บทที่ 792 หลัวเห้าเทียนมาด้วยตนเอง
หลัวเห้าเทียนในชุดสีขาวเดินมายังฝูงชน
โถงนั่งรอด้านนอกสนามบิน อู่จื่อโจวรออยู่ตรงนั้นมานานแล้ว ที่รออยู่ด้านข้าง มีเลขาโมดริชและคูเรียแซคขององค์การศิลปะการต่อสู้แห่งโลก พวกเขาติดตามอู่จื่อโจวมารอหลัวเห้าเทียนที่สนามบินตั้งแต่เช้า
โมดริชเป็นตัวแทนขององค์การศิลปะการต่อสู้แห่งโลก ส่วนแซคเป็นตัวแทนของคูเรีย
"ประธานหลัว" อู่จื่อโจวและโมดริชกล่าวทักทายหลัวเห้าเทียนขึ้นพร้อมกัน
"หลัวเห้าเทียนที่เคารพ ยินดีต้อนรับสู่วาติกันครับ"
ทางด้านแซคทำความเคารพหลัวเห้าเทียนตามธรรมเนียมของคูเรียในการต้อนรับแขก
"เลขาโมดริช แซคอาร์กบิชอบ ไม่ได้เจอกันนาน"
หลัวเห้าเทียนประสานมือทั้งสองข้างขึ้น ยิ้มตอบรับพวกเขา
บรรยากาศดูกลมกลืนสามัคคีกันมาก
"หลัวเห้าเทียนที่เคารพ ห่างจากการพบเจอท่านเมื่อคราวที่แล้ว ตอนนี้ความสามารถของท่านมากขึ้นอีกหนึ่งระดับ คิดว่าท่านคงสัมผัสถึงแดนยากลำบากในตำนานแล้วรึเปล่าครับ?!” แซคหรี่ตาลงพูด
เลขาโมดริชที่อยู่ด้านข้างก็มองหลัวเห้าเทียนอย่างพิจารณา
โมดริชรู้สึกประหลาดใจ หลัวเห้าเทียนที่อายุเกินครึ่งร้อยแต่ยังคงมีผมดำขลิบ ผิวเนียนเรียบแดงระเรื่อ เหมือนไข่ต้มปอกเปลือก
ดวงตาทั้งสองข้างมีชีวิตชีวา มองด้วยความจริงจัง เหมือนจะมีประกายไฟระยิบระยับ ราวกับว่าวันเวลาไม่สามารถทำอะไรกับหลัวเห้าเทียนได้
สิ่งที่ทำให้โมดริชตกใจที่สุดก็คือเลือดลมที่พลุ่งพล่านของหลัวเห้าเทียน เหมือนกับแม่น้ำหวงเหอของหวาเซี่ยที่รินไหล มีชีวิตชีวาไม่สิ้นสุด คลื่นระลอกหนึ่งแล้วระลอกหนึ่งเล่า"
"แดนเทพ เป็นแดนในตำนานที่ถูกพูดถึง มีอยู่ในบันทึกโบราณที่คนโบราณเขียนเอาไว้หรือไม่ก็ในหนังสือสองสามเล่ม คนรุ่นหลังเพียงแค่เคยอ่านดูเท่านั้น จึงได้รู้ว่ามีแดนนี้ แต่ยังคงไม่มีเส้นทางที่ถูกต้อง ทำให้คนเห็นภาพรวม เปิดเผยความลับนี้"
หลัวเห้าเทียนส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ เมื่อหลายปีก่อน กำลังภายในของเขาฝึกซ้อมจนบรรลุหั้วจิ้งชั้นสูงสุดตั้งแต่เมื่อนานมาแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่ามีแดนเทพ แต่ก็ไม่สามารถข้ามผ่านจุดนี้ไปได้
ไม่เพียงแต่หลัวเห้าเทียน เบื้องหน้ายอดฝีมือระดับสูงสุดทั่วโลก ล้วนมีแดนพลังที่มนุษย์ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ แดนที่ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้นั้นขวางกั้นการเดินไปข้างหน้าของพวกเขา
หลายปีที่ผ่านมานี้ ยังคงไม่มีใครสามารถพิชิตแดนนี้ได้
ยี่สิบนาทีให้หลัง หลัวเห้าเทียนเดินตามอู่จื่อโจว โมดริชและแซคมาถึงที่จอดรถ รถยนต์เพื่อการค้าจอดรอไว้ที่นี่นานแล้ว
"ท่านอู่ ตอนนี้เฉินเฟิงอยู่ที่โรงแรมวาติกันหรือเปล่า?" หลังจากหลัวเห้าเทียนขึ้นไปบนรถ เอ่ยถามอู่จื่อโจว
โมดริชและแซคที่กำลังขึ้นรถเหมือนกันหยุดชะงัก ตามด้วยดึงสติกลับมา
หลัวเห้าเทียนไปดูชายหนุ่มเฉินเฟิงคนนั้น
"ครับ ประธานหลัว ตอนนี้เฉินเฟิงอยู่ที่โรงแรมวาติกันครับ" อู่จื่อโจวตอบ
"เลขาโมดริช รบกวนนายส่งฉันไปที่โรงแรมวาติกันได้ไหม?" หลัวเห้าเทียนบอกกับแซคของคูเรีย:“แซค อนุญาตให้ฉันไปโรงแรมวาติกันสักรอบหนึ่ง เพราะฉันมีเรื่องต้องบอกกับเฉินเฟิง รอให้ฉันบอกกับเขาเรียบร้อยแล้ว เขาตามนายไปคูเรีย เยี่ยมเยียนพระสันตะปาปา"
แซคที่นั่งอยู่ข้างโมดริซพยักหน้า เพื่อสื่อว่าไม่มีปัญหา
โมดริชหันกลับมาพูด:“ไม่มีปัญหาครับ ประธานหลัว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...