บทที่ 65 ไอ้แก่ เจ้าบ้าเอ๊ย
“ไอ้ของเก่า เจ้าบ้าเอ๊ย”เฉินเฟิงหัวเราะยียวน ตื้นเขินจริงๆ ทุกที่ก็มีลูกพี่ใหญ่ เป็นลูกพี่ของเมืองหนึ่งก็คิดว่าตัวเองเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ปากดียิ่งกว่าฝีมือซะอีก
หานหลงน้ำเสียงนิ่งชะงัก โลดแล่นบนทางสายนี้มานานปี เขายังไม่เคยเห็นคนหนุ่มที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำอย่างเฉินเฟิงเลยจริงๆ นี่คิดว่าจัดการบอดี้การ์ดสิบกว่าคนแล้วตัวเองจะไร้เทียมทานจริงๆ งั้นเหรอ?
เขาหานหลงผ่านลมผ่านฝนมาเท่าไหร่ เดินผ่านเส้นทางมามากกว่าเฉินเฟิงมากมายนัก การเผชิญหน้ากับศัตรูหนึ่งต่อร้อยก็เจอมาแล้วไม่น้อย แต่ไม่มีใครสักคนที่จะบ้าคลั่งเท่าเฉินเฟิง
คนหนุ่ม บ้าได้ แต่ต้องมีสมองด้วย!
หานหลงหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดพลางยิ้ม “ในเมื่อนายไม่เลือก งั้นลุงจะตัดสินใจให้ก็แล้วกัน ถลกหนังหักกระดูกทั้งหมดนั่นแหละนะ”
น้ำเสียงราวกับกำลังยื่นของขวัญให้
เฉินเฟิงยิ้มเยาะ เขาก็อยากจะเห็น วันนี้ใครจะถลกหนัง ใครจะหักกระดูก!
เพียงสิ้นเสียงของหานหลง ด้านหลังก็ปรากฏชายสวมชุดดำคนหนึ่ง ชายคนนั้นดูธรรมดามาก แต่ที่เบ้าตาขวาของเขาว่างเปล่า เห็นชัดว่าลูกตาของเขาหายไปข้างหนึ่ง ดูแย่มากทีเดียว
เมื่อเห็นชายคนนั้นแล้ว เสิ่นจุนเหวินก็ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว รู้สึกเพียงว่าแผ่นหลังหนาววูบๆ
ชายตาเดียวคนนั้นชื่อว่าฟางเทา เขาคือนักสู้ที่แข็งแกร่งของหานหลง ตามข่าวลือบอกว่า เจ้านายของฟางเทานั้นคือเจ้าของสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังในเมืองจินหลิง ฟางเทาเป็นที่ชื่นชมของเจ้านาย ก็เป็นเพราะแบบนี้ ฟางเทาได้รับความอิจฉาจากเพื่อนพี่น้องคนอื่น ในการประลองครั้งหนึ่ง ฟางเทาได้ถูกพี่น้องคนหนึ่งแทงเข้าที่ตา
ตั้งแต่นั้นมา นิสัยของฟางเทาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ฝึกการต่อสู้ทั้งวันทั้งคืน และปล่อยให้ดวงตาที่มืดบอดของตัวเองปรากฏสู่สายตาของผู้คน หลายปีต่อมา วิชาการต่อสู้ของฟางเทาก็ประสบความสำเร็จ ในคืนฝนพรำเขาเข้าไปในบ้านของคนที่ทำให้ตัวเองตาบอดคนนั้น
โศกนาฏกรรมได้เกิดขึ้น สิบสามคนในบ้าน ไม่มีใครมีชีวิตรอด!
จากนั้นฟางเทาก็ถูกคนของสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังตามล่า เขากระเสือกกระสนมาจนถึงชางโจวแล้วถูกหานหลงเก็บมา และได้กลายมาเป็นมีดของหานหลง
หลายปีมานี้ คนที่ตายด้วยน้ำมือของฟางเทา ก็มีเป็นสิบกว่าคนแล้ว นอกจากนี้ฟางเทายังมีนิสัยรุนแรง ตอนที่ลงมือฆ่าจะชอบการทรมานมากที่สุด คนที่ถูกฟางเทาฆ่านั้น ไม่มีเลยสักคนที่ร่างครบสมบูรณ์
เสิ่นจุนเหวินเคยเห็น คนที่ทำให้หานหลงอารมณ์เสีย ถูกฟางเทาบดขยี้กระดูกทั่วทั้งร่าง บดทำลายทีละชิ้นทีละซี่ เสียงร้องโหยหวนของคนที่ถูกหักกระดูกคนนั้นในตอนนั้นยังทิ้งเงาหลงเหลืออยู่ในใจของเสิ่นจุนเหวิน เป็นผลให้เสิ่นจุนเหวินต้องแข้งขาอ่อนเมื่อเห็นฟางเทา
สรุปแล้ว ฟางเทาก็คือคนบ้า แถมยังเป็นพวกบ้าแบบสุดๆ ที่มีอำนาจมากอีกด้วย
ฟางเทายืนอยู่ตรงหน้าเฉินเฟิง เขาเลียริมฝีปาก ด้วยดวงตาซ้ายเพียงข้างเดียวนั้น ฉายแววของความตื่นเต้นออกมา
“ตูม!”
ฟางเทาลงมืออย่างอุกอาจ เสียงกำปั้นดังแหวกอากาศ
เฉินเฟิงบิดตัวไปทางซ้ายเล็กน้อย เพื่อหลบหมัด
แต่แล้ว การโจมตีที่รุนแรงกว่าเดิมก็กระหน่ำใส่เฉินเฟิงราวห่าฝน
เฉินเฟิงถอยหลังไม่หยุด แต่ไม่ใช่เพราะสู้ฟางเทาไม่ได้ แต่เพราะเฉินเฟิงพบว่า ทักษะการใช้หมัดของฟางเทานั้น ดูคล้ายกับที่เขาเคยเห็นเมื่อสามปีก่อน ผู้สอนวิชามวยให้กับฟางเทา เคยเข้าร่วมในการตามล่าตัวเขาเมื่อสามปีก่อน!
แววตาของเฉินเฟิงเริ่มเปลี่ยนไป ไม่นึกว่าจะมีความน่ายินดีที่ไม่คาดคิดแบบนี้ กลุ่มคนที่ตามล่าตัวเขาเมื่อสามปีก่อน เฉินเฟิงยังจำได้ดีอยู่เสมอ ในตอนนั้นแม้ส่วนใหญ่จะสวมหน้ากาก แต่เฉินเฟิงยังจดจำเทคนิควิชาของพวกเขา รอแค่เพียงโอกาสที่จะเอาคืนไปทีละคน!
วันนี้เป็นโอกาสที่เขาจะได้ใช้ประโยชน์จากการประมือกับฟางเทา เพื่อขุดหาคนที่อยู่เบื้องหลัง
ความคิดของเฉินเฟิงนั้นไม่มีใครล่วงรู้ พวกเขาเห็นเพียงแค่ เฉินเฟิงถูกฟางเทาต้อนเข้าไปเรื่อยๆ ดูเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
บนใบหน้าของหานหลงยังคงประดับยิ้ม แต่ในใจกลับมีความรู้สึกเสียดายอยู่นิดหน่อย สามารถต้านทานการโจมตีที่รุนแรงของฟางเทาได้ขนาดนี้ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีทีเดียว หากไม่ใช่เพราะหัวแย่ไปหน่อย เขาก็คิดอยากจะเก็บเฉินเฟิงมาใช้งานอยู่เหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...