บทที่ 619 เขามาจากหวาเซี่ย
พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ท้องฟ้ากลายเป็นสีทองอร่าม
เครื่องบินส่วนตัวที่บินตรงมาจากลอนดอนประเทศอังกฤษลำนั้น ลงจอดอย่างปลอดภัยบนสถานที่ที่ถูกกำหนดไว้ ภายในห้องโดยสารเครื่องบิน สองมือของแอนนี่ประคองโทรศัพท์มือถือไว้ ใบหน้าสมบูรณ์แบบราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง
“เรียนเจ้าหญิง ขณะนี้เครื่องบินลงจอดสนิทแล้ว ข้าราชการของหวาเซี่ยและนักธุรกิจรออยู่ด้านล่างแล้ว เราจะลงไปเลยไหมครับ?” ภายในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมสูทสีดำค้อมตัวพลางเอ่ยอย่างนอบน้อม
“อืม ลงไปตอนนี้เลย”
แอนนี่พยักหน้าเบาๆจากนั้นก็ยัดมือถือลงไปในกระเป๋าหนังใบโปรด กระเป๋าหนังของเธอไม่มีแบรด์เนื่องจากเป็นกระเป๋าที่สั่งทำขึ้นมา ตัวกระเป๋าทำจากหนังส่วนท้องของจระเข้โดยคนทำเป็นช่างตัดเย็บเก่าแก่ของอังกฤษ
หลังจากเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าแล้ว แอนนี่ก็หยัดตัวขึ้น สาวใช้จึงรีบถือเสื้อโค้ทสีแดงเลือดหมูเข้ามาสวมให้แอนนี่อีกทั้งยังช่วยจัดปกเสื้อและเติมเครื่องสำอางให้เสร็จสรรพ
เมื่อจัดการทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว แอนนี่ก็รับหมวกใบหนึ่งมาจากสาวใช้
บนหมวกประดับด้วยขนนกล้ำค่า ด้านหลังมีไข่มุกเม็ดใหญ่และบริเวณขอบถูกปักอย่างประณีตสวยงาม เมื่อถูกสวมลงบนศีรษะของแอนนี่ขับให้เธอดูสง่างามและสูงส่งมากกว่าเดิม
เมื่อเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว บอดี้การ์ดจึงแจ้งไปยังพนักงานให้เปิดประตูและวางบันไดลงจากเครื่องบิน
ภายใต้การดูแลของบอดี้การ์ดและคนรับใช้ แอนนี่และแฮธาเวย์ไปยังบันไดทางออกพร้อมกัน ทั้งสองโบกมือให้กับข้าราชการของหวาเซี่ยและนักธุรกิจที่มารอรับเสด็จ จากนั้นก็ค่อยๆเดินลงจากเครื่อง
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มนักลงทุนของอังกฤษที่เดินตามหลังของเธอโดยเว้นระยะห่างสามเมตร ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้ล้วนขับให้เธอดูสูงส่ง
“เจ้าหญิงที่เคารพ คุณแฮธาเวย์ ยินดีต้องรับสู่ยันเจียงครับ”
แอนนี่และแฮธาเวย์เพิ่งลงจากเครื่อง ข้าราชการของหวาเซี่ยก็ปรี่เข้ามาต้อนรับ คนที่นำขบวนมาคือมือหนึ่งที่สังกัดหน่วยงานหน่วยหนึ่งของยันเจียง
“ขอบคุณค่ะ”
แอนนี่ยื่นมือเรียวขาวออกไปจับกับมือหนึ่งของยันเจียงเบาๆพลางเอ่ยขอบคุณ
จากนั้นแอนนี่ก็เริ่มจับมือทักทายกับคนที่อยู่ด้านหลังทีละคน บนใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มประดับอยู่ ด้านมือหนึ่งของยันเจียงก็ไล่จับมือกับสมาชิกกลุ่มนักลงทุนจากอังกฤษที่อยู่ด้านหลังแอนนี่
หลังจากจับมือกับข้าราชการของยันเจียงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้าแอนนี่
เมื่อเห็นแอนนี่ ฉับพลันชายหนุ่มก็เผยรอยยิ้มน่าดึงดูด “เจ้าหญิงแอนนี่ กระผมชื่อเฉินอิงไฉ ยินดีที่ได้พบกับเจ้าหญิงครับ”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเป็นฝ่ายยื่นมือออกมาก่อน
เสียงของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาดังขึ้น ดวงตาสีฟ้าราวกับอัญมณีของแอนนี่เป็นประกายทันที ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้มีสกุลเดียวกับผู้มีพระคุณของเธอหรือนี่!
“สวัสดีค่ะคุณเฉิน” แอนนี่ยิ้มตอบพลางยื่นมือเรียวขาวออกไปจับกับเฉินอิงไฉ
สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือเวลาที่แอนนี่จับมือกับเฉินอิงไฉเมื่อเทียบกับคนอื่นๆแล้วนานกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แอนนี่ชอบพอในตัวเฉินอิงไฉหรือ?
ดวงตาของข้าราชการจากยันเจียงเป็นประกายทันที หากแอนนี่ชอบพอเฉินอิงไฉล่ะก็ กลุ่มนักลงทุนของอังกฤษที่จะมาลงทุนในยันเจียง คงต้องพึ่งพาเฉินอิงไฉแล้วล่ะ
เมื่อเห็นสายตาอิจฉาจากคนรอบข้าง ฉับพลันเฉินอิงไฉก็รู้สึกว่าความทะนงตนของตัวเองได้รับการเติมเต็มถึงขีดสุด
ไม่ว่าจะเป็นเพราะแอนนี่รู้จักเขามาก่อนหรือเป็นเพราะเสน่ห์ในตัวเขาที่ทำให้แอนนี่ปฏิบัติต่อเขาพิเศษกว่าคนอื่น แต่ไม่ว่ายังไงล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เขาภาคภูมิใจ!
หลังจากพิธีการต้อนรับสั้นๆจบลง แอนนี่และผู้ติดตามก็ขึ้นโดยสารรถแลนด์โรเวอร์กันกระสุนที่ถูกจัดเตรียมไว้ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่ถูกจองไว้
ห้องที่แอนนี่เข้าพักแน่นอนว่าต้องเป็นห้องสูทชั้นพิเศษ
ส่วนแฮธาเวย์เมื่อออกจากสนามบินแล้วก็กลับไปยังบ้านของตัวเอง
“เจ้าหญิงเพคะ มื้อค่ำจะเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม เจ้าหญิงจะพักผ่อนก่อนแล้วค่อยอาบน้ำเปลี่ยนชุดหรือจะอาบน้ำตอนนี้เลยเพคะ?” หลังจากมาถึงโรงแรม สาวใช้ก็จัดเสื้อผ้าทั้งชุดนอนและชุดราตรีออกจากกระเป๋าให้ทันที ก่อนจะเอ่ยถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...