บทที่ 652 ไม้ตายขั้นสุด
“เถิงเอ๋อ ไม่ต้องกังวลไป นี่เป็นพลังที่แกร่งที่สุดของเขาแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเราหรอก!” ได้ยินคำพูดของจอมยุทธ์มากมาย สีหน้าสองพ่อลูกจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิงดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ตั้งแต่เริ่มประลองมาจนตอนนี้ ความสามารถของเฉินเฟิงเหมือนหลุมดำยังไงยังงั้น แม้แต่พวกเขาก็มองไม่ออก เฉินเฟิงเหมือนจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆตลอด ได้เปรียบตลอด ทำให้เมื่อกี้เกือบจะสั่นคลอนแล้วกับความมั่นใจในใจพวกเขาที่ว่า----จิ่งเถิงต้องชนะแน่!
แต่ตอนนี้ธนูที่ตั้งสายแล้วไม่สามารถถอยหนีได้ พวกเขาไม่มีทางถอยแล้ว จิ่งเถิงต้องชนะเฉินเฟิงแน่!
หือ?
บนกาบเรือ เฉินเฟิงปรับลมปราณในตัวเสร็จแล้ว เขาสามารถควบคุมพลังภายในที่เริ่มสับสนไว้ได้ พอจะก้าวเท้าออกไปฆ่าจิ่งเถิงให้มันสิ้นเรื่อง ก็ได้ยินคำพูดของจิ่งเซ่อเหมิง เลยชะงักฝีเท้าลง “เอ๋...” ในเวลาเดียวกัน ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้คนอื่น รวมถึงก่วนหนานเทียนและอู่จื่อโจว หลังจากได้ยินคำพูดของจิ่งเซ่อเหมิงแล้ว อดหันไปมองจิ่งเซ่อเหมิงอย่างตกใจไม่ได้ เหมือนกำลังถามว่า: นี่จิ่งเถิงยังมีไม้ตายอีกหรอ?
“ไอ้หมอ ฉันต้องยอมรับจริงๆนะว่า แกแกร่งมาก แกร่งจนถึงกับบังคับให้ฉันต้องใช้ท่าไม้ตายสุดท้ายได้ ตอนแรกฉันคิดจะใช้มันในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกมากกว่า!” เหมือนตอบคำถามพวกก่วนหนานเทียน จิ่งเถิงแลบลิ้นเลียรอยเลือดที่ปาก และคายเลือดในปากออกไป ขยับร่างกายเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชาว่า:
“แต่ว่าพอแค่นี้แหละ แกน่าจะภูมิใจมากพอแล้วที่ได้ตายด้วยท่าไม้ตายสุดแกร่งของฉัน!”
“เหอะเหอะ ตั้งแต่เริ่มประลองมาจนตอนนี้ นอกจากจะปากเก่งมากแล้ว แกยังทำอะไรเป็นมั่ง?”
เฉินเฟิงยิ้มไม่ยี่หระด้วยสีหน้าดูถูกจิ่งเถิง แต่ในใจกำลังเตรียมการป้องกัน
เมื่อกี้ที่ตกใจไม่เพียงแค่จิ่งเถิงและพวกผู้ชม เฉินเฟิงเองก็ตกใจเหมือนกัน
วันนั้นที่เขาเดินลมปราณวิธีหายใจลับๆ และใช้กระบวนท่าไม้ตายหักแม่น้ำ แม้แต่นินจาชั้นสูงญี่ปุ่นสองคนนั้นยังต้านทานไม่อยู่ แต่จิ่งเถิงกลับแค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย---มันเหนือความคาดหมายของเขามาก และเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีว่า การโจมตีของจิ่งเถิงเมื่อกี้แกร่งมากจริงๆ
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จิ่งเถิงกลับยังมีไม้ตายเหลืออีก ทำให้เฉินเฟิงต้องระวังมากขึ้นละ!
“ตระกูลจิ่งของเราสามารถยืนหยัดไม่เคยล้มในวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยมาได้เป็นพันปี หมัดหยินหยางสามารถสะท้านวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยมานับพันปี ความสุดยอดของมันไม่ใช่อะไรที่กบในกะลาอย่างแกจะเข้าใจได้หรอก!” จิ่งเถิงแค่นเสียงยิ้มเย็น
หือ?
พอได้ยินคำพูดของจิ่งเถิง เฉินเฟิงไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่จ้องมองจิ่งเถิงนิ่ง
ไม่เพียงแค่เขา ตอนนี้สายตาทุกคนพุ่งไปที่จิ่งเถิง เหมือนกำลังถามว่า: “ไม้ตายที่แกร่งที่สุดของจิ่งเถิงคืออะไร?
ไม่มีคำตอบ จิ่งเถิงควบคุมกำลังภายในที่สับสนได้ในที่สุด จากนั้นเริ่มเดินลมปราณให้พลังเพิ่มพูนขึ้นมาอีกครั้ง แถมยังเร็วกว่าเมื่อกี้อีกด้วย
ไม่นานออร่าของจิ่งเถิงกลับมาน่ากลัวเหมือนก่อนหน้านี้ แต่พลังกลับยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด เหมือนไร้ที่สิ้นสุดยังไงยังงั้น
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
เพี๊ยะ!
จากนั้นจิ่งเถิงก้าวเท้าเข้าหาเฉินเฟิง ทุกย่างก้าวประหนึ่งเนิบช้า แต่ที่จริงแล้วเร็วมาก กาบเรือใต้ฝ่าเท้าไม่สามารถรองรับแรงอันน่ากลัวนี่ได้ ทนไม่ไหวแตกไปซะก่อน เหลือเพียงรอยเท้าชัดเจนเอาไว้ ทำเอาเรือลำใหญ่สะท้านสะเทือนขึ้นมา!
นอกจากนี้แล้วทุกย่างก้าวของเขาเป็นไปตามจังหวะบางอย่าง ทำปฏิกิริยากับพื้น ประหนึ่งมีกองทัพนับหมื่นกำลังบุกตะลุย เสียงดังทะลุโสตประสาทจนหูอื้อ
เสียงนั่นทำให้พวกหวู่เหวินโป๋ที่อยู่บนเรือลำที่สามหน้ามืดตาลาย เหมือนมีอะไรมากดทับหน้าอกไว้ ทำให้หายใจลำบาก
ไม่เพียงแค่พวกเขาท่านั้น พวกศิษย์สำนักน้อยใหญ่บนเรือลำที่หนึ่งพอได้ยินเสียงนี้รวมกับเสียงฝีเท้าแล้ว ก็รู้สึกหูอื้อจนไม่สามารถรวบรวมสมาธิไว้ได้
“ตาย!!” วินาทีต่อมาในตอนที่จิ่งเถิงเดินจนถึงจุดที่ห่างกับเฉินเฟิงราวสิบเมตรได้ จู่ๆจิ่งเถิงก็เดินลมปราณร้องตะคอกดังออกมา ประหนึ่งเสียงฟ้าฟาดให้ตกใจ
เสียงนี้มาไม่ได้ทันตั้งตัว และใสกระจ่าง เหมือนจะแผ่นดินไหว ทำให้พวกหวู่เหวินโป๋บนเรือลำที่สามยืนไม่อยู่ แทบจะเข่าอ่อนทรุดลง และทำให้พวกศิษย์สำนักน้อยใหญ่บนเรือลำที่หนึ่งหัวใจสั่นไหว สมองเริ่มเบลอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...