เฉินเฟิงไม่รู้จะตอบยังไงดี ระวังที่กำลังลังเล ผู้หญิงก็ผลักเขาออก แล้วมุ่งเดินเข้าไปยังห้อง
พอเธอเห็นชิงจือที่นอนอยู่ตรงนั้น ก็รีบร้อนเดินเข้าไปตรวจสอบทันที
พอรู้ว่าชิงจือนอนไม่ได้สติ จึงหันไปซักถามเฉินเฟิงว่า
“นางเป็นอะไร เจ้าเป็นคนทำร้ายนางงั้นเหรอ?”
เฉินเฟิงนส่ายหัวปฏิเสธ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ
“ไม่ใช่เจ้า ที่นี่มีแค่เจ้าคนเดียว ตกลงเจ้าทำอะไรนางกันแน่?”
ผู้หญิงซักถามอีกครั้ง
ชายชราสองคนที่อยู่ข้างหลังเฉินเฟิงเองก็กำลังเตรียมที่จะจัดการกับเฉินเฟิง
ส่วนเฉินเฟิงไม่กล้าขยับอะไรมาก เขาไม่แน่ใจความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย แต่ทั้งสามคนน่าจะเป็นคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้
“ฉันเข้าใจเหตุผลที่คุณสงสัยในตัวฉัน แต่ฉันคงได้แต่บอกว่าฉันไม่รู้จริงๆ เธอถูกคนกลุ่มนึงลอบทำร้ายจนอมีสภาพอย่างตอนนี้ ถูกพวกเขาแทงที่หัวใจ แต่ยังไม่ตาย ฉันพยายามรักษาเธอ แต่ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติ เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้”
หญิงงามในชุดพระราชวังจ้องมองเฉินเฟิงด้วยความจริงจัง เวลาเดียวกันก็สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงมุมห้อง ชี้ไปยังเด็กผู้หญิงแล้วถามว่า
“แล้วยัยเด็กนี้เป็นใครกัน?”
เฉินเฟิงมองไปยังเด็กผู้หญิง เขาไม่รู้จะแนะนำยังไงดี
“ชิงจือรู้จักเธอ”
คิดไปคิดมา นี่อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว
อย่างที่คิด พอได้ยินชื่อของชิงจือ ความระมัดระวังที่หญิงงามมีต่อเด็กผู้หญิงก็น้อยลงไปเล็กน้อย
แต่สำหรับเฉินเฟิง เธอก็ยังเหมือนเดิม
“อย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้ากำลังโกหกข้า ไม่งั้น ข้าจะให้เจ้าทรมานยิ่งกว่าตาย”
เหมือนกับชิงจือที่ข่มขู่เฉินเฟิง ทั้งสองต่างก็มีสายตาเดียวกัน
พอพูดจบ หญิงงามก็ไม่สนใจเฉินเฟิงอีก แต่กลับตรวจสอบบาดแผลของชิงจืออย่างจริงจัง
ความจริงพอได้รับการรักษามาหลายวัน ชิงจือก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก อย่างน้อยๆชีพจรของเธอก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มาก
แต่หญิงงามก็ยังไม่ไว้ใจ เธอเอาสมุนไพรที่อยู่บนบาดแผลของชิงจือทิ้งทั้งหมด จากนั้นก็เอายาผงที่ตัวเองพกติดตัวออกมาหนึ่งขวด
ค่อยๆเอายาผงโรยไปยังบาดแผลที่เริ่มมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ แล้วพันแผลใหม่ ถึงดูเหมือนวางใจลง
พอรอจนหญิงงามในชุดพระราชวังทำทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็สั่งให้ชายชราทั้งสองไปหาเปลหามมา ให้ทั้งสองคนยกชิงจือเข้าไปวางบนเปลหาม หญิงงามถึงหันไปพูดกับเฉินเฟิงว่า
“ที่นี่ไม่ต้องการเจ้าแล้ว เจ้ามาจากไหนก็กลับไปที่นั่น”
เฉินเฟิงเงียบไม่รู้จะพูดยังไงดี ถึงแม้ยังไม่รู้ว่าหญิงงามกับชิงจือมีความสัมพันธ์ยังไง แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกว่า พวกเขาจะทำอะไรกับชิงจือ
ส่วนชิงจือเองก็จะได้รับการดูแลที่ดีกว่าเกิม เขาเองก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไร แต่เด็กผู้หญิงคนนั้น เขาหันไปมองเธอ
หญิงงามมองความคิดของเฉินเฟิงออก เธอจึงพูดว่า
“ในเมื่อชิงจือรู้จักเด็กผู้หญิงคนนี้ งั้นข้าจะพานางไปด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
เฉินเฟิงก้มหน้าแล้วใช้ความคิด ระหว่างเด็กผู้หญิงกับชิงจือจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแน่ และพอชิงจือตื่นขึ้นมา ก็คงอยากจะเจอเด็กผู้หญิงเหมือนกัน เพราะงั้นการตัดสินใจนี้เขาเองก็ไม่รู้สึกติดขัดอะไร
“งั้นก็ได้ พวกคุณดูแลเธอดีๆล่ะ บางทีความทรงจำของเธออาจจะดูสับสนเล็กน้อย เพราะงั้น......”
“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”
น้ำเสียงของหญิงงามยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา เป็นความเย็นชาที่ไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น
เฉินเฟิงมองเด็กผู้หญิงเป็นครั้งสุดท้าย คงถึงเวลาที่ต้องไปแล้ว
แต่พอเขาหันหลัง เด็กผู้หญิงก็รู้ความหมายที่ทั้งสองคนคุยกัน เขาลุกขึ้นมาจากมุมห้อง แล้ววิ่งไปหาเฉินเฟิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...