บทที่726 ความโกรธ
เขาเป็นนักดาบ แม้ว่าเขาจะไม่มีดาบแต่ก็ยังใช้แขนแทน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม ด้วยท่วงท่าครั้งสุดท้ายของการชนะการแข่งขัน ก้าวขึ้นสู่สิบหกอันดับแรก
เทียนอิงลากร่างที่บาดเจ็บ กลับไปที่บริเวณผู้ชม ศีลสามรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อพยุงเขาไว้
“เพื่อนเทียนอิง นายสุดยอดจริงๆ ยินดีด้วย!”
ศีลสามยอดไม่ได้ที่จะชม ท่วงท่าสุดท้ายการสับภูเขาเทียนนั้น ทรงพลังมาก
“เพื่อนเทียนอิง ยินดีด้วย!”
เมื่อตอนที่จียุ่นพูดก็ก้าวไปข้างหน้าและช่วยพยุงเทียนอิงนั่งลงมา
“เป็นอย่างไงบ้าง? ต้องรักษามั้ย?”
เฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่อาการบาดเจ็บของเทียนอิง และถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร รอศีลสามแข่งขันจบลงแล้ว ค่อยไปก็ยังไม่สาย!”
เทียนอิงส่ายหัว บอกว่าไม่เป็นไร เขาได้รับบาดเจ็บไม่ค่อยรุนแรง เป็นเพียงการใช้พลังงานและร่างกายและพลังงานมากเกินไปในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งทำให้เขาหมดแรง
รอบนี้เขาชนะ รอบหน้าเขาต้องต่อสู้กับจั่วจู้ ในรอบที่แล้วจั่วจู้ฆ่าคู่ต่อสู้
สถานการณ์ค่อนข้างบีบบังคับ เทียนอิงต้องใช้เวลาที่เร็วที่สุดในการฟื้นฟูความแข็งแกร่ง เพื่อที่เขาจะสามารถต่อสู้กับจั่วจู้ได้ ที่สำคัญการแข่งขันของศีลสามยังไม่เริ่มขึ้น เขาจะไปได้อย่างไร
เมื่อได้ยินคำพูดของเทียนอิง เฉินเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้กำชับศีลสามอีก
ในอีกด้านหนึ่ง หงเทียนป้ากำชับหงหยี้ว่า: “จำไว้ว่าคู่ต่อสู้ของนายคือเฉินเฟิง เรียนรู้จากอดีตได้แต่อย่าให้ซ้ำรอยเดิม ไม่ควรประมาท”
“ท่านไม่ต้องห่วงครับ อาจารย์!”
แววตาของหงหยี้แสดงออกถึงความอาฆาต ค่อยๆพูดว่า: “ความผิดพลาดของซุปเปอร์ปาข่าจากอียิปต์ ผมจะทำผิดได้อย่างไร พระในประเทศหวาคนนั้น ผมจะกระหน่ำตีเขาอย่างแน่นอน เพื่อล้างความอัปยศตอนนั้นของอาจารย์!”หลังจากที่เขาเอาชนะศีลสามแล้วค่อยเลื่อนขั้นไปต่อสู้กับเฉินเฟิง โดยใช้หัวของคู่ต่อสู้สร้างชื่อให้ตัวเอง
การแข่งขันบนเวทีประลองยังไม่เริ่มขึ้น พลังของหงหยี้ไต่ขึ้นไปสู่ระดับที่น่ากลัวแล้ว ในขณะนี้เทพเจ้าแห่งสงครามธรรมดาที่กลับมาจากสนามรบ จิตอาฆาตแค้นแพร่กระจายไปทั่ว
เมื่อศีลสามปรากฏขึ้น สายตาของเขาก็มองไปที่คู่ต่อสู้ทันที ลมหายใจของเขาถูกล็อกไว้กับศีลสาม ในเวลานี้หงหยี้มีเพียงความคิดเดียว จะเอาชนะคู่ต่อสู้หรือฆ่าเขา
“นายคือพระศีลสามของประเทศหวาเหรอ? จุดประสงค์ของฉันคือการล้างความอับอายให้กับอาจารย์ของฉัน การแข่งขันยังไม่เริ่ม ถ้านายคุกเข่าลงร้องขอความเมตตากับฉัน ถ้าฉันใจอ่อนสามารถไว้ชีวิตสุนัขอย่างนายได้!”
คำพูดของหงหยี้นั้นหยิ่งผยองยิ่งกว่าพลังของเขา พูดได้ว่าเขาหยิ่งผยองอย่างมากในขณะนี้
สำหรับหงหยี้แล้ว จุดประสงค์ของการมาครั้งนี้คือเพื่อความอับอายของอาจารย์ ดังนั้นหากศีลสามของประเทศหวายอมแพ้เอง จะมีผลดีกว่าการฆ่าคู่ต่อสู้
“ฉันไม่ค่อยสนใจที่เรียกว่าการแข่งขันนี้ แต่ถ้านายต้องการให้ฉันสร้างความอับอายให้กับสถาบันศิลปะการต่อสู้ของจีน งั้นนายก็คิดผิดแล้ว และนายเป็นศัตรูของเฉินเฟิง ฉันไม่มีทางให้นายสมหวัง!”
แม้ว่าศีลสามจะเป็นศิษย์ของทางพุทธแต่งตัวเอ้อระเหยลอยชาย แต่ไม่ค่อยโกรธ เมื่อเห็นท่าทางเยาะเย้ยของหงหยี้แล้ว ก็โกรธมาก การแข่งขันครั้งนี้เขาจะแข่งอย่างจริงจัง
“ไอ้เหี้ย งั้นแกก็ไปตายซะ!”
ศีลสามหรี่ตาทั้งสองข้างลง แววตาแสดงออกถึงความโหด
“ต่อไปเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ.....เริ่มได้!”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองยังไม่ทันได้เริ่มก็ทะเลาะกัน ผู้ตัดสินก็พูดไม่ออกเล็กน้อย เพียงแค่ประกาศเริ่มแข่งขัน จะได้ไม่ต้องมีประลองเป็นตายอะไรอีก
“ไปตายซะเถอะ!”
หงหยี้ตะโกนเสียงดัง ความเร็วก็พุ่งขึ้นถึงขีดสุดในชั่วอึดใจ ทิ้งเงาไว้ที่เดิม
เขาตัดสินใจฆ่าศีลสามด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกคนประหลาดใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...