ลูกเขยมังกร นิยาย บท 722

บทที่722 ผู้ชมทั้งหมดประหลาดใจ

ดังนั้นในช่วงเวลาแบบนี้จะต้องไม่ประมาท และต้องปรับการทำงานของร่างกายด้วยวิธีการหายใจ จะสามารถปล่อยพลังได้ดีขึ้น ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะมีโอกาสพลิกแพลงข้อเสียเปรียบได้

ดังนั้นรอนจึงถอยกลับอย่างรุนแรง และต้องการซื้อเวลาให้ตัวเองฟื้นตัว ตราบใดที่ร่างกายฟื้นตัวมา ก็จะควบคุมสิทธิ์โจมตีได้อย่างแน่นอน

แต่เฉินเฟิงจะให้เขาเป็นไปตามที่ปรารถนาได้อย่างไร

“แกจะหนีได้เหรอ?”

เมื่อเห็นรอนถอยหนี เฉินเฟิงก็ตะโกนเสียงดัง รีบเข้าใกล้ และตรงไปที่หัวใจของรอน ด้วยแรงที่สง่าผ่าเผยพร้อมที่จะฆ่าทำลายไอ้สารเลวที่กำเริบเสิบสาน

“ฟ่อ!”

รอนสังเกตเห็นเงาของเฉินเฟิง และรู้สึกได้ถึงความตั้งใจในการฆ่าของคู่ต่อสู้ ความรู้สึกในตอนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งอันตรายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นการโจมตีด้วยกรงเล็บมังกรของเฉินเฟิง แต่เขาก็ไม่กล้าปล่อยให้อีกฝ่ายจับได้อีก

อย่างไรก็ตามรอนสามารถมาถึงตอนนี้ได้ ก็ไม่ใช่คนธรรมดา ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตนี้ แม้ว่าจะตกใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกใดๆ

เมื่อเห็นเขาค้ำพื้นด้วยเท้าเพียงข้างเดียว หมุนตัวคล้ายกับลูกข่างในช่วงเวลาที่เฉินเฟิงพุ่งมา ก็เตะเท้าผ่านไป เตะตวัดไปที่ด้านข้าง

ในตอนนี้รอนหมดหวัง นอกจากตอบโต้แล้วก็ไม่มีหนทางอื่น แม้ว่าลืมหายใจในร่างกายจะไม่คงที่ในขณะนี้ แต่ท่วงท่านี้กะทันหันเกินไป โดยไม่คาดคิด บางทีอาจมีผลที่แตกต่างกัน

เพียงแต่ว่าท่านี้กับผู้อื่นอาจเป็นประโยชน์ หากต้องการจะพูดถึงการเตะตวัดแล้ว ท่าหักแม่น้ำที่เฉินเฟิงสร้างขึ้นเองก็มีเตะตวัด กล่าวได้ว่าเฉินเฟิงฝึกฝนเตะตวัดจนถึงขั้นมีความชำนาญแล้วการใช้ท่านี้ตรงหน้าเขา เป็นการสอนจระเข้ว่ายน้ำจริงๆ

เมื่อเห็นรอนเตะเข้ามา เฉินเฟิงก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะหลบหลีกการโจมตี จากนั้นก่อนที่คู่ต่อสู้จะเก็บมันกลับไป เฉินเฟิงก็เปลี่ยนฝ่ามือเป็นท่ามีดสับ และฟันไปที่ข้อต่อของต้นขา

ท่ามีดสับนี้มีกำลังภายในของเฉินเฟิง ซึ่งมีพลังมาก อย่าว่าแต่ต้นขานี้เลย แม้แต่กระดานชนวนก็สามารถแยกออกได้

ท่ามีดสับนี้ฟันลงบนต้นขาของรอนโดยตรง และพลังงานภายในก็พลุ่งพล่านทะลุการป้องกันของรอน และต้นขาก็หักดังแกร๊ก

“อ๊ากกกก!!”

รอนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโอดโอยราวกับหมูที่ถูกเชือด ในตอนนี้เขาไม่สามารถปกปิดความหวาดกลัวในใจได้ พลังของเฉินเฟิงแข็งแกร่งเกินไป ลมหายใจของเขาอลหม่านอยู่แล้ว และในขณะนี้ถูกเฉินเฟิงฟันต้นขาของเขาหักอีก

สูญเสียต้นขาไปแล้ว นั่นหมายความว่าอย่างไร รอนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

เขาสูญเสียต้นขาและถูกขัดขวางการเคลื่อนไหว เขาจะไม่มีพลังในการต่อสู้อีกต่อไป ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่จะหลบเขาก็ทำไม่ได้ มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่ เขากลายเป็นปลาบนเขียง ที่ให้เฉินเฟิงฆ่าแกง

ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เฉินเฟิงจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร ในขณะที่รอนถูกรายล้อมไปด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากหัวเข่าที่หัก เฉินเฟิงก็ก้าวไปข้างหนึ่ง กำหมัดข้างหนึ่ง ต่อยหมัดออกไป และพุ่งตรงไปท้องของรอน

“ฟู่.....”

รอนเลือดพุ่งออกมาเต็มปาก อวัยวะภายในก็แตกเป็นเสี่ยงๆด้วยหมัดของเฉินเฟิง เนื่องจากความเฉื่อย ร่างกายของรอนจึงบินขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ และในตอนนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยหมอกโลหิต

“จบเห่ รอนจบเห่แน่!”

ในขณะนี้ในใจของผู้ชมทุกคนในสมานก็เกิดความคิดเช่นนี้เหมือนกัน

สูญเสียมือไปหนึ่งข้าง ขาข้างหนึ่งรอนไม่มีแม้แต่แรงตอบโต้กลับ และชะตากรรมของเขาก็ชัดเจนแล้ว

แม้ว่าเขาจะสามารถต่อสู้ได้ เขาในช่วงที่รุ่งเรืองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเฟิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงรูปร่างที่ไม่สมบูรณ์อย่างตอนนี้

“จบแล้วเหรอ?”

ร่างกายของรอนบินขึ้นอย่างอืดอาด หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดูเหมือนว่าจะสูญเสียพลัง และตกลงมาจากอากาศอย่างห้ามไม่ได้ แม้ว่าจะรู้สึกถึงอันตราย แต่รอนก็ไม่สามารถตอบสนองได้เลยในขณะนี้ และควบคุมร่างกายไม่ได้

“ผัวะ!”

เมื่อตอนที่ร่างกายของรอนกำลังจะสัมผัสกับพื้น เฉินเฟิงก็เคลื่อนไหว ทันใดนั้นเขาก็ยกเท้าซ้ายขึ้นแล้วเตะออกไป โดนที่ร่างกายของรอน เท้านี้มีพลังภายในของเฉินเฟิง และพลังงานภายในก็พุ่งเข้าสู่ภายในร่างกายของรอน ทำลายเนื้อเยื่อร่างกายของเขา และยังตัดขาดโอกาสรอดชีวิตสุดท้ายของเขาออกไป

รอนกระอักเลือดอีกครั้ง สิ้นสุดชีวิตลงอย่างสมบูรณ์ ตกลงมาจากท้องฟ้า พร้อมกับเสียงผัวะ พัดกระพือเป็นเศษฝุ่นผงคลี และตายอย่างน่าสังเวช

ในตอนท้ายของการจบการแข่งขัน รอนเสียชีวิตอย่างน่าสังเวช ตั้งแต่เริ่มต้นเขาก็ถูกเฉินเฟิงโจมตีอย่างต่อเนื่อง เฉินเฟิงโจมตีอย่างต่อเนื่องไม่ให้โอกาสเขาได้จู่โจมกลับ จนถึงเขาตายก็พลิกเกมการต่อสู้ไม่ได้

การแข่งขันจบลง แต่ไม่มีใครคิดว่าการแข่งขันจะจบลงด้วยวิธีนี้ และรอนก็จบชีวิตลงเช่นกัน เขาคาดไม่ถึงว่าชีวิตของเขาจะจบลงที่นั่น และคำประกาศก่อนหน้าของเขาก็กลายเป็นเรื่องตลก

“เยี่ยม!!!”

ในขณะนี้ผู้ชมกำลังแตกตื่น ทุกคนกำลังกรีดร้องลั่น นี่เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นที่สุดจนถึงตอนนี้

นี่เป็นการประลองเป็นตาย และเฉินเฟิงจัดการกับคู่ต่อสู้ด้วยข้อได้เปรียบอย่างท่วมท้น ผลกระทบของการมองเห็นฉากนี้ ทำให้ทุกคนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ราวกับเลือดที่พลุ่งพล่าน

เฉินเฟิงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมด การต่อสู้ครั้งก่อนไม่มีอะไรมากไปกว่าการถ่อมตัวเท่านั้นเอง แต่การถ่อมตัวไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอ

“ตอนแรกคิดว่าทั้งสองคนจะมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากัน แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นการแข่งขันที่ต้องชะงัก!”

“ใช่แล้ว รอนไม่มีโอกาสตอบโต้ตอบกลับเลย ถูกเฉินเฟิงประเทศหวาจับห้อยแล้วโจมตี!”

“ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง นี่เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับการกระทำในอดีตของเขา!”

ในกลุ่มผู้ชม ทุกคนอดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเสียงกระซิบกระซาบ

การแข่งขันในวันนี้ มีสองครั้งเป็นการต่อสู้ของเฉินเฟิง ครั้งที่หนึ่งต่อสู้กับหลี่ชางซีจากประเทศกาวลี่ จากนั้นก็ถูกรอนโกรธแค้น เซ็นสัญญาประลองเป็นตาย จากนั้นก็ฆ่ารอนให้ตาย ผลการต่อสู้เป็นที่น่าประทับใจของผู้คน ทำให้ทุกคนประหลาดใจ

“ดูเหมือนว่าเฉินเฟิงไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังเต็มไปด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้มากด้วย!”

“ใช่แล้ว ถ้าบอกว่าหลี่ชางซีประมาทในการต่อสู้ครั้งก่อน ไม่ได้เตรียมพร้อมเฉินเฟิงถึงได้ชัยชนะ งั้นครั้งนี้ถือเป็นการประลองต่อสู้อย่างแท้จริง ไม่ควรประมาทเฉินเฟิงคนนี้เลย!”

ผู้ชมทั่วไปกำลังมองไปที่สิ่งของที่ผิวเผิน และสถานที่นี้ไม่ขาดแคลนจอมยุทธ์ที่ทรงพลัง การต่อสู้ระหว่างเฉินเฟิงกับรอนสำหรับพวกเขาแล้ว เห็นได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนมาก ในเวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง

“อย่าพูดเลย เฉินเฟิงเปิดตัวได้โหดเหี้ยม ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจริงๆ!”

ศีลสามที่อยู่ในบริเวณของผู้ชมมองไปที่ด้านหลังของเฉินเฟิง อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ

“เป็นเพราะไอ้เหี้ยรอนนั้น ที่ทำให้เฉินเฟิงโกรธ ไม่อย่างนั้นจะมีจุดจบแบบนี้ได้อย่างไร!”

จียุ่นเห็นด้วย ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าใจเฉินเฟิงผิด เรียกได้ว่าไม่ค่อยพอใจเฉินเฟิง แต่พอได้เห็นเฉินเฟิงฆ่าฟันฉู่เหอ และหลังจากที่แสดงความแข็งแกร่งที่ทรงพลังออกมา จึงตัดสินใจเป็นเพื่อนกับเฉินเฟิง

จียุ่นไม่ใช่คนโง่ สำหรับผู้แข็งแกร่งอย่างเฉินเฟิง อนาคตไร้ขีดจำกัด และครั้งนี้พวกเขามาที่วาติกันด้วยกันเพื่อต่อสู้ในนามของประเทศหวา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะคลี่คลายความสัมพันธ์ลง

ในตอนนี้มีเพียงเทียนอิงเท่านั้นที่ไม่ได้พูด ดวงตาวูบไหว ความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งกว่าศีลสาม และจียุ่นเล็กน้อย เขามองเห็นพลังของเฉินเฟิง มีจิตวิญญาณการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า

เรียกได้ว่าเขาก็มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นี้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับเฉินเฟิงยังขาดการตัดสินใจที่เด็ดขาดและความเพียรพยายาม

“เฉินเฟิงผู้นี้แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ รอนคนนั้นก้าวผ่านหั้วจิ้งขั้นกลางไปแล้วผู้แข็งแกร่ง คาดไม่ถึงจะตายด้วยน้ำมือของเขาเช่นนี้!”

ในขณะนี้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ทอดถอนหายใจให้กับความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง

ในขณะนี้ความสนใจของผู้ชมกำลังจดจ่ออยู่กับบนตัวของเฉินเฟิง และเสียงในกลุ่มผู้ชมก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง

แน่นอนว่าบางคนมีความสุขและบางคนมีกังวล ในขณะนี้จั่วจู้ผู้ชำนาญด้านศิลปะการต่อสู้จากญี่ปุ่น และหงหยี้ผู้สืบทอดของหงเทียนป้าจากสำนักหงเหมิน ก็รู้สึกไม่ดีในขณะนี้