บทที่724 การต่อสู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงมาครั้งนี้ไม่ได้สนใจสิ่งที่เรียกว่าแชมป์ศิลปะการต่อสู้ จุดประสงค์เดียวของเขาคือจัดการศัตรูที่รุมโจมตีเย่หนานเทียนในตอนนั้น แล้วฆ่าทีละคน
ผู้ชมต่างตกตะลึงกับจุดประสงค์ของเฉินเฟิง แต่ผู้ที่แข็งแกร่งด้านศิลปะการต่อสู้โดยรอบไม่คาดคิดว่าเฉินเฟิงจะกล้าเผชิญหน้ากับโซโล
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าตอนนั้นพวกเขาผนึกกำลังกันเพื่อรุมโจมตีเย่หนานเทียน และในที่สุดก็ปล่อยให้เย่หนานเทียนพิการไปตลอดชีวิต
แม้ว่าตอนนั้นความแข็งแกร่งของโซโลจะไม่ดีกว่าเย่หนานเทียน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียง
ไม่ต้องพูดถึงออกัสตัสตอนนี้ โซโลหลายคนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งของระดับโลกแล้ว
ช่างเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลยแม้แต่องค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกอยากจะลงมือกับพวกเขา ก็ต้องคิดทบทวน หากไม่ระวังก็จะต้องสูญเสียอย่างหนัก
และตอนนี้เฉินเฟิงพูดต่อหน้าผู้คนจำนวนมากมายว่าจะฆ่าออกัสตัส ระดับความแข็งแรงขอโซโล นี่เป็นข่าวที่ดังมากขนาดไหน
“อะ.....อะไรนะ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
โซโลนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง และอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเฉินเฟิง ในความคิดของเขานี่เป็นเรื่องตลกที่ตลกที่สุดในโลกจริงๆ
ไม่ใช่แค่โซโลที่ดูถูกเหยียดหยาม แม้แต่กงปุ่นเหย่อู่ของญี่ปุ่นที่อยู่ห่างไกลออกไป และหงเทียนป้าของสำนักหงเหมินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาในตอนนี้ ในความคิดของพวกเขาเฉินเฟิงรนหาที่ตายจริงๆ หิ่งห้อยหรือจะแข่งกับแสงจันทร์
“เฉินเฟิงนะเฉินเฟิง ตอนนี้ฉันไม่พูดก็ไม่ได้ นายรนหาที่ตายจริงๆ ทางที่ดีตอนนี้นายควรภาวนาให้ตายให้ระหว่างการแข่งขัน ไม่อย่างนั้นตกมาอยู่ในเงื้อมมือของฉัน นายจะตายทั้งเป็น!”
เฉินเฟิงไม่ได้สนใจในคำพูดของโซโลเลย ในความคิดของเขามันไม่มีอะไรมากไปกว่ามดตัวใหญ่หนึ่งตัวเท่านั้นเอง ท้ายที่สุดแล้วมดก็คือมดที่ไม่สามารถข้ามคลื่นลูกใหญ่ได้
ที่สำคัญเมื่อกี้โซโลหมายถึง เฉินเฟิงจะสามารถอยู่รอดถึงตอนจบของการแข่งขันได้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
“โซโล นายไม่ต้องเป็นห่วง นายไม่ต้องหนักใจกับมดแถวนี้ ผู้สืบทอดของฉันกำจัดเขาได้อย่างแน่นอน!”
ในเวลานี้เสียงดังกระจายไปทั่วสถานที่ และทุกคนจ้องมองไปที่เจ้าของเสียง ซึ่งคือหงเทียนป้าของสำนักหงเหมิน
“จั่วจู้ผู้ชำนาญด้านศิลปะการต่อสู้ของเรา มีความสุขมากที่ได้ฆ่าเฉินเฟิง แต่เมื่อมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าแล้ว ให้นายชิงนำหน้าไปก่อน!”
ก่อนที่คำพูดของหงเทียนป้าจะสิ้นสุดลง เสินอิ่นกงปุ่นเหย่อู่ที่มาจากญี่ปุ่นเอ่ยปากพูด ในความคิดของเขาเฉินเฟิงนั้นตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ความแตกต่างอยู่ที่ว่าใครเป็นคนลงมือ
“ดีมาก หวังว่าผู้สืบทอดของนายจะไม่เป็นเหมือนรอน เริ่มต้นท่าทางสง่างาม สุดท้ายกลายเป็นสุนัขที่ถูกตีจนตาย ถึงตอนนั้นอย่ายอมแพ้ล่ะ!”
เมื่อต้องเผชิญกับผู้คนไม่กี่คนที่กระหายความท้าทาย เฉินเฟิงดูถูกผู้สืบทอดในคำพูดของพวกเขาอย่างเปิดเผย
เฉินเฟิงได้ตัดสินใจแล้ว หงหยี้กับจั่วจู้คือคนที่เขาต้องฆ่า เพียงแต่เขากลัวว่าทั้งสองคนจะล่าถอยไปกลางคัน ถ้าหากก่อนการแข่งขันให้พวกเขาสองคนเข้าสู่การประลองเป็นตาย เซ็นสัญญาประลองเป็นตายเป็นการดีที่สุด
“เฉินเฟิง พรุ่งนี้ขึ้นเวทีประลอง ฉันจะคร่าชีวิตของนาย!”
คำพูดของหงหยี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ แม้ว่าฉากเมื่อกี้ที่เฉินเฟิงฆ่ารอนจะส่งผลกระทบต่อเขาบ้าง แต่หงเทียนป้าบอกว่าตัวเองสามารถจัดการกับเฉินเฟิงได้ งั้นหงเทียนป้าต้องคิดว่าตัวเองมีความสามารถนี้อย่างแน่นอน เมื่อนึกถึงสิ่งนี้จุดประกายความหวังของหงหยี้ขึ้นอีกครั้ง
“หึ! ก็แค่กลุ่มคนไม่เอาไหนเอง ในเมื่ออยากจะประลอง งั้นก็มาตอนนี้เลย ฆ่าเศษสวะอย่างพวกแกเป็นเรื่องง่ายๆ......พวกแกสองคนใครขึ้นมาก่อนล่ะ?”
เสียงของเฉินเฟิงราวกับฟ้าผ่าระเบิดลงบนพื้น ตามด้วยความอาฆาตรุนแรงที่จากร่างกายของเขา และในแววตาดูเหมือนจะมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ เขาไม่ต้องการรอเขา ตอนนี้เขาต้องการที่จะฆ่าไอ้เหี้ยเศษสวะกลุ่มนี้
ดวงอาทิตย์สาดส่องใส่บนตัวเฉินเฟิง เพิ่มความรู้สึกที่แตกต่างให้กับเขา
ในตอนนี้คำพูดของเฉินเฟิงกลายเป็นเสียงเดียวในสนาม ซึ่งครอบคลุมทุกสิ่ง ดังก้องไปทั่วทุกสารทิศ ทุกคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ
“เยี่ยม!!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...