บทที่ 604 นักแข่งไร้ชื่อ
“ฉันไม่เอาเช็ค ต้องการแค่เงินสด” ผูชางจวู้นส่ายหัว
“คุณชายจี้ เงินพนันพวกคุณดำเนินการกันยังไง?” เฉินเฟิงหันมาถามจี้หง
“คุณชายเฉิน พวกเราจะขนเงินล่วงหน้าไปที่พยานก่อน เขาจะจัดการย้ายเงินเดิมพันไปให้ผู้ชนะตามผลลัพธ์ในการแข่งขัน และเก็บค่าธรรมเนียมด้วยในเวลาเดียวกัน” จี้หงอธิบาย
เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เขาหยิบมือถือออกมาโทรหาฉู่ยี่เฟย เปิดประเด็นเลยว่า: “พี่ฉู่ ตอนนี้ผมต้องการใช้เงิน พี่พอจะหาพันล้านดอลลาร์ให้ผมได้ไหม?”
“ได้ รอพี่สิบนาที” ไม่มีลังเลแม้แต่นิดเดียว ฉู่ยี่เฟยรับปากทันที เดิมสมาคมการค้าจงไห่ก็ติดเงินเฉินเฟิงสองหมื่นล้านอยู่แล้ว เงินสองหมื่นล้านนี้เป็นเงินตอบแทนที่เฉินเฟิงช่วยชนะการประลองให้สมาคมการค้าจงไห่
“ตอนนี้แกเชื่อหรือยังว่าฉันมีเงินพันล้านดอลลาร์น่ะ?” พอวางสายไป เฉินเฟิงเบนสายตาไปที่ผูชางจวู้น
“แกเป็นใคร?”
ผูชางจวู้นขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าตึงเครียด เดิมเขาคิดว่าเฉินเฟิงเป็นการ์ดของหวู่เหวินโป๋ แต่ตอนนี้ดูแล้ว ฐานะของเฉินเฟิงต้องไม่ง่ายขนาดนั้น คนๆหนึ่งสามารถโอนย้ายเงินพันล้านดอลลาร์ได้ด้วยการโทรศัพท์กริ๊งเดียว ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
ต่อให้เขาเองที่เป็นราชานักแข่งรถกาวลี่ เป็นศูนย์กลางตระกูลผู จะโอนย้ายเงินมากขนาดนั้นยังไม่ใช่ง่ายๆเลย
“ถ้าแกอยากเป็นไอ้ขี้ขลาด ไม่กล้ารับพนัน ฉันก็จะไม่บังคับหรอก จะให้หวู่เหวินโป๋ทำตามเงื่อนไขพนันเดี๋ยวนี้เลย!” เฉินเฟิงย้อนถามกลับโดยไม่ตอบ เขาใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง ใช้คำพูดไปยั่วยุผูชางจวู้น
“ฉันจะพนันกับแก!”
ผูชางจวู้นได้ยินอย่างนั้น สีหน้าเปลี่ยนสีทันที แค่นยิ้มเสียงเย็นว่า: “เดิมพันตามที่แกบอก ชีวิตคนสองคนกับเงินเดิมพันพันล้านดอลลาร์!”
“เอ่อ...”
พอเห็นผูชางจวู้นรับปากจะพนันกับเฉินเฟิง ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งรถหวาเซี่ยที่มีจี้หงเป็นแกนนำ หรือพวกนักแข่งรถกาวลี่ต่างพากันตะลึงมองตาค้าง
เพราะว่าเดิมพันแบบนี้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันรถแข่งใต้ดินจริงๆ!
ปกติแล้วเดิมพันของการแข่งขันรถใต้ดินจะเป็นเงินเดิมพันประมาณหนึ่งล้านดอลลาร์ ถ้าเป็นนักแข่งรถสำคัญหน่อยก็จะราวสิบล้านดอลลาร์ ถ้าเป็นการแข่งระดับราชานักแข่งของแต่ละประเทศก็จะประมาณหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์
อย่างเช่นการแข่งระหว่างราชานักแข่งกาวลี่ผูชางจวู้นและราชานักแข่งหวาเซี่ยจี้หงเป็นต้น เงินเดิมพันคือหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์
และเงินเดิมพันของการแข่งรอบนี้กลับสูงถึงระดับที่ทำให้คนตะลึง คือ พันล้านดอลลาร์!
นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกสองชีวิตคน!
ในสายตานักแข่งรถกาวลี่ ผูชางจวู้นไม่เพียงเป็นราชานักแข่งรถกาวลี่ และยังเป็นศูนย์กลางตระกูลผูด้วย ฐานะแบบนี้ต่อให้กวาดตามองไปทั่วกาวลี่ ก็ถือว่าระดับสูงมาก
“ฉันสงสัยจริงๆว่า ใครให้กำลังใจหมอนี่กล้าทำเรื่องบ้าคลั่งแบบนี้!”
“เหะ กล้ามาท้าสู้ผูชางจวู้น สมองเขาต้องโดนสองขาเรียวของผู้หญิงบีบจนโง่ไปแล้วแน่เลย!”
พอหายตกใจ พวกนักแข่งรถกาวลี่ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน สายตาที่มองมาทางเฉินเฟิงประหนึ่งกำลังมองคนปัญญาอ่อน
ส่วนพวกนักแข่งรถหวาเซี่ยโดยมีแกนนำเป็นจี้หง กลับมองเฉินเฟิงด้วยสีหน้าแปลกพิกล
ด้านหนึ่งคือพวกเขาไม่เชื่อว่าเฉินเฟิงทำเรื่องวู่วามไม่คิดไตร่ตรองลงไป อีกด้านคือ ต่อให้พวกเขาคิดจนสมองแตกก็คือไม่ติดว่าเฉินเฟิงจะเอาอะไรไปชนะผูชางจวู้น!
เพราะผูชางจวู้นเป็นราชานักแข่งรถกาวลี่ ติดอันดับห้าในบอร์ดดำด้วย!
ส่วนเฉินเฟิง...
พวกเขาไม่เคยได้ยินข่าวเฉินเฟิงในวงการแข่งรถใต้ดินมาก่อนเลย!
พวกเขายังสงสัยว่าเฉินเฟิงแข่งรถเป็นหรือเปล่าด้วยซ้ำ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...