บทที่ 630 สร้างความตื่นตกใจ
"ข้อที่สอง ก่อนหน้านี้ฉันได้พูดไปแล้ว ฉันเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆกับประเทศที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์นี้ แต่หลังจากที่ฉันมาถึงที่นี่ก็มีเรื่องที่ทำให้ฉันไม่พอใจ คนที่ชื่อเฉินอิงไฉซึ่งอยู่ในยันเจียง เพื่อที่จะดึงดูดให้ฉันลงทุน เขาใช้การหลอกลวง ใช้วิธีการล่อลวงที่แสนจะน่ารังเกียจ ทำให้ฉันโมโหเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นเริ่มสงสัยสภาพแวดล้อมการลงทุนของยันเจียงและหวาเซี่ย ถึงขั้นทำให้ฉันยกเลิกความคิดที่จะลงทุน แต่โชคดีที่ในเวลานั้น ฉันได้เจอกับผู้มีพระคุณและเพื่อนของฉันที่ชื่อเฉินเฟิง เฉินเฟิงบอกกับฉันว่า นั่นเป็นแค่ข้อยกเว้นเท่านั้น"
"ความเป็นจริงเป็นเครื่องยืนยัน สิ่งที่ผู้มีพระคุณพูดนั้นถูกต้อง นั่นเป็นเพียงแค่ข้อยกเว้นเท่านั้น คนอื่นๆในหวาเซี่ยล้วนดีมาก ยกตกอย่างเช่นคุณเซ่หย่วนที่น่าเคารพ แต่ฉันก็ยังคงอยากจะพูด ฉันไม่อยากเจอคนที่ชื่อเฉินอิงไฉในระหว่างการร่วมลงทุน และหวังว่าจะไม่ได้เจอคนประเภทนี้——การทำงานร่วมกันสิ่งที่จำเป็นคือความจริงใจ!”
"สุดท้าย ขอขอบคุณทุกท่าน ณ ที่นี่ด้วย ฉันเชื่อว่า การสนับสนุนอย่างยิ่งใหญ่ของหวาเซี่ยและยันเจียง ทำให้ธุรกิจของอังกฤษและธุรกิจของหวาเซี่ยสามารถบรรลุเป้าหมายได้ และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น"
ตามด้วย ขณะที่ทุกคนกำลังมองด้วยความจดจ่อและคาดหวังนั้น ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าของแอนนี่แต้มไปด้วยรอยยิ้ม เธอพูดขึ้นเสียงหวาน โดยพูดเป็นภาษาอังกฤษ สำเนียงจากตระกูลผู้ดี หลังจากเธอพูดจบหนึ่งประโยคก็จะหยุดลง แล้วให้ล่ามในงานแปลภาษา เสียงนั้นดังก้อง
"แปะๆๆ......"
สิ้นเสียงของแอนนี่ เสียงปรบมือหนาหูดังขึ้น ดังอยู่นานไม่หยุด ราวกับจะปรบมือจนเพดานพลิกกลับด้าน
เฉินอิงไฉจบเห่แล้ว !
ขณะที่กำลังปรบมือ ภายในใจของคนของหวาเซี่ยทีอยู่ในงานต่างเหงื่อตกและมีความคิดนี้ขึ้นมา
ถูกแอนนี่พูดตำหนิต่อหน้าข้าราชการระดับสูง ต่อให้เฉินอิงไฉจะมีคนคอยหนุนหลังที่มีอำนาจแค่ไหน ก็อย่าคิดฝันที่จะอยู่ในแวดวงข้าราชการได้อีก
ในทางกลับกัน เฉินเฟิงกลับได้รับความสนใจจากข้าราชการระดับสูง เพราะเรื่องในครั้งนี้
"ตาเซ่ เพื่อป้องกันไม่ให้การลงทุนของบริษัทอังกฤษเกิดปัญหาขึ้นอีก นายรีบเรียกประชุมแล้วกำจัดเฉินอิงไฉไปซะ จากนั้นรายงานไปที่แผนกองค์กร ฉันเองก็จะรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับแผนกองค์กรตามจริง ให้แผนกองค์กรประกาศเรื่องจัดการเฉินอิงไฉก่อนที่บริษัทอังกฤษจะไปจากยันเจียง ถือว่าเป็นการให้คำตอบแอนนี่และบริษัทอังกฤษ"
หลังจากจบการสัมมนา หัวหน้าใหญ่ส่งแอนนี่ไปที่รถ จากนั้นเข้าไปนั่งในรถHongqi บอกกับเซ่หย่วนที่นั่งอยู่ข้างตน
"ครับ หัวหน้า"
เซ่หย่วนทำตามคำสั่งทันที เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อหน้าหวังหง สั่งให้เลขารายงานกรรมการ ให้ออกหนังสือเรียกประชุม วันนี้เวลาบ่ายโมงตรง ประชุมในหัวข้อไล่เฉินอิงไฉออก
บ่ายโมงตรง การประชุมได้เริ่มขึ้นอย่างตรงเวลา เซ่หย่วนและข้าราชการระดับสูงต่างร่วมการประชุม บ่ายสอง การประชุมจบลง ทุกคนที่ร่วมประชุมต่างมีความเห็นตรงกัน และได้มีมติดังต่อไปนี้
เฉินอิงไฉถูกไล่ออก
มตินี้ ทำให้ยันเจียงเกิดความปั่นป่วนไม่น้อย
เฉินอิงไฉ เป็นถึงหนึ่งในคนที่โดดเด่นของทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเฉิน แต่สุดท้ายตอนนี้เขากลับถูกไล่ออก
อีกทั้ง ชีวิตนี้ไม่สามารถเข้ามาทำงานราชการได้อีก วิธีการจัดการในครั้งนี้ แทบจะเท่ากับประหารเฉินอิงไฉ!
"เฉินเฟิง ไอ้ลูกเมียน้อย แกรอดูเถอะ!ฉันไม่จบกับแกแน่!”
หลังจากที่เฉินอิงไฉรู้บทลงโทษ เขาก็ร้องตะโกนด้วยความหน้าดำหน้าแดง กำหมัดทั้งสองข้างแน่น ใบหน้าของเขายับยู่ยี่เต็มไปด้วยความแค้น......
ค่ำคืนหลังจากผ่านไปสามวัน แอนนี่ที่พักอยู่ในโรงแรมหรูหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วนั้น เธอใส่ชุดนอนผ้าไหม นอนอยู่บนเตียงนุ่มขนาดใหญ่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเฉินเฟิง
"เฉินเฟิงที่รัก คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ?" ปลายสายรับสาย แอนนี่เป็นฝ่ายถามก่อน
"ไม่ได้ทำอะไรครับ มีอะไรรึเปล่า?" เฉินเฟิงถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...