บทที่ 654 พลิกสถานการณ์อย่างน่าตกใจ
วินาทีต่อมา
มีเสียงสองเสียงดังเกือบจะพร้อมกัน
หมัดของเฉินเฟิงกระแทกเข้าหน้าอกจิ่งเถิงอย่างจัง พลังภายในอันแสนน่ากลัวที่กระแทกเข้าไป ทะลวงปราการลมปราณภายในที่ป้องกันของจิ่งเถิงพังทลาย และยังสะเทือนไปถึงภายในของจิ่งเถิง ทำให้กระดูกจิ่งเถิงแตกกระจายในพริบตา!
“พรืด----“
จิ่งเถิงลอยกระเด็นออกไปราวกับลูกเบสบอลที่โดนโฮมรัน หน้าอกยุบเป็นแอ่ง เลือดเนื้อดูสับสน กระอักออกมาคำโต จนดูเหมือนฝนห่าเลือดลงมา
“เอ๋...”
ฉากที่มาโดยไม่คาดฝันนี่ทำให้ทุกคนรวมทั้งจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิงตกใจตะลึงไปตามๆกัน!
ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง พวกเขาทุกคนเบิกตากว้าง ตะลึงมองจิ่งเถิงที่กระอักเลือดกลางอากาศและลอยกระเด็นออกไป เหมือนไม่อยากเชื่อว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง!
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สถานการณ์พลิกกลับเมื่อกี้ที่จิ่งเถิงดูได้เปรียบและกดดันอยู่ ใกล้จะฆ่าเฉินเฟิงได้แล้ว แต่พริบตาเดียวกลับถูกเฉินเฟิงชกจนได้รับบาดเจ็บหนักและลอยกระเด็นลอยไป!
วินาทีนี้พวกเขาสงสัยว่าเห็นภาพหลอนหรือเปล่า!
ภาพหลอนหรอ?
“ปึ้ก---“
จากนั้นมีเสียงดังเกิดขึ้น ร่างของจิ่งเถิงกระแทกหล่นพื้นเสียงดัง เขานอนขดตัวเหมือนกุ้งอยู่ที่พื้น แผลที่หน้าอกมีรอบปริแตก เลือดออกไม่หยุด ที่ปากเองก็กระอักเลือดไม่หยุดด้วย
เพราะเขาในตอนนี้ นอกจากกระดูกจะหนักแล้ว เส้นชีพจรก็แทบขาดสะบั้นด้วย อวัยวะภายในยิ่งแล้วใหญ่ โดนกระแทกจนฉีกขาด อย่าว่าแต่ให้ลุกขึ้นมาประลองกับเฉินเฟิงต่อเลย ถ้าไม่รีบจัดการรักษาบาดแผลให้ทันเวลา เขาจะไม่เหลือชีวิตเลยด้วยซ้ำ
“นี่มัน...”
“ฉัน...ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? พริบตาเดียวจิ่งเถิงโดนเฉินเฟิงชกกระเด็นไปแล้ว?”
“ไม่แค่ชกกระเด็นเท่านั้นหรอก นายดูสภาพจิ่งเถิงสิ เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก!” “คิดไม่ถึงจริงๆว่า หลังจากทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดมาหลายกระบวนท่า แค่สองกระบวนท่าก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว น่าเหลือเชื่อจริงๆ!”
หลังจากจิ่งเถิงตกพื้น ทุกคนได้สติกลับมาจากการตกตะลึง พวกอัจฉริยะจากสำนักน้อยใหญ่บนเรือลำที่หนึ่งเริ่มต้นวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ละคนถอนหายใจไปตามๆกัน
“การประลองเป็นตายครั้งนี้ มาเหนือความคาดหมาย ทำให้คนคาดเดาไม่ถึงจริงๆ”
“นั่นสิ ตอนพวกเราคิดว่าพวกเขาแสดงความสามารถจริงที่แกร่งที่สุดออกมาแล้ว พวกเขากลับยังมีไม้ตายเหลืออยู่อีก แถมท่าไม้ตายยังน่ากลัวซะไม่มีอีกด้วย”
“ใช่ ฝีมือที่แท้จริงของพวกเขาเหมือนหลุมดำไร้จุดสิ้นสุดเลย ส่วนการประลองครั้งนี้เสมือนเป็นการประลองของสุดยอดอัจฉริยะคนรุ่นใหม่ในรอบหลายสิบปีเลยนะ!”
ในเวลาเดียวกัน เหล่าปรมาจารย์ด้านการต่อสู้บนเรือลำที่สองต่างกันถอนหายใจไม่หยุด
ในสายตาพวกเขา การปะทะกันครั้งสุดท้ายเมื่อกี้ของเฉินเฟิงกับจิ่งเถิงเหมือนเล่นรถไฟเหาะเลย ทั้งคู่เอาแต่วิ่งสลับไปมาระหว่างสวรรค์และนรกไม่หยุด ทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างน่าประหลาด
“ไม่คิดเลยจริงๆ เวลาสั้นๆแค่ไม่กี่วัน ฝีมือของเฉินเฟิงกลับพัฒนาขึ้นมาได้มากขนาดนี้”
ไม่เพียงแค่ปรมาจารย์ธรรมดาเท่านั้น แม้แต่เจ้าสำนักปากั้วอย่างจ้าวอู๋เต้ายังอดถอนหายใจออกมาไม่ได้เลย
“วิชาที่เขาใช้ตอนสุดท้ายเมื่อกี้อะไรน่ะ รู้สึกคุ้นเคยแต่ก็แปลกประหลาดมาก” จางเทียนซือเจ้าสำนักอู่ตังมีสีหน้าครุ่นคิด
“ดูไม่ออกว่าวิชาอะไร แต่แน่ใจได้อยู่อย่างคือ แกร่งมากในการต่อสู้จริง มีอานุภาพร้ายกาจมาก!” ปรมาจารย์คงเหมิงแสดงความคิดเห็นตัวเองออกมา
ก่วนหนานเทียนกับอู่จื่อโจวเองไม่ออกความเห็น พวกเขามีฐานะข้าราชการอยู่ ไม่สมควรจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรในเวลาแบบนี้ พวกเขาเลยหันไปสนใจสองพ่อลูกจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิง
พวกเขากังวลว่าสองพ่อลูกจิ่งหยุนเฟิงและจิ่งเซ่อเหมิงจะเข้ามาแทรกแซง!
และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น พวกเขาต้องรีบออกมายับยั้งเป็นคนแรก!
จากนั้น---ไม่ว่าจะเป็นจิ่งเซ่อเหมิงพ่อของจิ่งเถิง หรือจิ่งหยุนเฟิงที่บรรลุระดับมหาปรมาจารย์ด้านการต่อสู้แล้ว ต่างพากันงงเป็นไก่ตาแตก
ภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง พวกเขาเบิกตากว้าง จ้องมองจิ่งเถิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเขม็ง ประหนึ่งรูปปั้นแกะสลักสองรูปและมีสีหน้าเหลือเชื่อ!
ไม่อยากจะเชื่อหรอ?
ใช่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...