บทที่ 620 ผู้มีพระคุณสกุลเฉิน
หลังวางสายจากแฮธาเวย์ แอนนี่ก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดภายใต้การดูแลของสาวใช้ จากนั้นเธอก็เลือกสวมชุดราตรีสีขาวดูสวยสง่าปรากฏตัวในงานเลี้ยงและนั่งทานอาหารที่โต๊ะหลัก
คนที่นั่งโต๊ะเดียวกับเธอยังมีพนักงานจากพระราชวังอังกฤษคนหนึ่งรวมถึงผู้ดูแลของกลุ่มนักลงทุนและนักธุรกิจแนวหน้าอีกหลายคน
ด้านหวาเซี่ยก็มีมือหนึ่งของยันเจียงนั่งอยู่หัวโต๊ะและมีผู้มีอำนาจหลักๆอยู่สองสามคน นอกจากนี้ยังมีเฉินอิงไฉและตัวแทนนักธุรกิจของยันเจียงอีกคนหนึ่ง
ถึงแม้ว่าลำดับของเฉินอิงไฉจะไม่สูงทว่าเขาเป็นตัวแทนตระกูลเฉินจากยันเจียง อีกทั้งเขตที่เขาดูแลอยู่คือเขตฝางซานซึ่งเป็นเขตที่ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนของอังกฤษในครั้งนี้
งานเลี้ยงเริ่มต้นขึ้นแล้ว มือหนึ่งของยันเจียงเอ่ยต้อนรับก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็มีแอนนี่เป็นตัวแทนในการกล่าวขอบคุณจากทางฝั่งของกลุ่มนักลงทุนจากอังกฤษ
เมื่อพิธีการทั้งหมดเสร็จสิ้นลง ทุกคนจึงเริ่มลงมือรับประทานอาหาร
แอนนี่ปฏิบัติตัวตามพิธีการของราชวงศ์อังกฤษและชนชั้นสูงได้อย่างดีเยี่ยม กิริยาในการรับประทานอาหารสง่างาม ค่อยๆเคี้ยวค่อยๆกลืน ทั้งหมดนี้ล้วนขับให้เธอดูสูงสง่า
แน่นอนว่าเธอก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงประเพณีท้องถิ่นของที่นี่ เมื่อทานอาหารไปได้สักพักหนึ่ง การยกแก้ว ชนแก้วก็มาถึง
สำหรับธรรมเนียมปฏิบัติทั้งหมดนี้ถึงแม้แอนนี่จะไม่คุ้นเคยทว่าบนใบหน้าของเธอก็ประดับรอยยิ้มตลอดเวลา
“เจ้าหญิงแอนนี่ยินดีต้อนรับสู่หวาเซี่ยสู่ยันเจียงอีกครั้งครับ”
เมื่อวนมาถึงเฉินอิงไฉ เขาหยัดตัวขึ้นอีกครั้งก่อนจะถือแก้วไวน์เดินมาหยุดอยู่ข้างแอนนี่ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่ตัวเองคิดว่ามีเสน่ห์ “ถึงแม้ผมจะเจอเจ้าหญิงเป็นครั้งแรกแต่ผมรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าหญิงอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเราเคยเจอกันหลายครั้งหรือรู้จักกันมานาน”
“ฉันก็รู้สึกว่าตัวคุณฉินให้ความรู้สึกคุ้นเคยเช่นกันค่ะ” แอนนี่หยัดตัวขึ้นยกแก้วไวน์พลางตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดของแอนนี่ มือหนึ่งของยันเจียงรวมถึงคนของทางหวาเซี่ยทุกคนในโต๊ะนี้ล้วนตกตะลึง จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกยกย่องเฉินอิงไฉ เนื่องจากพวกเขาเคยลองพยายามตีสนิทกับแอนนี่แล้วแต่ไม่มีใครทำสำเร็จ!
นอกจากยกย่องแล้วในขณะเดียวกันมือหนึ่งของยันเจียงก็ปีติยินดีอยู่ในใจ ดีใจที่หน้าที่ดึงดูดการลงทุนตกไปอยู่ที่เฉินอิงไฉ
จากที่เขาเห็นปฏิกิริยาของเฉินอิงไฉ ตอนนี้แอนนี่ประทับใจในตัวเฉินอิงไฉพอสมควรซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดการลงทุนทางธุรกิจเป็นอย่างมาก
“กระผมเชื่อว่าเราจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันได้ครับเจ้าหญิงแอนนี่” เมื่อรับรู้ถึงสายตาอิจฉาและยกย่องจากคนรอบข้าง รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินอิงไฉก็ดูมั่นใจมากกว่าเดิม ในใจก็เติมไปด้วยความภาคภูมิใจ
ในฐานะทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเฉิน ในตอนแรกที่ตระกูลเฉินมอบหมายให้เขาดูแลเรื่องการต้อนรับเจ้าหญิงของราชวงศ์อังกฤษ เขายังรู้สึกไม่สบายใจ
สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงที่สูงส่งอย่างเจ้าหญิงมาตรฐานต้องสูงเป็นธรรมดา
ถึงแม้เขาจะเป็นคนของตระกูลเฉิน ทว่าเจ้าหญิงก็อาจจะไม่ไว้หน้าเขา
แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์จะเข้าถึงง่ายขนาดนี้ เขาเอ่ยเพียงสองสามประโยคก็ได้รับความสนิทสนมจากเจ้าหญิงแล้ว
“ฉันตั้งตารอเลยค่ะ” แอนนี่ยิ้มบางๆ ประโยคแรกทำให้เฉินอิงไฉพึงพอใจมาก ทว่าประโยคที่สองทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินอิงไฉชะงักค้างทันที “เพราะว่าเพื่อนหวาเซี่ยคนแรกของฉันก็สกุลเฉินเหมือนกัน จะพูดให้ถูกก็คือเขาเป็นผู้มีพระคุณของฉันค่ะ”
ผู้มีพระคุณของเจ้าหญิงแอนนี่……ก็สกุลเฉินอย่างนั้นหรือ?
เมื่อได้ยินประโยคนี้ของแอนนี่ บรรยากาศก็อึดอัดอย่างน่าประหลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ยืนถือแก้วเหล้าอยู่อย่างเฉินอิงไฉที่กระอักกระอ่วนจนพูดไม่ออก
ตอนแรกคิดว่าแอนนี่รู้สึกดีกับเขาเพราะรูปลักษณ์ภายนอกและชื่อเสียงของตระกูล
ทว่าตอนนี้แอนนี่กลับบอกว่ารู้สึกดีกับเขาเพราะว่าผู้มีพระคุณของเธอก็สกุลเฉินเหมือนกัน
“เจ้าหญิงแอนนี่ ขออนุญาตสอบถามว่าผู้มีพระคุณของเจ้าหญิงคือใครครับ?”
หลังจากปิดบังความอึดอัดที่ปรากฏบนใบหน้าเรียบร้อยแล้ว เฉินอิงไฉก็เอ่ยปากถามพร้อมรอยยิ้ม เขาสงสัยมากว่าผู้มีพระคุณที่แอนนี่พูดถึงคือใคร
เพราะดูจากสีหน้าของแอนนี่แล้วบ่งบอกได้เลยว่าผู้มีพระคุณสกุลเฉินที่เธอพูดถึงนั้นสำคัญสำหรับเธอมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...