีหลักฐาน ก็เอาออกมาสิครับ......"

"หลักฐาน?!”ส้งลี่เฉิงยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกสือโพ่จุนพูดขัดขึ้นมา:“เอาหลักฐานใช่ไหม? กูจะเอาให้มึงดู!”

ขณะที่พูด สือโพ่จุนก็โยนเอกสารกองโตลงบนโต๊ะ

"เจ้าสำนักสือ นี่คือ......"

"นี่คือซอร์สโค้ดวิดีโอที่สหพันธ์สงครามตรวจสอบออกมา คลิปวิดีโอที่ส่งมาให้พวกนาย ถ่ายคลิปมาจากประเทศญี่ปุ่น!” สือโพ่จุนพูดเสียงเย็นยะเยือก

พูดจบ ทุกคนตกตะลึง

“ประเทศญี่ปุ่น?!”

“ทำไมถึงเป็นประเทศญี่ปุ่น?!”

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า เรื่องนี้สมาคมการค้าเชียสุ่ยเป็นคนทำ?!”

สีหน้าของส้งลี่เฉิงเปลี่ยนไปอย่างมาก ถ้าวิดีโอนี้ถ่ายมาจากประเทศญี่ปุ่น เกรงว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเฉินเฟิงเท่าไหร่ แต่ว่า ก็ไม่สามารถตัดเฉินเฟิงออกจากผู้ต้องสงสัยได้ ต้องการตบตาทุกคน แต่ว่า ความเป็นไปได้นี้มันน้อยมาก

"ตอนนี้นายมีอะไรอยากจะพูดอีกไหม?" สือโพ่จุนมองดูส้งลี่เฉิงด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก

สีหน้าของส้งลี่เฉิงเปลี่ยนไปมา เขากัดฟันกรอด:“เจ้าสำนักสือ แม้ว่าสิ่งที่คุณพูดจะเป็นความจริง คลิปวิดีโอนี้ถ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ แต่เรื่องที่เฉินเฟิงเป็นผู้ต้องสงสัยไม่สามารถลบล้างได้ ใครจะไปรู้ว่าเขาส่งคนไปประเทศญี่ปุ่นหรือเปล่า"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร