ลูกเขยมังกร นิยาย บท 647

บทที่ 647 ส่งนายขึ้นสวรรค์

ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงไม่ยอมรับคำท้าซะที และไม่ได้ปรากฏตัวด้วย นอกจากคนไม่กี่คนแล้ว ทุกคนต่างพากันคิดว่าเฉินเฟิงกลัวและหงอไปแล้ว ไม่กล้ารับคำท้าของจิ่งเถิง! แต่ตอนนี้เฉินเฟิงกลับหิ้วจิ่งหรินและศพมู่หยางมาปรากฏตัว พร้อมทั้งอธิบายสาเหตุที่ตนไม่ยอมตอบรับคำท้าและลงมือจัดการจิ่งหรินกับมู่หยาง สุดท้ายเขาจัดการโยนจิ่งหรินและศพมู่หยางทิ้งลงทะเลสาบท่ามกลางสายตาของทุกคน!

ท่าทางที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดนี่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงจนไม่สามารถจะหาคำอะไรมาอธิบายได้! ทั้งหมดนี้ก็เหมือนเหยียบเท้าลงไปบนหัวตระกูลจิ่ง กระหน่ำเหยียบซ้ำลงไปบนความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีของตระกูลจิ่งด้วย!

ในฐานะหนึ่งในตระกูลที่มีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและเก่าแก่ที่สุดของหวาเซี่ย นับแต่อดีตมาตระกูลจิ่งมีฐานะสูงมากในวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย ทุกครั้งที่ออกสู่ยุทธภพก็จะสะเทือนวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยเสมอ เคยโดนใครเหยียดหยามขนาดนี้เมื่อไหร่กันล่ะ?

“อ๊า...ช่วยด้วย....”

ไม่นาน เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น จิ่งหรินดิ้นรนอยู่ในทะเลสาบอย่างสุดชีวิต และตะโกนเสียงดังร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ทุกคนได้สติกลับมา

“จิ่งเถิง พาพวกเขาขึ้นมา!” จิ่งหยุนเฟิงเอ่ยปาก สายตาเขาจ้องเขม็งไปที่เฉินเฟิงที่อยู่ห่างออกไป ไม่ปิดบังความโกรธและอยากฆ่าในสายตาเลย เขาแทบจะกัดฟันพูดคำพวกนี้ออกมา

“ครับ คุณปู่!” จิ่งเถิงข่มกลั้นอดทนไม่ผลุดไปฆ่าเฉินเฟิง และก้มหน้ารับคำสั่งอย่างโกรธจัด กระโดดผลุบเดียวลงไปในทะเลสาบ คว้าตัวจิ่งหรินและมู่หยางในทะเลสาบอย่างว่องไว

ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางสายตาประชาชี เฉินเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาพาพวกเสี้ยเมิ่งเหยาเข้าสู่เขตพิเศษ ขึ้นเรือทันที

หนึ่งในนั้น เฉินเฟิงเดินขึ้นเรือลำที่สองทันที ส่วนพวกเสี้ยเมิ่งเหยาเดินไปขึ้นเรือลำที่สาม

“ตอนแรกฉันนึกว่าเฉินเฟิงหงอแล้วซะอีก ไม่คิดเลยว่าเขาจะแกร่งขนาดนั้น ขนาดตระกูลจิ่งยังไม่เห็นในสายตาเลย!”

“ใช่ไง แต่เดิมมาวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยยังไม่เคยมีใครเคยหลู่เกียรติตระกูลจิ่งขนาดนี้มาก่อนเลย!”

“แบบนี้เท่ากับว่า การประลองในวันนี้ก็สนุกแล้วสิ ไม่รู้ว่าเฉินเฟิงกับนายจิ่งเถิงนั่นใครเก่งกว่ากัน?”

พอเห็นเฉินเฟิงค่อยๆย่างเท้าเดินไปที่เรือลำที่สอง ศิษย์สำนักน้อยใหญ่บนเรือลำที่หนึ่งพากันวิพากษ์วิจารณ์กัน พวกเขาตกใจกับท่าทีแข็งกล้าของเฉินเฟิงก่อน จากนั้นก็มีคนพูดถึงการประลองความเป็นความตายที่กำลังจะถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งดังขึ้น

“ถึงแม้เฉินเฟิงแสดงออกว่าแกร่งมาก แต่ฉันคิดว่า จิ่งเถิงน่าจะชนะมากกว่านะ ข้อแรก ตระกูลจิ่งเป็นตระกูลวิทยายุทธ์ที่สืบทอดมาช้านาน วิชาหมัดหยินหยางที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษน่ากลัวมาก ข้อสอง ถึงเฉินเฟิงจะบอกว่าไม่รู้เรื่องท้าประลองของจิ่งเถิงเพราะกำลังเข้าฌานฝึกยุทธ แต่ตัวฉันคิดว่าเขากำลังโกหก---หลังจากเขารู้ว่าจิ่งเถิงท้าประลองความเป็นความตายกับเขา ถึงได้ไปเข้าฌานต่างหาก!” บางคนสรุปแบบนี้ออกมาตามความคิดของตัวเอง

“ฉันคิดว่านายพูดมีเหตุผลนะ ท่าทีแข็งแกร่งไม่ได้แปลว่าจะชนะ ตรงกันข้าม อาจเพราะในใจไม่มั่นใจถึงได้จงใจทำแบบนี้ อยากเอาฤกษ์เอาชัยเลยแกล้งทำเก่ง” บางคนเริ่มเห็นด้วย และได้รับการเออออจากผู้คนจำนวนมาก

“ท่าทีแข่งแกร่งไม่ได้แปลว่าจะชนะจริง แต่ถ้าพวกนายรู้จักเฉินเฟิงดี ก็น่าจะรู้นะ คำจำกัดความของเขาคือท่าทีแข็งกล้า ไม่ได้พูดจาโม้โอ้อวดนะ ส่วนเรื่องผลการประลอง ฉันคิดว่าเฉินเฟิงน่าจะชนะมากกว่า---ลองคิดๆเรื่องของเขาและประสบการณ์การต่อสู้ที่ผ่านมาสิ เรียกได้ว่าฆ่าคนได้มาเลยล่ะ มีหรือที่ดอกไม้ในเรือนกระจกอย่างจิ่งเถิงจะเทียบกันได้?” บางคนมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน เฉินเฟิงน่ะรอดผ่านการฆ่าล้างบางนินจาญี่ปุ่นมาได้เลยนะ ประสบการณ์ต่อสู้ของจริงของเขามีหรือที่คนเข้าฌานตลอดอย่างจิ่งเถิงจะเทียบได้?

“ใช่ นอกจากความสามารถที่แท้จริงจะห่างชั้นกันมาก ไม่งั้นเฉินเฟิงชนะแน่---ประสบการณ์ต่อสู้ผ่านความเป็นความตายมาของเขาไม่ใช่อะไรที่จิ่งเถิงจะเทียบได้เลย!”

“ฉันเชื่อว่าเฉินเฟิงจะชนะในที่สุด!”

“ฉันเชียร์จิ่งเถิง!”

พริบตาเดียวศิษย์สำนักน้อยใหญ่บนเรือลำที่หนึ่งเริ่มเถียงกันขึ้นมา ทะเลาะกันหาข้อสรุปไม่ได้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร